“เกาะน่ากลัว” จากทั่วทุกมุมโลกที่ไม่น่าไปเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง

ในโลกนี้มีเกาะอยู่มากมาย บางที่ก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวสวยงาม เป็นเป้าหมายชื่อดังที่ใครๆ ก็อยากไปเที่ยวดูสักครั้ง แต่เกาะในรายการต่อไปนี้ได้ชื่อว่าเป็น เกาะน่ากลัว ก็ด้วยเหตุผลต่างๆ กัน และแต่ละอันลองอ่านดูแล้วก็ไม่ชวนให้ไปเที่ยวเลยสักนิด



Ilha de Queimada Grande

สถานที่ตั้ง : ใกล้ชายฝั่งเมืองเซาเปาโล ประเทศบราซิล

ที่มาภาพ viagenstentadoras

เกาะที่ได้ชื่อเล่นว่า เกาะอสรพิษ (Snake Island) นี้ มีงูอาศัยอยู่บนเกาะเพียงสายพันธุ์เดียวเท่านั้นคือ พันธุ์ Golden Lancehead ซึ่งเป็นหนึ่งในงูที่มีพิษร้ายแรงที่สุดในโลกและหาที่อื่นไม่ได้นอกจากบนเกาะนี้เท่านั้น ทำให้มันเป็นงูที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ แล้วเกาะนี้น่ากลัวยังไง? ก็แค่มีงูพิษอยู่แถมเป็นแค่สายพันธุ์เดียวเท่านั้นเอง ปัญหาก็คือบนเกาะมีงูพันธุ์นี้อาศัยอยู่เยอะมาก เยอะขนาดที่คนท้องถิ่นแถวนั้นบอกไว้ว่า พื้นที่ขนาด 1 ตารางเมตร จะมีงูอยู่ 5 ตัวเลยทีเดียว ก็คือถ้าไปเดินเล่นอยู่บนเกาะก็จะเจอกับงูทุกๆ ก้าวที่เดิน

งูพันธุ์ Golden Lancehead

ที่มาภาพ viagenstentadoras

อย่างไรก็ตาม จำนวนที่แท้จริงของงูทั้งหมดมีเท่าไหร่ก็ไม่มีใครทราบแน่ชัดเพราะไม่ได้มีการเข้าไปสำรวจกันจริงๆ จังๆ เนื่องมาจากปัจจุบันกองทัพเรือประจำประเทศบราซิลประกาศให้เกาะนี้เป็นเขตหวงห้ามไม่ให้ประชาชนเข้าไป ไม่ใช่เพื่อป้องกันงูที่ใกล้สูญพันธุ์ชนิดนี้ แต่เพื่อป้องกันคนที่อาจหลงเข้าไปเจอกับดงงูพิษ แต่บางครั้งก็มีการยกเว้นให้กับนักวิทยาศาสตร์ให้เข้าไปทำการศึกษาได้อยู่บ้างเป็นบางครั้ง


Poveglia Island

สถานที่ตั้ง : เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี

ที่มาภาพ whatthehellnews , slackers

ดูจากภาพแล้วเกาะนี้ก็เหมือนเกาะธรรมดา มีตึกโบราณขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่อย่างโดดเด่นดูสวยงามจนน่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวมากกว่า แต่ความจริงแล้วเกาะนี้มีประวัติศาสตร์สยองขวัญมาอย่างยาวนาน

เริ่มตั้งแต่ในสมัยโรมัน เกิดกาฬโรคระบาดขึ้นครั้งใหญ่ ชาวโรมันในสมัยนั้นจึงได้ทำการแยกผู้ป่วยออกมาและส่งไปอยู่บนเกาะ Poveglia เพื่อไม่ให้โรคระบาดไปยังคนอื่น ผู้ป่วยบนเกาะค่อยๆ เสียชีวิตลงและถูกฝังเอาไว้บนเกาะ แต่ยังไม่จบแค่นั้น หลังจากนั้นอีกหลายปีก็เกิดกาฬโรคระบาดในยุโรป เกาะนี้ก็ได้กลายเป็นสถานที่สำหรับผู้ที่ติดเชื้ออีกครั้ง แต่ในครั้งนี้ผู้ป่วยไม่ได้ถูกนำมาปล่อยไว้บนเกาะเฉยๆ ใครที่มีอาการหนักมากๆ จะถูกโยนลงไปในหลุม (ที่มีแต่ศพของคนที่เสียชีวิตแล้ว) และถูกเผาทั้งเป็น จากทั้งสองเหตุการณ์นี้ ประมาณการว่ามีผู้เสียชีวิตบนเกาะ 160,000 คน

