สุนัขที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์

สุนัข คือเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์ เราเลี้ยงสุนัขกันมาเป็นเวลานาน เรียกได้ว่า สุนัขอยู่คู่กับประวัติศาสตร์ของมนุษย์มาตลอด แต่ก็มีสุนัขบางตัวที่มีเรื่องราวโดดเด่น น่าประทับใจ จนกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก และนี่คือเรื่องราวบางส่วนของสุนัขที่มีชื่อเสียง เป็นที่จดจำจนถึงทุกวันนี้



รินตินติน (Rin Tin Tin)


รินตินตินเป็นสุนัขตัวแรกที่มีชื่อเสียงที่สุดในฮอลลีวูด มันเป็นสุนัขที่มีความสามารถมากจนได้รับยกย่องว่าเป็นศิลปินอย่างแท้จริง และได้รับเกียรติให้มีดาวเป็นของตัวเองใน Hollywood Walk of Fame

รินตินตินเป็นสุนัขพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ด ซึ่งถูกทิ้งไว้พร้อมกับแม่และพี่น้องของมันที่ศูนย์ฝึกสุนัขร้างในประเทศเยอรมันช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 จนกระทั่งมีนายทหารชาวอเมริกันไปพบเข้า และนำทั้งหมดกลับไปที่อเมริกาด้วย

รินตินตินแสดงหนังครั้งแรกให้กับวอร์เนอร์ บราเธอร์ส ในปี ค.ศ. 1923 หลังจากนั้นก็มีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นเรื่อยๆจนได้แสดงหนังอีกกว่า 20 เรื่อง และกลายเป็นที่รักของชาวอเมริกัน แม้ว่ามันจะตายลงนานแล้ว แต่เรื่องราวของรินตินตินก็ยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้เขียน และผู้สร้างหนังตลอดมาจนถึงทุกวันนี้



ฮาจิโกะ (Hachiko)


พวกเราคงจะคุ้นเคยกับเรื่องของฮาจิโกะกันดี มันโด่งดังมาจากเรื่องของความรักและซื่อสัตย์ที่มีต่อเจ้านาย จนเป็นที่ซาบซึ้งไปทั่วโลก และก็มีคนนำเอาเรื่องราวของมันไปสร้างเป็นภาพยนตร์หลายต่อหลายครั้ง

ฮาจิโกะเป็นสุนัขญี่ปุ่นพันธุ์อากิตะ อาศัยอยู่กับเจ้าของซึ่งเป็นศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัย ต่อมาเจ้าของมันหัวใจวายและเสียชีวิตลงที่มหาวิทยาลัย และไม่มีทางกลับมาที่บ้านอีกแล้ว หลังจากนั้นฮาจิโกะก็มานั่งรอที่สถานที่รถไฟชิบุยะทุกๆเช้า และเดินกลับบ้านตอนเย็นเมื่อไม่พบกับเจ้าของมัน มันทำแบบนี้ทุกวันเป็นประจำจนกระทั่งมันตายลง 9 ปีหลังจากนั้น

เรื่องราวของฮาจิโกะโด่งดังมากที่ญี่ปุ่น หลังจากที่มันตายลง ก็ได้มีการสร้างรูปหล่อทองเหลืองของฮาจิโกะตั้งไว้ที่สถานที่ชิบุยะ เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้แก่ความซื่อสัตย์ของมัน ทุกวันนี้รูปปั้นก็ยังคงตั้งอยู่ที่เดิมและเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น



ไลก้า (Laika)


ไลก้าน่าจะเป็นสุนัขที่โด่งดังที่สุดในโลก ชื่อของมันถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ว่าเป็นสิ่งมีชีวิตตัวแรกที่ได้เดินทางขึ้นไปยังอวกาศและโคจรรอบโลก แต่เรื่องราวจริงๆของมันออกน่าสงสารมากกว่าใครเพื่อน

