เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก สำนักข่าวอิศรา
สาวใจถึงขายกางเกงในใช้แล้ว ผ้าอนามัยใช้แล้ว ว่อนเฟซบุ๊ก ! แถมรูปถ่ายตอนใส่ ผู้ชายซื้อเพียบ สาว ๆ รุมสวดยับโรคจิตทั้งคู่ ด้านอธิบดีกรมควบคุมโรค ห่วงเชื้อราในเสื้อผ้ามือสอง ใครซื้อไปสูดดมต้องเช็กอาการทางจิต
เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2556 สำนักข่าวอิศรา ได้รายงานว่า ผู้สื่อข่าวไปพบหน้าเฟซบุ๊กเพจหนึ่งประกาศขายกางเกงในผู้หญิงที่ใช้แล้วอย่างโจ่งครึ่ม จนขณะนี้เกิดเสียงวิจารณ์อื้ออึงไปทั่วโลกอินเทอร์เน็ต
ทั้งนี้ สำนักข่าวอิศรา ได้เข้าไปตรวจสอบในเพจดังกล่าวพบว่าเจ้าของเพจเป็นหญิงสาวคนหนึ่ง ก่อตั้งเพจมาตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม 2556 โดยที่ผ่านมาได้ลงประกาศขายกางเกงในที่ใช้แล้ว ในราคาตัวละ 350 บาท แต่หากสั่ง 2 ตัว จะแถมรูปตอนใส่ให้ลูกค้าไปด้วย แต่หากสั่ง 3 ตัว จะได้แถมอีก 1 ตัว พร้อมกับรูปถ่ายตอนใส่ ซึ่งทั้งหมดจะถูกจัดส่งผ่านทางไปรษณีย์ คิดค่าส่ง 60 บาท
ปัจจุบัน หน้าเพจนี้มีคนเข้ากดไลค์กว่า 2 พันคนแล้ว และจากการตรวจสอบก็มีลูกค้าเคยสั่งซื้อสินค้าไปแล้วหลายราย ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ชาย นอกจากนี้ ยังมีบางคนติดต่อขอซื้อผ้าอนามัยที่ใช้แล้วด้วย ซึ่งเจ้าของเพจก็พร้อมจะขายให้ในราคาแผ่นละ 200 บาท
แน่นอนว่าเรื่องดังกล่าวเมื่อถูกบอกต่อกันในโลกไซเบอร์ ก็ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์กันไปทั่ว โดยเฉพาะผู้หญิงหลายคนได้เข้าไปเขียนข้อความในเพจดังกล่าวในทำนองว่า เป็นพวกโรคจิตทั้งคนซื้อและคนขาย พร้อมกับต่อว่าเจ้าของเพจที่ประกาศขายกางเกงในว่าทำตัวไม่เหมาะสม จนถูกหญิงสาวคนหนึ่งที่อ้างว่าเป็นเจ้าของเพจออกมาเขียนข้อความด่ากลับเช่นกันว่า การขายกางเกงในมือสองของเธอไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน เพราะนำของตัวเองมาขาย และก็เป็นการทำธุรกิจที่พอใจกันทั้งสองฝ่าย ก่อนจะต่อว่าคนที่เข้ามารุมถล่มเพจของเธอว่าคงเป็นพวกอิจฉาริษยาเธอมากกว่า
ขณะเดียวกัน สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ทางผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา ก็ได้ไปสอบถาม ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เพื่อขอความเห็นถึงพฤติกรรมที่เกิดขึ้น ซึ่งทาง ดร.นพ.พรเทพ ก็ให้คำตอบว่า การประกาศขายกางเกงในใช้แล้วถือเป็นความพอใจระหว่างคนซื้อกับคนขาย ไม่มีผลอะไรทางกฎหมาย ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ เพียงแค่เป็นสิ่งที่แปลกสำหรับสังคมไทย
อย่างไรก็ตาม นพ.พรเทพ ได้รู้สึกห่วงเชื้อราบางตัวที่ฝังอยู่ในกางเกงในอาจทำร้ายสุขภาพได้ ดังนั้น ควรนำเสื้อผ้ามือสองมาต้มฆ่าเชื้อก่อนจะสวมใส่ แต่ถ้าใครไปซื้อมาสูดดม ก็ควรไปปรึกษาจิตแพทย์ก่อนว่ามีอาการทางจิตหรือไม่
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจากOK
สำนักข่าวอิศรา