ผ่าธุรกิจพันล้าน! ดอกบัวคู่ โยมอุปัฏฐาก หลวงปู่เณรคำ
29 มิ.ย.56 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักข่าวอิศรา ได้นำเสนอเรื่อง ผ่าขุมข่ายธุรกิจ "ซ้อนันท์" เจ้าของ บ.ดอกบัวคู่ พันล้าน!! โยมอุปัฏฐาก "หลวงปู่เณรคำ" ว่ากันว่าใจปล้ำถวาย "เครื่องบินเจ็ท-เฮลิคอปเตอร์-หลุยส์วิตตอง"? ที่กำลังถูกสังคมกล่าวถึงอย่างมากในขณะนี้
หลังปรากฏคลิปเสียง นางสุนันทา ลีเลิศพันธุ์ หรือ ซ้อนันท์ เจ้าของบริษัท ดอกบัวคู่ จำกัด
ออกมายอมรับว่า เป็นผู้จัดซื้อครื่องบินเจ็ท เฮลิคอปเตอร์ และรถหรู ให้กับหลวงปู่เณรคำ รวมถึงการทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินของดอกบัวคู่ ในฐานะโยมอุปัฏฐากหลวงปู่เณรคำ
ทั้งนี้ นายปิติ ลีเลิศพันธุ์ กรรมการผู้จัดการบริษัทดอกบัวคู่ ลูกชายตัวจริง ของนางสุนันทา ต้องรีบออกมาแถลงข่าวแก้ข้อกล่าวหาทันที
โดยเบื้องต้น นายปิติ ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมดว่า ทางดอกบัวคู่ ไม่เคยซื้อเครื่องบินเจ็ท และเฮลิคอปเตอร์ รวมถึงรถหรู ให้กับหลวงปูเณรคำ มีเพียงแค่พี่สาวที่ซื้อรองเท้าหลุยส์ให้กับพระทุกองค์ที่เดินทางไปฝรั่งเศส รวมทั้งหลวงปูเณรคำ พร้อมย้ำชัดเจนว่า เรื่องเงินบริจาค พระเป็นผู้เก็บเงินไปเอง ส่วนเงินที่ดอกบัวคู่ได้บริจาคให้หลวงปูเณรคำตั้งแต่เริ่มศรัทธา รวมเป็นเงิน เกือบ 10 ล้านบาท ก่อนที่ช่วง 2 ปีหลังจะเริ่มห่างออกมา
จากการตรวจสอบข้อมูลการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท ดอกบัวคู่ จำกัด จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์
พบว่า จดทะเบียนเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2532 ทุน 200 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 12/5 ซอยพัฒนเวศม์ ถนนคลองตัน-พระโขนง (สุขุมวิท 71) แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร แจ้งประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายยาสีฟัน สบู่ แชมพู สมุนไพร ตราดอกบัวคู่ ปรากฏชื่อ นางสุนันทา ลีเลิศพันธ์ และนางสาวปิยรดา ลีเลิศพันธ์ ลูกสาว และ นายปิติ ลีเลิศพันธ์ ลูกชาย เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ สำหรับโครงการสร้างผู้ถือหุ้นล่าสุด บริษัทฯ นางสุนันทา ลีเลิศพันธ์ ถือมากสุด จำนวน 33,315 หุ้น ส่วนหุ้นที่เหลือกระจายอยู่ที่คนนามสกุล ลีเลิศพันธ์ ทั้งหมด
ส่วนข้อมูลธุรกิจบริษัทฯ พบว่า ปี 2554 แจ้งว่า มีรายได้รวม 752,989,647.82 บาท
แต่มีกำไรสุทธิแค่ 9,747,609.76 บาท ขณะที่ปี 2553 แจ้งว่ามีรายได้รวม 735,028,934 บาท มีกำไรสุทธิ 17,881,065.96 บาท ปี 2552 แจ้งว่ามีรายได้รวม 760,360,074.03 บาท มีกำไรสุทธิ 35,364,475.55 บาท ปี 2551 แจ้งว่ามีรายได้รวม 725,627,934.26 บาท มีกำไรสุทธิ 33,621,737.91 บาท และปี 2550 มีรายได้รวม 746,643,771.03 บาท มีกำไรสุทธิ 50,228,002.93 บาท
ซึ่งข้อมูลจากงบดุบ แสดงสถานะทางการเงินของบริษัทล่าสุด ปี 2554 ที่นำส่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
ระบุว่า บริษัทมีสินทรัพย์รวม 656,369,486.28 บาท แบ่งเป็นเงินสด 14,123,187.86 บาท เงินลงทุนระยะยาว 197,000,000 บาท ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ - สุทธิ 145,197,132.90 บาท ส่วนหนี้สินมีจำนวน 231,457,423.55 บาท แบ่งเป็นเงินเบิกเกินบัญชีจากสถาบันการเงิน 1,826,421.48 บาท เจ้าหนี้การค้าและเจ้าหนี้อื่น 143,476,135.85 บาท หนี้สินที่ถึงกำหนดชำระภายใน 1 ปี 3,015,186.00 เงินกู้ยืมระยะยาว 76,458,523.17 บาท ส่วนยอดกำไร สะสมจากการทำธุรกิจอยู่ที่ 274,912,062.73 บาท