ไลก้าเป็นสุนัขจรจัดในกรุงมอสโควที่ถูกเลือกโดยนักวิทยาศาสตร์ชาวรัสเซียเพื่อส่งขึ้นไปกับยานอวกาศ สปุตนิก2 เป้าหมายก็คือเพื่อศึกษาผลที่จะเกิดขึ้นกับสิ่งมีชีวิตเมื่ออยู่ในอวกาศ มันถูกฝึกเป็นให้สามารถอยู่ได้ในสภาวะแวดล้อมแบบพิเศษเพื่อเตรียมพร้อมออกสู่อวกาศ ไลก้าตายลงขณะที่อยู่บนอวกาศ นักวิทยาศาสตร์ได้แถลงการว่า สาเหตุการตายเกิดจากที่ออกซิเจนในยานหมดลงหลังจากเดินทางไปได้  6 วัน แต่หลังจากนั้นหลายปี ได้มีการเผยแพร่ความจริงว่า จริงๆแล้วไลก้าตายตั้งแต่ยานถูกปล่อยออกไปได้ไม่นาน สาเหตุมาจากความร้อนที่มากเกินไป

ความตายของไลก้าทำให้คนในโลกตื่นตัวกันมากขึ้นในเรื่องการต่อสู้เพื่อต่อต้านการทารุณสัตว์ และในปี 2008 ทางการรัสเซียก็ได้สร้างรูปปั้นของไลก้าไว้ใกล้ๆกับศูนย์วิจัย เพื่อเป็นเกียรติแก่ไลก้า สุนัขที่ช่วยทำให้มนุษย์เข้าใจอวกาศมากขึ้น



แบร์รี่ (Barry the St. Bernard)


แบร์รี่เป็นสุนัขกู้ภัยที่คอยช่วยเหลือคนที่ถูกฝังในหิมะ ปัจจุบันสายพันธุ์ของมันถูกเปลี่ยนชื่อเป็น เซนต์เบอร์นาร์ด และถึงแม้ทุกวันนี้จะไม่ได้เลี้ยงเพื่อเป็นสุนัขกู้ภัยแล้ว แต่ก็ยังเป็นที่นิยมให้กลุ่มคนทั่วไป

แบร์รี่มีชีวิตอยู่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในช่วงปี ค.ศ. 1800-1814 มันทำงานเป็นสุนัขกู้ภัยให้กับบ้านพักที่ชื่อ Great St Bernard Hospice ซี่งตั้งอยู่ท่ามกลางภูเขาหิมะหนาวเหน็บ หน้าที่ของมันคือเดินสำรวจตามภูเขาเวลาที่เกิดพายุหิมะเพื่อหาคนที่อาจถูกฝังอยู่ข้างใต้ เมื่อมันเจอตำแหน่งแล้วก็จะขุดจนเจอเพื่อช่วยคนขึ้นมา ในช่วงชีวิตมันสามารถช่วยคนได้กว่า 40 คน และหลังจากที่มันเริ่มแก่ตัวลงจึงถูกเกษียณงานแล้วย้ายไปอาศัยอยู่ที่เมือง เบิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อมันตายลง ร่างของมันก็ถูกเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติประจำเมืองเบิร์นและยังอยู่จนถึงทุกวันนี้



สโมกกี้ (Smoky)

สโมกกี้ได้รับการบันทึกว่า เป็นสุนัขบำบัดตัวแรกของโลก อีกทั้งยังถูกยกย่องว่าเป็นฮีโร่ตัวน้อยในสงครามโลกครั้งที่ 2  ซึ่งแม้ว่ามันไม่ได้ทำหน้าที่ช่วยในการสู้รบ แต่เป็นตัวช่วยให้ความบันเทิงเยียวยาจิตใจให้กับเหล่าทหาร และกลายเป็นมาสคอตประจำสนามรบ ซึ่งอยู่ร่วมกับเหล่าทหารและผ่านช่วงเวลาที่อันตรายที่สุดไปพร้อมๆกัน จากเหตุนี้ก็ทำให้มันได้รับเหรียญ battle stars ถึง 8 เหรียญด้วยกัน

