แหล่งประวัติศาสตร์ที่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกปีนี้

ในปีนี้ มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติหลายแห่งที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก วันนี้ 

เราจะพาคุณไปสำรวจกัน ว่ามีสถานที่แห่งใดบ้าง เริ่มกันที่ภูเขาไฟฟูจิในประเทศญี่ปุ่น ภูเขาไฟแห่งนี้ คือหนึ่งในสัญลักษณ์ที่ทุกคนมักนึกถึงเมื่อพูดถึงแดนอาทิตย์อุทัยอย่าง ญี่ปุ่น คณะกรรมการมรดกโลกให้ความเห็นว่า ภูเขาไฟฟูจิ มีความสำคัญ ทั้งในแง่ของประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม อีกทั้ง ยังเป็นแรงบันดาลใจ ให้แก่นักเขียน และกวีทั่วโลก ในการสร้างสรรค์ผลงานทั้งบทกลอนและภาพวาด จนทำให้คนทั่วโลกได้รู้จักญี่ปุ่นมากขึ้น อีกทั้ง ภาพถ่ายและบทกวีเหล่านี้ ยังส่งผลกระทบโดยตรง ต่อการพัฒนาศิลปะของโลกตะวันตก

นอกจากนี้ ความสำคัญอีกประการหนึ่งของภูเขาไฟฟูจิ ก็คือการเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวพุทธ  โดยเฉพาะผู้ที่นับถือลัทธิชินโต ที่มักจะมารวมตัวกันเดินเท้าไปตามเส้นทางแสวงบุญ โดยสองข้างทางของเส้นทางดังกล่าว ยังเต็มไปด้วยศาลเจ้า และวัดมากมายอีกด้วย

อีก หนึ่งภูเขาไฟที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกก็คือภูเขาไฟเอ็ตนา บนเกาะซิซิลี ในประเทศอิตาลี โดยภูเขาไฟแห่งนี้เป็นภูเขาไฟที่ยังไม่มอดดับ เพราะเมื่อ 2 ปีก่อน ก็เพิ่งเกิดการปะทุไป และจากการตรวจสอบของนักวิทยาศาสตร์พบว่า ภูเขาไฟดังกล่าว เคยปะทุเมื่อ 500,000 ปีก่อน และในช่วง 2,700 ปีที่ผ่านมา ก็มีหลักฐานที่ชี้ชัดถึงการปะทุของมันอยู่บ่อยครั้ง ความสำคัญของภูเขาไฟเอ็ตนา ก็คือการเป็นตัวกลางในการรักษาสมดุลทางธรรมชาติ เพราะหินลาวาที่เกิดจากการปะทุของมันนั้น ได้ทำให้ต้นไม้และพืชพันธุ์โดยรอบ มีลักษณะเฉพาะตัว และสวยงามแปลกตา

มาต่อกันที่ประเทศในแถบแอฟริกา บ้าง นั่นก็คือ Mount Kenya-Lewa Wildlife ในประเทศเคนยา ซึ่งเป็นเขตอนุรักษ์สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่ขยายความคุ้มครองเพิ่มมาจาก Mount Kenya Natural Park / Natural Forest โดยพื้นที่ดังกล่าว มีลักษณะเป็นทุ่งหญ้าสะวันนาอันกว้างใหญ่ เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า โดยเฉพาะช้างป่าแอฟริกา สัตว์สงวนหายาก นอกจากนี้ สถานที่แห่งนี้ ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ เพราะมีภูเขาเคนยา ซึ่งเป็นภูเขาที่สูงที่สุดเป็นอันดับ 2 ของแอฟริกาตั้งอยู่ โดยภูเขาดังกล่าว มีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี เมื่อภาพภูเขาที่มีหิมะปกคลุม ตัดกับสีเหลืองทองของทุ่งหญ้าสะวันนา จึงเกิดทัศนียภาพที่สวยงามเป็นอย่างยิ่ง

จากเคนยาเราขอพามาที่ ทาจิกิสถาน ที่นี่คืออุทยานแห่งชาติทาจิกิสถาน ที่กินพื้นที่กว่า 15 ล้านไร่ สถานที่แห่งนี้มีความโดดเด่นอยู่ตรงที่เป็นที่ตั้งของเทือกเขา ที่เชื่อมต่อระหว่างทวีปยุโรปและเอเชียหรือส่วนที่เรียกว่า ยูเรเชีย โดยตอนกลางของเทือกเขาเหล่านี้ เรียกว่า "Pamir Knot" ซึ่งเป็นบริเวณที่สูงที่สุดของเทือกเขา ด้วยลักษณะภูมิประเทศ ที่สลับกันไปมา ระหว่างเทือกเขาสูง กับบริเวณหุบเขา ทำให้อากาศของที่นี่แปรปรวนเป็นอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการมรดกโลกมองว่า สถานที่แห่งนี้ มีความสำคัญทางธรรมชาติ เพราะเป็นแหล่งกำเนิดของแม่น้ำกว่า 170 สาย และทะเลสาบอีกกว่า 400 แห่ง เลยทีเดียว โดยอุทยานแห่งชาติทาจิกิสถานนั้น ถือเป็นสถานที่ธรรมชาติแห่งแรก ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของประเทศ

ปิดท้ายกันที่ ทะเลทรายนามิบ ในประเทศนามิเบีย สถานที่ทางธรรมชาติแห่งแรก ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในนามิเบียเช่นกัน ทะเลทรายแห่งนี้ เป็นทะเลทรายแห่งเดียวในโลกที่ตั้งอยู่ริมชายฝั่ง และบนเนินทรายแต่ละแห่งนั้น จะมีหมอกปกคลุมอยู่ตลอดเวลา โดยเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ อันเกิดจากไอน้ำจากทะเลเรียกได้ว่าเป็นทัศนียภาพที่สวยงามแปลกตาเป็นอย่างยิ่ง โดยทรายเหล่านี้ ถูกพัดพามาไกลหลายพันกิโลเมตรด้วยแรงลม แม่น้ำ และมหาสมุทร ดังนั้น บริเวณนี้ จึงเป็นศูนย์รวมของหินและทรายจากสถานที่ต่างๆ ถือว่ามีคุณค่าต่อการศึกษาทางธรรมชาติเป็นอย่างยิ่ง

 

ขอบคุณ :: voicetv.co.th

Credit: http://variety.teenee.com/foodforbrain/53856.html
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...