ลักษณะผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลก

 

 

 

 

 

 

ที่มา  :  http://www.dannipparn.com/thread-981-1-1.html

 

เบญจกัลยาณี ความงามของสตรี 5 ประการ คือ...


          1. เกสกลฺยาณํ (ผมงาม) คือ หญิงที่มีผมยาวถึงสะเอวแล้วปลายผมงอนขึ้น


          2. มงฺสกลฺยาณํ (เนื้องาม) คือ หญิงที่มีริมฝีปากแดงดุจผลตำลึงสุกและเรียบชิดสนิทกันดี


          3. อฏฺฐิกลฺยาณํ (กระดูกงาม) คือ หญิงที่มีฟันสีขาวประดุจสังข์ และเรียบเสมอกัน


          4. ฉวิกลฺยาณํ (ผิวงาม) คือ หญิงที่มีผิวงามละเอียด ถ้าดำก็ดำดังดอกบัวเขียว ถ้าขาวก็ขาวดังดอกกรรณิกา


          5. วยกลฺยาณํ (วัยงาม) คือ หญิงที่แม้จะคลอดบุตรถึง 10 ครั้ง ก็ยังคงสภาพร่างกายสาวสวยดุจคลอดครั้งเดียว

 

     ลักษณะอิตถี 64 ประการ

 

 

1. ถึงพร้อมด้วยรูปและวัย คือถึงแม้จะมีอายุมาก แต่ก้มีรูปร่างและผิวพรรณ ไม่หย่อยยาน ดุจสาวแรกรุ่น
2. เมื่อเวลามีครรณ์ ก็ดูกับราวว่าไม่มี คือ ไม่มีลักษณะปรากฎนูน ดั่งสามัญชนทั่วไป
3. ยังไม่พ้นวัยชรา ก็จะสามารถมีบุตรและธิดาได้
4. มีรูปร่างงดงามน่าชม เหมือนรูปวาด ประดับเครื่องตบแต่งทั้งมวล เหมือนเทพธิดา
5. ปราสจากโทษแห่งสตรี ไม่นอกใจสามี
6. มีวาจาสัตย์ ไม่พูดกระด้าง ไม่พูดคำหยาบ ไม่พูดเพ้อเจ้อเหลวไหล
7. ไม่มีวาจาเป็นโทษ
8. มีเสียงไพเราะ เหมือน นกดุเหว่า
9. ไม่พูดกลับกรอก
10. ปราสจากความโกรธ ความมัวเมา ความถือตัว ความกระด้าง ฉุนเฉียวทั้งปวง
11. พูดจาอ่อนหวาน น่ารัก
12. ไม่ริษยา พูดเหมาะแก่การ
13. ถึงพร้อมด้วยการบริจาค
14. มีศีล
15. ยินดีเฉพาะในสามี
16. อุทิตตนให้แก่สามีคนเดียว ปราสจากการคิดคำนึงถึงชายอื่น
17. มี ศีรษะ หู จมูก ได้ส่วนรับกัน
18. มีผมงาม ดำขลับ เหมือนแมลงภู่ตัวประเสริฐ
19. มีหน้าผากงาม
20. มีคิ้วงาม เสมือนสร้อยนกยูง
21. ปราสจากหน้านิ่ว คิ้วขมวด
22. มีใบหน้ายิ้มแย้ม
23. ปราใสทักทายก่อน
24. มีวาจา สุภาพ อ่อนหวาน
25. ถนัดขวา
26. ซื่อตรง
27. ไม่คดค้อม
28. ไม่จองหอง
29. ไม่มีมารยา
30. ถึงพร้อมด้วย หิริ โอตัปปะ ความละอายและเกรงกลัวต่อบาป
31. ไม่เป็นคนเหลาะแหละ เหลวไหล
32. เป้นคนหนักแน่น
33. ไม่เป็นคนปากร้าย
34. ไม่เป็นคนพูดพร่ำ เพรื่อ
35. มีความกำหนัด เกียจชัง ความหลงน้อย
36. ถึงพร้อมด้วย กลินแห่ง ศีล
37. มีความรู้ ระวัง ไม่ประมาท เลื่อนเล่อ
38. รักษา มี เท้า ตา เป็นอย่างดี มี มือ เท้าอ่อน นิ่ม
39. มีสัมผัส อ่อนนุ่ม
40. มีดวงตา บริสทุธิ์ เหมือน กลีบ ดอกบัวใส และ บัวเขียวสด และ ดุจ ตาเนื้อทราย
41. มีจมูกโด่งน่ารัก
42. มีอวัยวะให่ญน้อย ได้สัดส่วนดี
43. มีอวัยวะประจำ อยู่ตามสภาพ เป็นอันดี
44. มีอวัยวะ งดงามไม่มีตำหนิ
45. มีริมฝีปากแดงเหมือนลูกตำลึง สุก
46. มีฝันงาม ตรงเสมอ ไม่ลักหลั่น เรียบชิดสนิทเป็นอันดี
47. มีคอเรียวงาม
48. แต่งตัวขึ้น ในทุกโอกาศ ดูดีเสมอ
49. มีใจดี ในตาบริสุทธิ์ เหมือนดอกมะลิ
50. ไหล่ผึ่ง
51. แขนเรียวงามกลมกลึง
52. เมื่อมีครรณ์ ถันไม่กลายเป็นสีดำ และเมื่อให้บุตร ดื่มนมทุกวัน ก็ไม่หย่อน คล้อยลง เอวกลม กลึงดุจ คันธนู
53. สีข้างไม่ผิดปรกติ แม้จะมีครรณ์มาแล้วสิบครั้ง ก็ดูราวกับว่ามีแค่ครั้งเดียว
54. วงสะดือลึก
55. มีสะโพกกว้างเรียบ และแน่นหนา
56. มีร่างกาย ขาวสดใสเหมือนแท่งเพรช
57. มีแขน ขา อ่อนเหมือนงอนช้างชิดเสมอกัน
58. มีลำแข็งเหมือนแท่งเนื้อทราย
59. มีฝ่ามือ ฝ่าเท้า เหมือนอาบด้วยน้ำคร่ำแดง
60. เป็นที่พึงปรกติละลึก เมื่อได้พบเห็น ก็ชื่น อกชื่นใจ
61. มีจักษุประสาทว่องไว
62. เป็นที่น่า อิ่ม เอิบและน่ารักเมื่อได้ พบเห็น
63. มีผิวพรรณงามละเอียด เป็นนวลพรรณทองคำ
64. ประเสริฐ ด้วย รูปของสตรี มีรูปเหมือนเนรมิตร

