มนุษย์ได้ชื่อว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่ฉลาดที่สุดในโลก และที่ทำให้เราต่างจากสัตว์อื่นๆ ก็คือการที่เราแสดงอารมณ์ได้อย่างซัีบซ้อนและหลากหลาย แต่ความจริงแล้วก็ยังมีสัตว์บางชนิดที่แสดงอารมณ์แบบมนุษย์ได้เหมือนกัน
เสือรู้จักการแก้แค้น
เรื่องราวของเสือที่กลับมาแก้แค้นมนุษย์มีอยู่หลายเรื่อง อย่างในปี ค.ศ.2007 ในวันคริสต์มาส คนงานในสวนสัตว์ San Francisco Zoo ประเทศสหรัฐอเมริกา เกิดนึกสนุกแกล้งแหย่เสือไซบีเรียนตัวหนึ่งเข้า ไม่กี่นาทีหลังจากที่พวกเขาเดินจากไป เสือสาวตัวนี้ก็หนีออกมาจากกรง ผ่านพื้นที่อยู่ของสัตว์อื่นๆ อีกหลายชนิดโดยไม่ทำอันตรายใครเลย มันมุ่งมั่นในการเดินตามหาคนที่ทำให้มันโกรธและตรงเข้าโจมตีคนกลุ่มนั้นอย่างเดียว
แต่เรื่องนี้ก็เทียบไม่ได้เลยกับเรื่องของ Vladimir Markov ชายชาวรัสเซียผู้ไปทำให้เสือโกรธและถูกตามมาล้างแค้น
ในปี ค.ศ.1997 Vladimir Markov ยิงเสือตัวหนึ่งและขโมยเหยื่อที่มันเพิ่งล่ามาได้ ถึงแม้จะบาดเจ็บแต่เสือตัวนั้นก็หรือหนีไปได้พร้อมกับเก็บความแค้นฝังหุ่นไปด้วย
ต่อมา เสือตัวนี้ไปยังกระท่อมที่พักของ Markov ในป่าซึ่งตอนนั้นเขาไม่อยู่พอดี แล้วจัดการฉีกทึ้งทุกสิ่งทุกอย่างที่มีกลิ่นของ Markov อยู่ จากนั้นก็นั่งรออยู่ที่ประตูหน้าบ้าน เมื่อชายผู้โชคร้ายคนนี้กลับมาถึงที่บ้าน เขาก็โดนเสือฆ่าและจับกินไม่เหลือ
หนูไม่ทิ้งเพื่อน
ในภาษาอังกฤษ ถ้าคุณไปเรียกใครว่า “rat” จะถือว่าเป็นการดูถูก เหตุผลก็คงไม่แปลกนัก เพราะว่าหนูถือเป็นสัตว์สกปรก กินทุกอย่างที่ขวางหน้า ไม่มีการร่วมมือกันในกลุ่มและเห็นแก่ตัว แต่ไม่น่าเชื่อว่า นักวิทยาศาสตร์ที่เฝ้าศึกษาพฤติกรรมหนูพบว่า จริงๆ แล้วหนูเป็นสัตว์ที่มีความจงรักภักดีและช่วยเหลือเพื่อนหนูด้วยกัน
ในการทดลอง นักวิทยาศาสตร์ได้จับหนูสองตัวที่เคยอาศัยอยู่ในกรงเดียวกันมาแยกกันอยู่ โดยเอาตัวหนึ่งไปไว้ในกรงปิดที่ไม่มีทางออก แล้วปล่อยให้หนูอีกตัวดูอยู่ข้างนอก แน่นอนว่าหนูที่ถูกขังไว้เริ่มร้องส่งเสียงด้วยความวิตกจริต และในตอนนั้นเอง เพื่อนหนูของมันที่อยู่ข้างนอกก็จะเริ่มกระสับกระส่ายหาทางช่วยเหลือ ถึงขนาดที่ว่ามันไม่สนใจกองอาหารที่วางอยู่ใกล้ๆ เลยสักนิด เพราะมุ่งมั่นแต่การพยายามช่วยเพื่อนออกมาอย่างเดียว
