เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
จีนออกกฎหมายบังคับลูกต้องกลับบ้านเยี่ยมพ่อแม่ หวั่นผู้สูงอายุถูกทอดทิ้ง บังคับใช้ 1 กรกฎาคม ท่ามกลางเสียงวิจารณ์อย่างหนัก
เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2556 เว็บไซต์นิวส์ของออสเตรเลีย รายงานว่า ทางการจีนได้ออกกฎหมายใหม่ที่กำหนดให้สมาชิกภายในครอบครัวต้องไปกลับไปเยี่ยมพ่อแม่หรือญาติผู้สูงอายุของตนเอง เนื่องจากรัฐบาลกังวลว่าจะมีผู้สูงอายุจะถูกทอดทิ้งมากขึ้น ในยุคที่ประชาชนวัยชราครองเมืองอย่างทุกวันนี้
รายงานระบุว่า กฎหมายใหม่นี้เริ่มมีผลบังคับใช้วานนี้ (1 กรกฎาคม) เนื่องจากรัฐบาลหวั่นเกรงว่าจะมีผู้สูงอายุจะถูกทิ้งให้อยู่อย่างโดดเดี่ยวมากขึ้น หลังจากที่ผ่านมา พบว่าคนชราจำนวนมากถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวในบ้านที่เงียบเหงา เพราะลูก ๆ ออกไปหางานต่างจังหวัด ทำให้ผู้สูงอายุถูกทอดทิ้งหรือบางรายร้ายแรงถึงขั้นถูกทารุณด้วยน้ำมือลูกของตัวเอง
สำหรับในปัจจุบันนี้ ประชากรชาวจีนมากกว่า 14 เปอร์เซ็นต์ หรือ 194 ล้านคน มีอายุมากกว่า 60 ปี โดยอัตราส่วนผู้สูงอายุที่มีจำนวนมากนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากนโยบายลูกคนเดียว ที่รัฐบาลประกาศใช้ในปลายคริสต์ศตวรรษ 1970 เพื่อควบคุมจำนวนประชากร ทำให้ในปัจจุบันสัดส่วนของผู้สูงอายุซึ่งเกิดก่อนปี 1970 นั้นมีจำนวนมาก ขณะที่ทางองค์การสหประชาชาติ (UN) ได้ประเมินด้วยว่า ในปี 2050 ประชากรชาวจีนที่มีอายุมากกว่า 60 ปี จะเพิ่มขึ้น 30% ขณะที่อัตราผู้สูงอายุทั่วโลกเพิ่มขึ้น 20%
อย่างไรก็ดี หลังจากที่มีการออกกฎหมายฉบับนี้ สร้างความไม่พอใจให้แก่ชาวจีนจำนวนไม่น้อยทีเดียว พร้อมกับวิพากษ์วิจารณ์มาตรการใหม่นี้ในทวิตเตอร์และบล็อกต่าง ๆ ซึ่งมองว่ารัฐบาลควรจะเป็นผู้รับผิดชอบเนื่องจากเป็นผู้ออกนโยบายลูกคนเดียว ดังนั้นการกระทำเช่นนี้จึงเหมือนเป็นการโบ้ยความผิดให้ลูกหลาน
ขณะที่ทางด้าน เซี่ย เสวล่วน อาจารย์ประจำสถาบันสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา ของมหาวิทยาลัยปักกิ่ง กล่าวว่า กฎหมายใหม่นี้จะต้องเพิ่มข้อบังคบและมาตรการเพื่อให้ชัดเจนมากกว่านี้ อย่างไรก็ตามกฎหมายนี้เป็นการเตือนให้คนหนุ่มสาวหันมาให้ความสำคัญกับค่านิยมของความกตัญญูกตเวทีมากกว่าที่จะมุ่งผลบังคับใช้ตามกฎหมาย