ไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา เวียดนาม กลายเป็นประเทศที่มีความเจริญเติบโตรวดเร็วอีกแห่งหนึ่งของโลก โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลกให้ไปเยือนเวียดนามอย่างต่อเนื่อง พบว่ามีคนไทยไปเที่ยวยังเวียดนามสูงขึ้น เนื่องมาจากการคมนาคมที่สะดวกระหว่างชายแดนไทย-ลาว-เวียดนาม นั้นเอง และวันนี้ Travel MThai ขอพาสมาชิกมิตรรักไปยังสถานที่เที่ยวทางตอนเหนือของเวียดนาม ที่ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากนักในหมู่คนไทย ได้ชื่อว่า “สวิสเซอร์แลนด์แห่งเวียดนาม” กันที่เมือง ซาปา ครับ
ซาปา (Sa Pa) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศเวียดนาม ในเขตจังหวัดลาวไค ใกล้กับชายแดนจีน ภูมิประเทศตั้งอยู่บนระดับความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 1,650 เมตร จึงมีอากาศหนาวเย็นตลอดปี ทำให้เพาะปลูกผักผลไม้ได้ดี มี ตลาดบั๊กห่า ที่ขึ้นชื่อของเวียดนามเหนือ เป็นศูนย์รวมของกินของใช้ของชาวเมืองภูมิภาคนี้ ปัจจุบันซาปามีประชากรอาศัยอยู่ราว 37,000 คน นับเป็นดินแดนแห่งดอย ที่มีความหลากหลายของชาติพันธุ์มากที่สุดในประเทศเวียดนาม
ซาปา เมืองเล็กๆ แห่งนี้เริ่มต้นเป็นเมืองแห่งการพักผ่อน เมื่อฝรั่งเศสซึ่งปกครองเวียดนามอยู่ในขณะนั้น ได้มาสร้างสถานีบนภูเขาขึ้นในปี พ.ศ.2465 จากนั้น จึงเริ่มมีชาวต่างชาติซึงอยู่ในฮานอย มาพักผ่อนในช่วงวันหยุดเป็นประจำ เพราะอากาศดีและเงียบสงบ จนเมื่อนักเดินทางได้รับข่าวและมาเห็นถึงบรรยากาศจริงๆ รวมไปถึงเหล่านักเดินทางจากทั่วโลกก็ได้รับสารเหล่านี้เช่นกัน นั่นจึงทำให้ปัจจุบันที่นี่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ที่สำคัญนอกจากบรรยากาศแล้ว บรรดาชาวเขาที่อยู่บริเวณนี้ก็น่าสนใจไปเยี่ยมชมมากเช่นกัน พื้นที่ ซาปา เต็มไปด้วยนาขั้นบันไดที่มากมายท่ามกลางลาดไหล่เขาที่ทอดตัวอย่างมีเสน่ห์ หรือถ้าชอบเดินป่าก็มียอดเขา ฟานสีปัน ให้พิชิตบนความสูง 3,143 เมตร จากระดับน้ำทะเล ซึ่งสูงสุดในละแวกอินโดจีน
บริเวณตัวเมือง ซาปา เริ่มต้นเริงร่ากันตั้งแต่เช้าตรู่ เพราะชาวเขาในหมู่บ้านห่างไกล เดินออกมาหาจับจ่ายใช้สอยกันตั้งแต่เพิ่งเริ่มสว่าง นั่นทำให้ตลาดค่อนข้างคึกคักไปด้วยผู้คน ที่ยังคงแต่งกายประจำเผ่าแบบเต็มยศออกมา ซึ่งในตลาด ซาปา จะมีอยู่ด้วยกัน 2 ชั้น ชั้นล่างแบ่งเป็นของสดจำพวกปลา เนื้อ หมู อยู่ทางด้านซ้ายมือ ตรงกลางเป็นพวกร้านขายอาหารมีก๋วยเตี๋ยว ข้าวเกรียบปากหม้อ อาหารตามสั่ง ทั้งหมดเป็นสไตล์เวียดนาม ซึ่งก็น่าลองลิ้มชิมรสดู ถัดออกไปเป็นตลาดผัก ผลไม้ ที่มีมากมาย ผลไม้บางส่วนก็นำเข้ามาจากจีน ถัดไปเป็นร้านจำหน่ายเครื่องแต่งกาย รองเท้า ผ้า ซึ่งมีหลากหลายสไตล์คุณภาพพอประมาณ ชั้นสองก็เป็นปหล่งรวมเสื้อผ้าล้วนๆ แต่อีกฝั่งแบ่งไว้เฉพาะของแฮนเมด จากชาวเขา ซึ่งมีทั้งตัดเย็บแล้ว ผ้าเป็นผืน กระเป๋าของที่ระลึก และอีกมากมายให้เลือกซื้อหา ราคาก็ต่อรองได้ ส่วนใหญ่พอรับได้ ผ้าที่นี่สีพื้นจะเน้นออกไปทางสีเข้มๆ ทั้งสิ้น แต่จะมีลายปักและประดับตกแต่งด้วยสิ่งต่างๆ สีสดใส