จากการตรวจสอบยังพบว่า นอกเหนือจากบริษัท ดอกบัวคู่ จำกัด แล้ว นางสุนันทา ลีเลิศพันธ์ และคนในครอบครัว
ยังปรากฎชื่อเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้น ธุรกิจเอกชนอีกหลายสิบบริษัท ประกอบธุรกิจส่งออกนอก ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ โรงแรม ธุรกิจก่อสร้าง เป็นต้น มีมูลค่าวงเงินลงทุนนับพันล้านบาท!! ด้วยมูลค่าทรัพย์สินจำนวนมหาศาลเหล่านี้ จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไร ที่หลายคนในสังคมจะเชื่อว่า "นางสุนันทา" ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น เคยเป็นโยมอุปัฏฐากหลวงปู่เณรคำ จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับทรัพย์สิน และของใช้สุดหรูของหลวงปู่เณรคำ
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2556 สำนักข่าวเนชั่นรายงานข่าวว่า หลวงปู่พุทธอิสระ วัดอ้อน้อยธรรมอิสระ
เปิดเผยถึงกรณีหลวงปู่เณรคำ ว่ามหาเถรสมาคม สำนักพุทธศาสนาแห่งชาติปล่อยให้หลวงปู่เณรคำ กระทำการปล้นพระศาสนา ทำเรื่องมัวหมองได้อย่างไร จากนั้น หลวงปู่พุทธอิสระ ได้โทรศัพท์พูดคุยกับ นางสุนันทา ลีเลิศพันธ์ เจ้าของผลิตภัณฑ์ตราดอกบัวคู่ โดยมีสื่อมวลชนบันทึกภาพและเสียงระหว่างการสนทนากับนางสุนันทา เกี่ยวกับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมหลายประการ
โดย นางสุนันทา รับว่า เคยบริจาคทรัพย์จำนวนมากให้หลวงปู่เณรคำ และมีการนิมนต์ไปบ้าน ไปเที่ยวต่างประเทศด้วยกัน
และที่สำคัญ มีการจ่ายเช็คเงินสดค่าเครื่องบินลำเล็กที่ซื้อกับหมอเบิร์ด ที่ประเทศมาเลเซีย มูลค่า 17 ล้านบาท ส่วนเครื่องบินลำใหญ่ซื้อที่ไหนไม่รู้ และมีการเจรจาดูโบชัวร์เฮลิคอปเตอร์ มูลค่า 80 ล้านบาท ที่บ้านของนางสุนันทาด้วย โดยอ้างว่าซื้อเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ไว้ใช้เป็นยานพาหนะ ถ้าไม่ได้เดินทางไปไหนก็ให้คนอื่นเช่าได้ และครอบครัวเคยเดินทางไปเที่ยวฝรั่งเศสกับหลวงปู่เณรคำ และลูกสาวของตนซื้อกระเป๋าหลุยส์วิตตองให้ เนื่องจากหลวงปู่เณรคำอยากได้จริง และตนเคยคิดจะทำพินัยกรรมยกสมบัติให้หลวงปู่เณรคำ
นางสุนันทา กล่าวทางโทรศัพท์อีกว่า เมื่อเขาเรียกเราว่าแม่ และเมื่อรู้ว่าลูกของตนกำลังหลอกลวงชาวบ้าน ก็สมควรออกมาพูดเรื่องจริง
สังคมก็จะได้เชื่อมั่นและเชื่อว่าหลวงปู่เณรคำมันลวงโลก ที่สำคัญวันนี้คนของหลวงปู่เณรคำให้ร้ายคนที่มันเรียกว่าแม่ โดยกล่าวหาว่าโยมแม่หลวงปู่เณรคำ (นางสุนันทา) เป็นคนเก็บเงิน เอาเงินไปหมด และที่ว่าเป็นคนจัดคิวสาวๆ ให้หลวงปู่เณรคำนั้น ก็ไม่ใช่แบบนั้น เป็นเพียงจัดระบบการเข้าพบและถวายสิ่งของเท่านั้น
ด้าน หลวงปู่พุทธอิสระ กล่าวว่า หลวงปู่เณรคำที่คนรู้จักนั้น สำหรับอาตมามันไม่ได้เป็นพระตั้งแต่มันบอกว่ามันเป็น "อรหันต์" แล้ว
และอยากให้นางสุนันทา ออกมาปกป้องพระศาสนา อย่าไปช่วยเหลือหรือช่วยปกปิดความผิดให้มารศาสนา และที่อาตมาออกมาท้าชนกับพวกมารศาสนา ก็ไม่กลัวโดนย้อนศร ย้อนดูอดีตหลวงปู่เณรคำ ว่าเมื่อก่อนมันมีอะไร นาก็ยังต้องเช่าเขาทำ เดี๋ยวนี้มีมากมาย ทั้งบ้าน คฤหาสน์ รถหรู เครื่องบิน และเฮลิคอปเตอร์ มาจากไหน วันนี้ไม่ต้องไปตรวจสอบอะไรหรอก มันไม่มีอะไรเหลือไว้ให้ตรวจสอบแล้ว ที่มันไม่สร้างวัดเพราะไม่ต้องการถูกตรวจสอบ ฉะนั้นมันคงไม่ทิ้งหลักฐานไว้แน่นอน
ล่าสุดคนในครอบครัวนางสุนันทา ออกมาปฏิเสธข้อมูลทั้งหมด พร้อมระบุว่าจากนี้ไปจะไม่ขอออกมาให้ข่าวหรือตอบโต้ใดๆ เพราะไม่ต้องการให้เรื่องปานปลายเสื่อมเสียต่อพุทธศาสนา
เครดิต teenee.com