เศษโครงกระดูกของคนที่ป่วยและเสียชีวิตอยู่บนเกาะ

ที่มาภาพ whatthehellnews

ถ้าแค่นี้ยังสยองไม่พอ ต่อมาในปี ค.ศ.1922 โรงพยาบาลสำหรับผู้ป่วยทางประสาทก็ถูกสร้างขึ้นบนเกาะแห่งนี้อีก  ในช่วงนี้เองที่มีเรื่องเล่าและข่าวลือต่างๆ เกี่ยวกับการทดลองและทรมานคนไข้ รวมถึงเรื่องเล่าว่ามีคนพบเจอกับวิญญาณของผู้ที่เสียชีวิตบนเกาะที่ยังคงวนเวียนอยู่ไม่ไปไหนคอยตามหลอกหลอน

จนกระทั่งถึงปี ค.ศ.1968 โรงพยาบาลก็ปิดตัวลง และเกาะก็ถูกปล่อยทิ้งร้างเอาไว้ จนถึงทุกวันนี้ก็มีนักเที่ยวเที่ยวแวะเวียนมาเยี่ยมชมกันบ้าง แต่ก็ยังไม่มีใครอาศัยอยู่บนเกาะอยู่ดี

ภาพถ่ายภายในตึกโรงพยาบาล

ที่มาภาพ whatthehellnews , europeanghostsandhauntings , italianowithjodina


Ramree Island

สถานที่ตั้ัง : รัฐคะฉิ่น ประเทศพม่า

เหตุเกิดที่ประเทศพม่า เพื่อนบ้านใกล้ๆ กันกับประเทศเรานี่เอง เมื่อปี ค.ศ.1945 ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ทหารชาวญี่ปุ่นประมาณ 900 คน ที่ประจำการอยู่บนเกาะถูกกองทัพของศัตรูเข้าล้อม ทำให้เหลือทางออกเพียงทางเดียวคือ ทางบึงขนาดใหญ่ ทั้งหมดจึงตัดสินใจเดินลุยฝ่าบึงเพื่อไปขอความความช่วยเหลือจากกองกำลังสนับสนุน และตอนนั้นเองที่ตำนานความสยองของเกาะนี้เริ่มต้นขึ้น

ภาพถ่ายทหารญี่ปุ่น

ที่มาภาพ ramree

บึงที่ทหารญี่ปุ่นพากันหนีลงไปนั้น ความจริงแล้วเป็นที่อยู่ของจระเข้น้ำเค็มขนาดใหญ่ที่ดุร้ายนับพันตัว เมื่อมีอาหารมาให้ถึงที่แบบนี้จระเข้ก็พากันโจมตีเหล่าทหารที่กำลังวิ่งหนีตายกันอย่างไม่รู้เนื้อไม่รู้ตัว ในบรรดาทหารทั้งหมด 900 คนนั้น เหลือรอดมาจากบึงไม่ถึงครึ่งและที่รอดมาส่วนใหญ่ก็ถูกจระเข้ทำร้ายบาดเจ็บกันถ้วนหน้า และเชื่อกันว่ามีคนถูกจระเข้กินไปประมาณ 400 คน เหตุการณ์นี้สยดสยองมากเสียจนถูกบันทึกเอาไว้ในสถิติกินเนสบุ๊คว่าเป็น หายนะครั้งใหญ่ที่สุดที่เกิดจากการโจมตีของสัตว์