นอกจากนั้น หลังจากที่นักวิทยาศาสตร์ปล่อยเพื่อนมันออกมาแล้ว หนูตัวที่อยู่ข้างนอกก็จะเอาอาหารมาแบ่งให้กินอีกด้วย และไม่แน่ว่าพวกมันอาจจะกำลังช่วยกันวางแผนแก้แค้นแบบเสือในหัวข้อที่แล้วอยู่ก็ได้
ช้างไว้อาลัย
เรารู้กันอยู่ว่าช้างเป็นหนึ่งในสัตว์ที่ฉลาดที่สุดในหมู่สัตว์ด้วยกัน ถึงแม้จะตัวใหญ่และมีพลังมาก แต่ด้วยความฉลาดก็ทำให้มันรู้จักคิดเป็น ช้างเป็นสัตว์ที่แสนรู้ขนาดที่มันสามารถแสดงอารมณ์ที่น่าจะมีเพียงมนุษย์อย่างเราที่ทำได้ นั่นคือ การไว้อาลัยให้คนตาย
เมื่อฝูงช้างในป่าเดินไปพบกับโครงกระดูกของช้างตัวอื่นอยู่บนพื้น (หรือแม้แต่ซากศพเอง) มันจะมายืนล้อมรอบกันแล้วสัมผัสกระดูกเหล่านั้นด้วยงวงยาวๆ ของมัน การกระทำนี้ถือเป็นการแสดงออกถึงการให้ความเคารพแก่เพื่อนร่วมสายพันธุ์ที่ตายไป ยิ่งไปกว่านั้น บางครั้งช้างจะทำการฝังกระดูกเอาไว้ใต้ใบไม้หรือพุ่มไม้อีกด้วย
ที่แปลกไปกว่านั้นคือ ช้างไม่ได้ฝังกระดูกให้กับเพื่อนช้างของมันเท่านั้น เคยมีเหตุการณ์หนึ่งที่เคนย่า ช้างตัวหนึ่งได้ออกมาทำร้ายและฆ่าคนไปสองคน แต่ก่อนที่มันจะจากไป มันก็ฝังร่างของทั้งสองคนนั้นไว้ใต้กองกิ่งไม้และใบไม้เหมือนที่ทำกับเพื่อนของมัน
สรุปได้ว่า ถึงแม้ช้างจะยังคงเป็นสัตว์อันตรายและฆ่าคุณได้ มันก็จะสำนึกผิดแล้วช่วยฝังคุณไว้ด้วยความเคารพอยู่ดี ไม่ต้องเป็นห่วง
นกพิราบเชื่อเรื่องโชคลาง
ถ้าจะมีสิ่งไหนที่น่าจะเป็นพฤติกรรมของมนุษย์เท่านั้น ก็น่าจะเป็นเรื่องการของเชื่อในเรื่องของโชคลาง สาเหตุก็อาจจะมาจากความฉลาดต้องเป็นไปทั้งสองทาง สิ่งมีชีวิตแบบเราที่ฉลาดพอจะสร้างคอมพิวเตอร์ขึ้นมา ก็ยังจะเชื่อว่าการใส่ถุงเท้านำโชคช่วยให้มีโอกาสถูกหวยมากขึ้น แต่คุณรู้หรือไม่ว่านอกจากเราแล้ว ยังมีสิ่งมีชีวิตอีกชนิดที่เชื่อในเรื่องโชคลางเหมือนกัน โดยที่เราไม่จำเป็นต้องสอนมันเลยด้วยซ้ำ นั่นก็คือ สุดยอดนักทำลายรถ นกพิราบ นั่นเอง
B.F. Skinner เป็นนักจิตวิทยาที่มีชื่อเสียงจากการทดลองดูพฤติกรรมของหนูในกล่อง แต่นอกจากนั้นแล้ว เขายังทำการทดลองกับนกพิราบอีกด้วย เขาออกแบบการทดลองให้มีเครื่องมือที่จะปล่อยอาหารออกมาแบบสุ่ม ซึ่งนกก็ชอบอาหารพวกนี้มากๆ แต่พวกมันก็นึกไม่ออกว่าจะทำยังไงให้มีอาหารออกมาเพิ่มอีก