จากตลาดหากเดินไปตามถนนลงไปด้านล่างสองฝั่งถนน จะมีร้านอาหาร เกตส์เฮาสท์ ร้านจำหน่ายของที่ระลึก เอเย่นทัวร์ ไปตลอดทาง หากต้องการเห็นทิวทัศน์ของเทือกเขา ฟานสีปัน ก็เดินไปทางด้านนอกไม่กี่ร้อยเมตร จะมีพื้นที่โล่งๆ หรือจะนั่งรับประทานอาหาร ดื่มกาแฟ เพื่อชมวิวก็มีหลายร้านให้เลือก ในบริเวณรอบตัวเมือง ซาปา ซึ่งสามารถเดินไปได้ จากโบสถ์คริสต์กลางเมือง เดินเลียบด้านข้างไปยังอีกแหล่งท่องเที่ยว ก็คือเดินเท้าขึ้นไปยังภูเขาฮามรองซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวของเอกชน อัตราค่าเข้าชม 15,000 ด่อง มีจุดชมวิวสำหรับชมเมือง ซาปา ได้เกือบรอบด้าน โดยทางสวนได้จัดเส้นทางไว้อย่างดีและมีจุดเที่ยวชม 11 จุดด้วยกัน ก็ขึ้นไปตามทางปูนอย่างดี ซึ่งจะเข้าสู่บริเวณสวนกล้วยไม้ ที่ได้นำเอากล้วยไม้มาปลูกเลี้ยงเลียนแบบธรรมชาติไว้เกือบ 200 ชนิด ทางด้านขวาสุดของสวนมีจุดชมวิวที่เห็นเมือง ซาปา ในเวลาเช้าอากาศดีๆ สามารถมองเห็นทะเลหมอก ซึ่งคลุม ซาปา ได้จากจุดนี้ ขึ้นไปด้านบนก็มีสวนดอกไม้ จุดชมการแสดงพื้นเมือง และขึ้นไปจุดสูงสุดมองเห็นซาปาอีกด้าน การเดินเที่ยวบนภูเขาฮามรอง ใช้เวลาประมาณ 1 – 1.30 ชั่วโมง ช่วงกลางคืนก็มีอีกบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ เพราะจะมีแม่ค้านำข้าวโพด เกาลัด มัน มาปิ้งกันร้อนๆ ไว้รอบริการ โดยมีม้านั่งเตี้ยไห้นั่งรับไออุ่น ส่วนใครชอบอ้อยควั่นก็มีให้เลือกในอัตราทุกอย่าง 2,000 ด่อง มีอยู่สองจุดใหญ่คือหน้าโบสถ์คริสต์กับตลาดใหม่อยู่เยื้องกัน
สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองซาปา
หมู่บ้านกัตกัต (Cat Cat Village) หมู่บ้านแห่งนี้อยู่ห่างจากเมืองซาปา 3 กิโลเมตร
หมู่บ้านกัตกัต เป็นหมู่บ้านเก่าแก่ของชาวเผ่าม้งซึ่งอพยพมาจากประเทศจีน มีเครื่องแต่งกายที่นิยมโทนสีน้ำเงินเข้มหรือดำ ที่นี่มีวิวทิวทัศน์ของนาขั้นบันได นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาเที่ยวชมหมู่บ้านนี้ได้ง่าย
หมู่บ้านต่าฟาน (Ta Van Village) หมู่บ้านต่าฟาน อยู่ทางทิศใต้ของเมืองซาปาประมาณ 10 กิโลเมตร
หมู่บ้านต่าฟาน เป็นหมู่บ้านของชาวเขาหลายเผ่ามาอยู่รวมกัน แต่จะมีประชากรของเผ่า Giay ซึ่งถือเป็นชนเผ่าที่มีประชากรค่อนข้างเยอะในเวียตนาม ซึ่งในความหลากหลายของคนพื้นเมืองทำให้เห็นความแตกต่างของการแต่งกาย ซึ่งแต่ละเผ่าก็จะแตกต่างกันออกไปและยังมีภาษาพูดเฉพาะอีกด้วย การเข้ามาชมหมู่บ้านแห่งนี้เพื่อชมวิถีชีวิตของชาวเขา และสัมผัสทัศนียภาพของนาขั้นบันได ซึ่งมีเทือกเขาฟานสีปัน เป็นฉากหลัง มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามมากๆ
น้ำตกซิลเวอร์ (Silver Waterfall) อยู่ริมถนนทางไปไลโจว (Lai Chau)
น้ำตกซิลเวอร์ เป็นน้ำตกที่มีความสวยงาม อยู่ริมถนน และสามารถมองเห็นได้ชัดเจนตั้งแต่ไกล มีความสูงประมาณ 100 เมตร ไหลเลาะลงมาจากหน้าผาหิน นักท่องเที่ยวสามารถเดินไปชั้นบนของน้ำตกได้แต่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมประมาณ 3,000 ดอง
ตรามตอนพาส (Tram Ton Pass) อยู่ริมถนนทางไปไลโจว (Lai Chau)
ตรามตอนพาส เป็นจุดชมวิวสูงสุดในบริเวณซาปา และเป็นจุดสูงสุดในเวียตนาม ความสูง 1,900 เมตร และยังเป็นเขตรอยต่อระหว่างจังหวัดลาวไค กับจังหวัดไลโจว เป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ของ เทือกเขาฟานสีปันได้อย่างสวยงามมากๆ จะเห็นทิวเขาสลับซับซ้อน และจะเห็นถนนคดเคี้ยวไปตามริมหน้าผาเพื่อตัดลงสู่ที่ราบต่อไปจนถึงเมืองไลโจว
ถ้าหากสมาชิก Travel MThai ท่านใดต้องการเดินทางไปเที่ยวในเวียดนาม โดยไม่ซ้ำจำเจกับสถานที่ยอดนิยมอื่นๆ และต้องการใกล้ชิดธรรมชาติบริสุทธิ์แบบเพียวๆ ที่เมือง ซาปา เมืองแห่งสายหมอก ทางตอนเหนือของประเทศเวียดนาม น่าจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างแน่นอน
View Larger Map