จระเข้น้ำเค็มบนเกาะ

ที่มาภาพ robertappleton , bestourism


Fiji

สถานที่ : หมู่เกาะประเทศฟิจิ

ทุกวันนี้ ประเทศฟิจิคือหมู่เกาะกลางทะเลที่มีหาดสวย น้ำใส ผู้คนเป็นมิตร เป็นอีกหนึ่งสถานที่เที่ยวยอดนิยมที่ใครๆ ก็พากันไปเยี่ยมชม แต่เมื่อประมาณ 100 ปีก่อนหน้านี้ ฟิจิเป็นดินแดนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเกาะสุดสยองที่ใครๆ ก็ไม่อยากจะไปเหยียบ เพราะสมัยก่อนเกาะนี้คือที่อยู่ของเผ่ามนุษย์กินคน

ที่มาภาพ cultofweird , fravahr

มีการบันทึกไว้โดยเหล่ามิชชันนารีที่เดินทางมาเผยแพร่ศาสนาที่เกาะฟิจิว่า ชาวเผ่าบนเกาะชอบกินมนุษย์เป็นอาหาร ทั้งมนุษย์ที่ตายแล้ว (ขุดขึ้นมาจากหลุมศพเอามากิน) หรือมนุษย์เป็นๆ ที่ส่วนใหญ่เป็นนักเดินทางที่หลงไปยังบนเกาะ หรือแม้แต่กินคนในเผ่าด้วยกันเอง จนเกาะนี้มีชื่อเสียงในเหล่านักเดินเรือว่าเป็นเกาะของเผ่ากินคน และไม่มีใครกล้าเข้าใกล้โดยไม่จำเป็น เหยื่อคนสุดท้ายที่ถูกกินคือ Thomas Baker มิชชันนารีชาวอังกฤษผู้โชคร้าย

Thomas Baker มิชชันนารีชาวอังกฤษผู้เป็นเหยื่อคนสุดท้าย

ที่มาภาพ matavuvale


Izu Islands

สถานที่ตั้ง : ทางตอนใต้ของเมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

ที่มาภาพ sio.ucsd.edu , atlasobscura

หมู่เกาะ Izu ซึ่งมีจำนวนทั้งหมด 9 เกาะ เป็นที่ตั้งของภูเขาไฟที่ยังไม่ดับหลายลูก (ตัวเกาะ Izu เองก็เกิดมาจากภูเขาไฟ) แต่ที่น่ากลัวไม่ใช่แค่ภูเขาไฟที่อาจจะระเบิดได้ทุกเมื่อเท่านั้น แต่เป็นเพราะภูเขาไฟเหล่านี้พ่นแก๊สพิษซัลเฟอร์ไดออกไซด์ หรือกำมะถันออกมาอยู่ตลอดเวลา

ในปี ค.ศ.2000 ชาวเมืองที่อาศัยอยู่บนเกาะต้องอพยพออกไปจนหมด เนื่องมาจากการระเบิดอย่างต่อเนื่องของภูเขาไฟบนเกาะทำให้ปริมาณแก๊สพิษมีสูงเกินไปจนคนไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ อย่างไรก็ตาม ในปี ค.ศ.2005 ชาวเมืองทั้งหมดก็ได้ย้ายกลับมาอยู่ตามเดิม แต่ทุกคนจะต้องพกหน้ากากกันแก๊สพิษติดตัวไว้ตลอดเวลาทั้งกลางวันและกลางคืน เผื่อกรณีฉุกเฉินที่เกิดระดับแก๊สพิษสูงขึ้นอย่างเฉียบพลัน

ภาพถ่ายงานแต่งงานสวมหน้ากากกันแก๊สพิษของคนบนเกาะ

ที่มาภาพ atlasobscura

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะเสี่ยงต่อการเจอแก๊สพิษ การท่องเที่ยวของเกาะนี้ก็ค่อนข้างเฟื่องฟูมากทีเดียว เพราะเกาะนี้มีจุดดำน้ำดูปะการังและปลาโลมาที่สวยงามมาก และคนมาเที่ยวก็ไม่ต้องห่วงเพราะบนเกาะนี้สามารถหาซื้อหน้ากากกันแก๊สพิษได้ตามร้านขายของทั่วไป

Credit: Dominic
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...