ชีวิต ยิ่งกว่าละคร น้ำเน่า อีก เมื่อหลายๆคนต้องทำงานในบรรยากาศของสงครามวาจากระแนะกระแหน ซึ่งมีภาษาพ่อขุม เป็นภาษาทางธุรกิจในองค์กร
จนบางครั้ง เราอดทน นิ่งเงียบเพื่อรักษาลุคมือโปรฯ กลับยิ่งทำร้ายคุณให้จิตตก (เสื่อม) ขึ้นทุกวัน
การงานก็ได้รับผลกระทบไปด้วย หนนี้เราก้เลยมีศิลปะ การป้องกันตัวจากการทำร้ายด้วยคำพูดมาฝากค่ะ
ขั้นแรก เมื่อเรารู้ตัวว่าถูกเล่นงาน
หลายๆ คนที่เคยพบเจอกับคพูดเสียดแทงบ่อยๆ ฟันธงเลยค่ะว่า " เข้ามาตบกันเลยยะงจะดีกว่า " เพราะว่าเรื่องแบบนี้ใครไม่เจอกับตัวไม่รู้ ค่ะ จะฟ้องใครก็ไม่ได้ เพราะว่าบางครั้งคำพูดที่ฝ่ายตรงข้ามใช้อาจไม่ร้ายกาจ แต่เมื่อผนวกกับ น้ำเสียงและอารมณ์เข้ามาด้วย ให้ชวนฟังแล้วโมโห
อย่างเช่น สาว office คนนึงเล่าให้ฟังว่าเวลามีปัญหา หัวหน้าชอบใช้น้ำเสียงตวาดแว้ด แกม ตะคอก ขู่และดูถูกอีกต่างหากว่า " ทำไมเธอทำงานพลาดทุกที " ราวกับว่าเรื่องราวทั้งหมดเธอเป็นคนที่ทำผิดพลาดเพียงคนเดียวทุกครั้งไป ทำให้เธอ อดรน ทนไม่ไหว ต้องไปพึ่งเจ้านายที่อาวุโสกว่า พอเรื่องถึงผู้ใหญ่ปุ๊บ ฝ่ายตรงข้ามกลับลิ้นแลับพลันด้วยการแก้ตัวหน้าด้านๆ
ว่า . . " ฉันพูดว่า.....แล้วก็บอกประโยคเดิม เติมน้ำเสียง นุ่มๆ พร้อมกับสำทับว่าแค่อยาก ระดมความคิดเห็นเพื่อแก้ไข "
ทำให้ตัวเธอถึงกับพูดไม่ออกบอกไม่ถูกไปเลยทีเดียว
ขั้นที่ 2 ประเมินความเสียหาย
ดัง นั้น ไม่ว่าจะเจอคำพูดที่เลวรายรุนแรงขนาดไหน ก็อย่าเพิ่งฟิวขาดเชียวนะขอเตือนไว้ก่อน เราควรที่จะ ตั้งสติประเมินสถานการณ์ ก่อนว่าฝ่ายตรงข้ามนั้น มาไม้ไหน แค่เป้นการเผชิญหน้ากันตามปกติ หรือว่าปฏิกิริยาโต้ตอบว่าคุณ แข็งกร้าวใส่ หรือว่ามีความเห็นที่ไม่ลงลอยกัน หรือว่าพูดไม่ดีเพราะว่าโกรธ หรือว่าอยากจะ โชว์ออฟ หรือว่า อารมณืบ่จอยแล้วหาแพะสักตัวไว้เป้นที่ระบาย..