แน่นอนว่านกพิราบไม่เข้าใจเรื่องของการสุ่ม ดังนั้น มันจึงเริ่มเกิดความเชื่อว่า ถ้ามันทำพฤติกรรมอะไรสักอย่างจะทำให้มีอาหารออกมาได้ เช่น ถ้านกกำลังหมุนตัวพอดีในตอนที่อาหารตกลงมา ก็จะคิดไปเองว่า การหมุนตัวทำให้มีอาหาร
จากการทดลองนี้พบว่า นกพิราบแต่ละตัวจะพัฒนาระบบความเชื่อของตัวเองขึ้นมา อย่างนกตัวหนึ่งเชื่อว่าการหมุนตัวสองถึงสามครั้งในทิศทวนเข็มนาฬิกาทำให้มีอาหารปรากฏขึ้น ในขณะที่นกอีกตัวหนึ่งเชื่อว่าการผงกหัวทำให้อาหารตกลงมา ทั้งๆ ที่ Skinner เองก็ให้นกกินอาหารจนอิ่มมาก่อนแล้ว แต่นกก็ยังคงทำพฤติกรรมตามความเชื่อของมันเพื่อให้ได้อาหารเพิ่มมากขึ้นอยู่ดี
แมลงวันผลไม้ดื่มเหล้าเพื่อลืมความเศร้า
สำหรับพวกเราหลายๆ คน ความเศร้ามาคู่กับแอลกอฮอล์ ซึ่งนี่เป็นหนึ่งในข้อเสียของการเป็นมนุษย์ นั่นคือ สมองใหญ่ๆ ของพวกเรามาพร้อมกับอารมณ์ ความอ่อนไหวที่ใหญ่เหมือนกัน ดังนั้น เมื่อเกิดเรื่องเศร้าขึ้น เราก็มักจะต้องพึ่งแอลกอฮอล์ที่เยอะพอๆ กันในการช่วยลืม แต่ที่น่าแปลกคือ เราไม่ใช่สิ่งมีชีวิตเดียวในโลกนี้เท่านั้นที่ทำแบบนี้
แมลงวันผลไม้ เป็นสัตว์ที่มีความต้องการทางเพศสูงอยู่แล้ว ดังนั้น นักวิทยาศาสตร์จึงอยากรู้ว่า จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อแมลงวันผลไม้ตัวผู้ถูกตัวเมียปฏิเสธ ซึ่งก็เกิดขึ้นบ่อยอยู่แล้วเพราะแมลงวันตัวเมียจะไม่ยอมผสมพันธุ์ซ้ำในเวลาใกล้ๆ กัน ดังนั้น ถ้าเกิดมีตัวผู้ตัวที่สองเข้าหา ตัวเมียจะเขี่ยตัวผู้นั้นออกไปให้พ้นทางแล้วบินหนีไป
การทดลองทำโดยนำเอาแมลงวันตัวผู้ทั้งที่ได้ผสมพันธุ์กับตัวเมียและตัวที่ถูกปฏิเสธมา แล้วให้มันเลือกว่าจะกินอาหารธรรมดาหรืออาหารที่มีการผสมแอลกอฮอล์เข้าไป ในขณะที่แมลงวันปกติกินได้หมดไม่มีเลือกมาก ตัวที่ถูกสาวปฏิเสธมากลับเลือกที่จะกินอาหารที่มีแอลกอฮอล์มากกว่า
สาเหตุก็เหมือนกับคนเรา แอลกอฮอล์จะไปกระตุ้นสารเคมีในสมองของแมลงวัน เมื่อมันไม่ได้รับการปลดปล่อยทางเพศ มันก็เลือกจะมาปลดปล่อยกับเหล้าแืทนนั่นเอง