ในภารกิจสงครามต่างๆ การพรางตัวไม่ให้ศัตรูเห็นถือว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่ง
อีกทั้งต้องไม่ให้ข้าศึดจับได้ด้วย เพราะถ้าข้าศึกจับได้แล้วนั่นก็หมายถึงโอกาสที่
จะรอดชีวิตเกือบเท่ากับศูนย์ ซึ่งโดยส่วนมากที่เราเคยได้ยินเกี่ยวกับการพรางตัว
ก็จะมีการเอาสีเข้มๆมาทาตรงหน้าเพื่อลดการสะท้อน การเอาหญ้าหรือกิ่งไม้มา
เหน็บหรือปกคลุมตามตัว เพียงเท่านี้ท่านคิดว่าน่าจะมากพอต่อการตรวจจับ แต่มี
เหตุการณ์หนึ่งที่ใช้มากกว่าการพรางตัวเป็นพุ่มไม้ นั่นก็คือ เป็นต้นไม้เสียเอง เรื่อง
ราวจะเป็นอย่างไรไปติดตามชมกันค่ะ
ป่า Oosttaverne
เรื่องราวนี้เกิดขึ้นในปี 1917 ที่เมือง Messines ประเทศเบลเยี่ยม ขณะนั้นกอง
ทัพเยอรมันกำลังหาจุดที่ต้องการยิงปืนใหญ่ถล่มใส่ทหารอังกฤษ แต่ติดตรงที่ว่า
มีผืนป่า "0osttaverne" ขวางไว้อยู่ซึ่งผืนป่าตรงนั้นเป็นต้นไม้ที่ยืนตายทั้งหมด
ตรงพื้นก็เป็นกองโคลนเลนเหนียวๆแหยะๆ ต่อให้เยอรมันส่งคนเข้าไปสังเกตุการณ์
ในป่า พวกทหารนั้นก็จะตกเป็นจุดสังเกตุได้อยู่ (แหมก็ต้นไม้ตายตายหมดทั้งป่า)
แถมแถวนั้นก็ไม่มีซากม้าปลอมไว้ให้ซุ่มแอบด้วย
ปล. เสริมนิดนึง ในสมัยก่อนบนสนนามรบมีซากสัตว์ตายเกลื่อนเต็มพื้น เขาก็เลย
เกิดไอเดียสร้างซากสัตว์ปลอมปะปนกับซากสัตว์จริง เพื่อไว้ใช้ซุ่มหลบซุ่มโจมตีอะ
ไรก็ว่ากันไป
ดังนั้นกองทัพเยอรมันเลยเกิดไอเดียสร้างต้นไม้ปลอม ตอนช่วงกลางวันก็ทำปกติ
พอตกกลางคืนก็ไปตัดต้นไม้ในป่าออกทีละต้น พร้อมกับยิงปืนใหญ่เพื่อกลบเสียง
ตัดไม้ ก่อนจะเอาต้นไม้ปลอมไปปะปนกับต้นไม้จริง ส่วนต้นไม้ปลอมนี้เอามาจาก
ซากเสาเหล็กสูงประมาณ 25 ฟุต (7.62 เมตร) ที่ไม่ได้ใช้แล้วเอามาทาสีหน่อย
ทำผิวนอกให้เหมือนเปลือกไม้แซมด้วยเปลือกไม้จริงนิดนึง และเจาะรูตรงด้านบน
ไว้ให้ทหารปีนขึ้นไปส่องสังเกตุการณ์ แถมมีที่นั่งไว้กันเมื่อยด้วยนะเออ...
ภาพต้นไม้ปลอมแบบเต็มต้น
ข้างในโครงเหล็ก ข้างนอกทำเหมือนไม้
ที่นั่งด้านบนไว้ให้ทหารสังเกตุการณ์นั่ง
ทางเข้าต้นไม้ปลอม
บันไดไว้ปีนขึ้นไปสังเกตุการณ์
แผนต้นไม้ปลอมของเยอรมันนับว่าเจ๋งอยู่ แต่ใช้ได้แค่เดือนเดียวค่ายเยอรมันก็แตก
เพราะกองทัพอังกฤษใช้วิธีขุดอุโมงค์ไปฝังระเบิดตามแนวรั้วของเยอรมันแล้วระ
เบิดทิ้ง จากนั้นต้นไม้ปลอมของเยอรมันก็ไม่มีใครสังเกตุเลยนับไปถึง 7 เดือน...
จ๊ะเอ๋!! มีใครอยู่มั๊ยตัวเอง
ที่มา : awm.gov, cracked