ขั้นที่ 3 ป้องกันตัว
คุณ ควรต้องตอบโต้บ้าง โดยเลือกวิธีและระดับแรงให้เหมาะ จำไว้ว่าเอาแค่ป้องกันตัวนะ ไม่ใช่เอาคืนให้สาสม เพราะเราต้องทำงานกับคนๆนั้นอีกแน่ๆ และคุณเองก็ไม่อยากที่จะสราง ศัตรูถาวรให้เค้ายิ่งทำร้ายคุณหนักขึ้น ดังนั้นเราก็มีศิลปะดีๆในการป้องกันตัวมาแนะนำค่ะ
+ ทำให้ฝ่ายตรงข้ามผิดหวัง ให้คิดว่าอุตสาห์ด่าแทบตาย มันยังไม่โมโห อีก แค่นี้ก็สามารถทำให้ฝ่ายโน้นเหนื่อยหน่าย และแพ้ภัยตัวเองในที่สุด
+ แก้ต่างอย่างมีหลักการ ถ้าเรื่องนั้นเป็นเรื่องที่คุณ เองนั้น โดนประนามหยามเหยียด ก้ให้ตัวคุณเองนั้นค่อยๆ อธิบายให้เค้า ฟังด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ฟังแล้วน่าเบื่อและ ง่วงนอนเป็นที่สุด เป็นต้นว่าถ้าคุณเองนั้นสามารถ ยกแม่น้ำทั้งหมดที่มีในประเทศ ร่วมทั้งยก สถิติ และทฤษฎี มากล่าวอ้างด้วยแล้วละก็ อธรรมทั้งหลายจะล่าถอยไปเอง ด้วยความเซ้งสุดขีด ถ้า ยังคิดไม่ออกกันว่าจะพูดให้น่าเชื่อถือ ร่วมทั้งน่าเบื่อได้อย่างไร ขอแนะนำให้คิดถึงใบหน้าหัวหน้า พรรคการเมือง นั่นล่ะ เก็กหน้าให้นิ่งๆ ตายๆเข้าไว้ อย่างงั้นเลยแล้วก้ แก้ต่างด้วยวาจาที่สงบเสงี่ยม ฟังดูดี มีหลักการไม่เถียงแบบข้างๆ คูๆ แค่นี้เขาก็ทำอะไรคุณไม่ได้ แล้ว...
+ ถามกลับอย่างสุภาพ ในกรณีโดนด่าอย่างรุนแรง (*เน้น โดนด่าอย่างแรงค่ะ) โดยที่คุณโดนใส่ความผิดทั้งหลายทั้งปวงมาโทษคุณ แบบนี้ควรใช้ วิธีเก็บอารมณ์(เบรคอารมณ์ร้าย) และคำพูดที่รุนแรงด้วยการถามกลับ เช่น ทำไมคุณถึงคิดอย่างนั้น คุณคิดว่าฉันเป้นอย่างนั้นตั้งแต่เมื่อไรฯลฯ เพื่อแสดงให้เห้นว่า เราคิดที่จะแก้ปัญหานั้นอย่างจริงจัง
ขั้นที่ 4 อย่าไปสนใจ
จำไว้ว่าสิ่งที่คน ปากร้ายใจดำพวกนี้ต้องการคือ อยากที่จะทำให้คุณเจ็บปวด หรือมีอารมณ์ตอบโต้ ยิ่งถ้าใครไปมีน้ำโห ปะทะคารมตอบโต้
พวกโรคจิต พวกนี้ยิ่งสนุกสะใจ ดังนั้นเราควรตอบโต้ด้วยการที่สงบนิ่งที่สุด อย่าไปเอะอะโวยวายหรือว่าร้องไห้เชียวนะ การที่คุณจะพูดดีมีหลักการ ไม่ปรอทแตกใส่ใครนี่เอง จะทำให้ทุกคนเกิดความยำเกรง ไม่ก็ขี้เกียจยุ่งกับคนไร้อารมณ์ ทะเลาะด้วยก็ไม่มันส์ กลายเป็น วัคซีนป้องกันไม่ให้คนรอบข้างมาหาเรื่อง ทำร้ายเราด้วยวาจาได้อีก จะให้ดีเราเองต้องพยายามลืมๆ คำพูดที่ร้ายๆไปเสียคิดซะว่าคนเหล่านี้ น่าสงสาร ที่มีปัญหาทางด้าน EQ ที่ต่ำกว่ามาตรฐาน ลองปล่อยวางได้แล้วก็ จะบ่ยั่ง ทั้งเพื่อนร่วมงานปากร้ายๆ แล้วก็นายที่ปากตลาด