สร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากสำหรับ เนติวิทย์ นักเรียนที่ไปออกรายการโทรทัศน์ชื่อดังแล้วบอกว่าอยากให้ยกเลิกความเป็นไทย ล่าสุดขยี้ระบบการศึกษาอีก
โดยนายเนติวิทย์ เลขาธิการสมาพันธ์นักเรียนไทยเพื่อการปฏิวัติระบบการศึกษาไทย และบรรณาธิการ นิตยสารปาจารย์สาร ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊คส่วนตัว ที่ใช้ชื่อว่า Netiwit Ntw แสดงความเห็นภายใต้เรื่องว่า ความเป็นไทยตั้งแต่หัวจรดเท้า – ผ่านระบบการศึกษาไทย โดยเขียนถึงระบบการศึกษา เนื้อหาสาระ และเรื่องการเรียนการสอน
ระบบโซตัส เป็นสิ่งที่พิเศษสำหรับประเทศแห่งนี้ ความคิดการจัดวางลำดับชั้นต่ำสูง ระบบอาวุโส ระบบอุปถัมภ์ ครู – นักเรียน แบบพ้นยุคพ้นสมัย จึงเป็นสิ่งสำคัญ นักเรียนก็ไม่เท่าเทียมกับครู ปัญหาการโต้เถียงถกเถียงครูอาจารย์ในสังคมไทยบางทีก็เป็นเรื่องรับไม่ได้ นักเรียนคิดแย้งก็มีน้อยและส่วนมากไม่กล้า เพราะสภาพที่กดดันและอำนาจนิยม
แม้ครูกับครูเองก็มีปัญหา คือผู้บริหารคิดว่าตัวเองวิเศษ สูงส่งกว่าครูธรรมดา ครูก็มีหน้าที่รับฟัง เชื่อฟัง ขัดแย้งไม่ได้ แม้มีคนขัดแย้งก็หาพวกรวมกลุ่มกันได้ยาก เพราะครูเองก็เคยเป็นนักเรียนถูกหลอมผ่านระบบการศึกษาที่เห็นระบบอาวุโส เป็นของดี วันไหว้ครูก็ต้องหมอบคลานเข้าไปเหมือนสิงสาราสัตว์ แล้วก็อ้างว่า เป็นของไทย น้ำตาจะไหลเพราะซึ้งจัด
ในเรื่องของเนื้อหาสาระนั้น เน้นไปเฉพาะวิชาสังคมศึกษา หมวดประวัติศาสตร์ เราแคบมาก เน้นการท่องจำจนเกินไป แบบไม่มีความสุข ไม่ให้ศึกษาวิเคราะห์
ซ้ำร้ายที่สุดคือชุดความคิดที่พวกเขาสร้างประดิษฐ์กรรมขึ้นมา ซึ่งซึมเข้าสู่สังคมจนสังคมเป็นแบบที่เราเห็น ไม่มีการเรียนการสอน การศึกษาอดีตของเราจึงเป็นของปลอม ไม่ให้คนมีความลึกซึ้ง คนที่อยากจะเรียนรู้จึงหวังพึ่งตำราเรียนไม่ได้
นักเรียนส่วนมากถูกปลูกฝังเรื่องชาตินิยม ปลุกฝังเรื่องของการเสียดินแดน14 ครั้ง ทั้งที่ดินแดนเหล่านั้นไม่ใช่ของไทยจริงๆ อาการเหยียดเพื่อนบ้านก็ย่อมมี แสดงว่าเราจะเข้าประชาคมอาเซียนแบบดูถูกเพื่อนบ้าน ไม่เป็นเรื่องที่ฉลาดเลย พวก 14 ตุลา หรือ 6 ตุลาคม เราได้บทเรียนอะไรไม่มี
ประวัติศาสตร์ของเราที่สอนๆกัน เน้นไปเมื่อ 100 – 700 ปีที่แล้ว ดังนั้นคนในประเทศเราไม่แปลกที่มีความคิดแบบ หนึ่งร้อยปีก่อน ก็ไม่แปลกที่คนรุ่นใหม่ไม่รู้จักนายปรีดี พนมยงค์ นายป๋วย อึ้งภากรณ์
นายเนติวิทย์ โพสต์ในเรื่องการสอนว่า มี 2 แบบ คือ 1.สอนให้โง่ กับ 2.สอนให้ฉลาด เวลานี้ดูเหมือนสอนให้โง่ ถ้าสอนให้ฉลาดต้องสอนให้มีการตั้งคำถาม ตรวจสอบกับอดีตซึ่งมีผลกับปัจจุบันทั้งนั้น เหตุใด ทำไมจึงเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ นี่ไม่มี การสอนแบบนี้คือสอนให้โง่
สุดท้ายแม้เราจะไม่รู้หรอกว่าความเป็นไทยคืออะไร ถามครู ถามนักเรียน ถามใครๆ หาคำตอบที่ชัดเจนไม่ได้ แต่เราก็ยังยินดีอุทิศตัวให้กับนามธรรมแบบนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ชนชั้นปกครองเห็นว่าเป็นของดี เพราะถ้าคุณถาม อำนาจของพวกเขาก็สั่นคลอน ความเป็นไทยที่ครอบงำสมอง ทรงผม เครื่องแบบ
จากหัวจรดเท้า ก็จะพินาศไป ผมอยากให้เราไปพ้นความเป็นไทย ซึ่งความเป็นไทยแบบนี้คือความเป็นทาสที่ไม่ต้องล่ามโซ่พันธนาการก็ยินดีกับความเป็นทาส ฉีกกรอบไปหาความเป็นไท ที่อิสรเสรี แล้วคิดว่านักเรียนเวลานี้ก็ตื่นตัวกันมากแล้วที่จะเป็นไท