 

ในครั้ง พทุธการ ผู้ที่มีลักษณะครบถ้วนตามนี้ คือ พระนางสิริมหามายา (พระมารดาของเจ้าชายสิทธัตถะ)

 

  

 

ที่มา  :  วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

 

พระนางสิริมหามายา มีพระนามเต็มว่า พระนางสิริมหามายา ศากยราชเทวี เป็นพุทธมารดาในพระพุทธเจ้า (พระโคตมพุทธเจ้า) ผู้มีบุญญาธิการเป็นพระศาสดาเอกของโลก เป็นพระมเหสีของพระเจ้าสุทโธทนะ กษัตริย์ผู้ครองกรุงกบิลพัสดุ์ แคว้นสักกะ และเป็นพระราชธิดาของพระเจ้าอัญชนาธิปราช กษัตริย์ราชสกุลโกลิยวงศ์แห่งกรุงเทวทหะ แคว้นโกลิยะ

หลังจากพระนางสิริมหามายา อภิเษกสมรสกับพระเจ้าสุทโธทนะ ไม่นาน วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ในคืนนั้นพระนางสิริมหามายากำลังบรรทมหลับสนิท ทรงสุบินว่าพระนางไปอยู่ในป่าหิมพานต์ มีช้างเชือกหนึ่งลงมาจากยอดเขาสูงเข้ามาหาพระนาง นำดอกบัวมาให้ เมื่อพระนางรับดอกบัวไว้แล้วก็ตื่นขึ้น ภายหลังโหราจารย์ประจำราชสำนักทำนายว่าเป็นสุบินนิมิตที่ดี จะมีพระราชโอรสผู้ประเสริฐอุบัติบังเกิด[1]

เมื่อใกล้กำหนดพระประสูติกาลที่กรุงเทวทหะ เมืองต้นตระกูลพระนาง ตามธรรมเนียมประเพณีพราหมณ์พระนางจะต้องเดินทางกลับ ในระหว่างเดินทาง ระหว่างกรุงกบิลพัสดุ์กับกรุงเทวทหะ บริเวณที่เรียกว่า ลุมพินีวัน (ปัจจุบันคือ ตำบลรุมมินเด แขวงเปชวาร์ ประเทศเนปาล) พระนางได้หยุดพักพระอิริยาบถ โดยประทับยืนพระหัตถ์ขึ้นเหนี่ยวกิ่งสาละ จนรู้สึกประชวรพระครรภ์ และได้ประสูติพระสิทธัตถะกุมาร เมื่อวันศุกร์ เพ็ญเดือน 6 ปีจอ ก่อนพุทธศักราช 80 ปี

ภายหลังประสูติพระโอรสได้ 7 วัน พระนางสิริมหามายาสิ้นพระชนม์ พระโอรสจึงอยู่ในความดูแลของพระนางปชาบดีโคตมี พระกนิษฐาของพระนางสิริมหามายา

 

ครั้นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าดำริ กระทำการสนองพระคุณพุทธมารดา จึงเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ สำหรับพระนางสิริมหามายานั้นอยู่บนสวรรค์ชั้นดุสิต พระอินทร์จึงนำพระพุทธองค์ขึ้นไป เมื่อทรงแสดงพระธรรมเทศนาประทานแก่พุทธมารดาจบลง องค์พระสิริมหามายา พุทธมารดา ก็บรรลุโสดาปัตติผล พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จกลับโลกมนุษย์เมื่อ วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11

 

 

 

Credit: http://women.postjung.com/686605.html
23 มิ.ย. 56 เวลา 16:25 3,394 130
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...