สโมกกี้เป็นสุนัขตัวน้อยพันธุ์ยอร์คเชียร์ เทอร์เรีย มันถูกพบโดยทหารชาวอเมริกันในป่าบนเกาะนิวกินี ไม่มีใครรู้ว่ามันมาจากไหน หรือรอดชีวิตอยู่ในป่ามาได้อย่างไร หลังจากนั้น มันถูกขายให้สิบโท William A. Wynne ผู้ซึ่งนำมันไปด้วยทุกที่ในสนามรบ และฝึกให้มันแสดงกลต่างๆ ที่น่าตื่นตาตื่นใจ เพื่อแสดงโชว์แก่นายทหารที่ ประจำการอยู่ตามฐานทัพ ความน่ารักและความฉลาดของมันทำให้เหล่าทหารที่ต้องออกมารบไกลจากบ้านมีความสุขขึ้น

หลังจากจบสงครามแล้ว มันก็ได้กลับมาอยู่ที่บ้านกับเจ้านายที่คลีฟแลนด์ ซึ่งมันก็โด่งดังขึ้นมาจากเรื่องราวในตอนที่อยู่กับกองทัพ มันได้เดินทางไปฮอลลีวูดและแสดงโชว์ออกโทรทัศน์อีกหลายครั้ง จนกระทั่งตายลงเมื่ออายุได้ประมาณ 14 ปี สโมกกี้ถูกฝังไว้ที่ Cleveland Metroparks หลังจากนั้นก็มีการสร้างรูปหล่อทองเหลืองขึ้นตรงจุดนั้นเพื่อเป็นการระลึกถึงสุนัขผู้เป็นที่รักของทหารชาวเอมริกัน



บัลโต้ (Balto)


บัลโต้เป็นสุนัขพันธุ์ไซบีเรียน ฮัสกี้ มีชื่อเสียงจากการนำทีมลากเลื่อนวิ่งจากเมือง Anchorage ในอลาสก้า ไปยัง Nome  เพื่อส่งวัคซีนรักษาโรคร้ายแรงที่กำลังระบาดช่วยชีวิตชาวเมือง Nome ได้ทั้งเมือง

ในปี ค.ศ. 1925 เกิดโรคคอตีบระบาดขึ้นในเมือง Nome รัฐอลาสก้า วัคซีนที่จะช่วยรักษาโรคนี้ได้ใกล้ที่สุดอยู่ที่เมือง Anchorage ซึ่งอยู่ห่างออกไป 1,600 กิโลเมตร ตอนนั้นเกิดพายุหิมะใหญ่ ทำให้เครื่องบินหรือการเดินทางแบบอื่นไม่สามารถทำได้ แต่ชาวเมืองต้องได้รับวัคซีนอย่างเร่งด่วน ทางการเลยตัดสินใจส่งวัคซีนโดยการ
ใช้สุนัขลากเลื่อนในการขนส่ง นำทีมโดยบัลโต้ ทีมลากเลื่อนต้องเดินทางผ่านพายุหิมะน้ำแข็งที่อุณหภูมิลดต่ำกว่า -31 องศาเซลเซียส และข้ามผ่านเส้นทางที่โหดร้าย แต่ด้วยความเป็นผู้นำของบัลโต้ ทำให้สามารถขนส่งวัคซีนไปถึงจุดหมายได้อย่างปลอดภัย

หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจนั้น ได้มีการสร้างรูปสลักของบัลโต้ตั้งไว้ที่ หน้าทางเข้า Tisch Children’s Zoo และหลังจากที่บัลโต้ตายร่างของมันก็ถูกบริจาคให้กับพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ในคลีฟแลนด์

Credit: Dominic
28 มิ.ย. 56 เวลา 08:39 2,060 20
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...