สุดสลด คุณตาวัยเฉียดร้อยถูกลูกสาวแท้ ๆ ยึดบ้าน-ไล่ออกจากบ้าน

จอห์น พอตเตอร์ และหลานสาว


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก gofundme.com  

          สุดสลด คุณตาวัยเฉียดร้อยถูกลูกสาวแท้ ๆ ยึดบ้าน และไล่ออกจากบ้าน หลานสาวไม่เห็นด้วยจึงช่วยตารวบรวมเงินบริจาคมาซื้อบ้านคืน แต่อีกฝ่ายไม่ยอมขาย

          หลังจากที่ จอห์น พอตเตอร์ วัย 92 ปี แห่งรัฐโอไฮโอ สหรัฐฯ ถูกลูกสาวแท้ ๆ ยึดบ้านที่เขาสร้างมากับมือเมื่อ 56 ปีก่อนไป ก่อนที่จะให้ศาลสั่งขับไล่เขาออกจากบ้านไปเมื่อปีที่ผ่านมา นายจอห์นพร้อมกับหลานสาว คือ จาคลีน ฟราเลย์ วัย 35 ปี ที่ไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมของแม่ตัวเอง ก็ได้ช่วยกันรวบรวมเงินบริจาคผ่านทางเว็บไซต์โกฟันด์มี เพื่อนำเงินมาซื้อบ้านของเขาคืน โดยมีชาวเน็ตที่เห็นใจร่วมบริจาคมารวมเป็นเงิน  139,603 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4.4 ล้านบาท) นั้น

          ล่าสุด เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2556 เว็บไซต์เอบีซีนิวส์ มีรายงานว่า จอห์นและหลานสาวต้องพบกับความผิดหวังซ้ำอีกครั้ง เมื่อ เจนีซ โคทริลล์ ลูกสาวของจอห์น ได้ปฏิเสธคำเสนอขอซื้อบ้านคืนของเขา อีกทั้งจอห์นยังจะต้องเข้าไปฟังคำสั่งการขับไล่ครั้งต่อไปในวันที่ 26 มิถุนายนนี้ ที่สำนักงานศาลเขตวินตัน 

          และนั่นทำให้จาคลีนถึงกับน้ำตาตก เมื่อทนายความของจอห์นนำข่าวร้ายนี้มาบอกกับเธอ เพราะมันก็เป็นสถานการณ์ที่ทำร้ายจิตใจของเธอจนเกินไป แต่ถึงอย่างนั้นเธอกับตาก็รู้ดีว่าพวกเขาได้ทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้แล้ว

ก่อนหน้านี้ จอห์นได้ลองนำบ้านมาประเมินราคาในตลาด และก็พบว่าบ้านและที่ดินของเขานั้นมีมูลค่าอยู่ที่ราว 47,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.46 ล้านบาท) ซึ่งต่ำกว่าที่เขาและหลานสาวคาดเล็กน้อย ดังนั้น พวกเขาจึงยื่นข้อเสนอซื้อบ้านตามราคาประเมินนั้นผ่านทนายความของเขาไป แต่กลับได้รับการตอบรับเป็นราคาเสนอขายอยู่ที่ 85,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.64 ล้านบาท) บวกกับค่าใช้จ่ายในกระบวนการขับไล่และค่าทนายอีก 15,500 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4.8 แสนบาท) แทน 

          จากนั้นจอห์นก็ได้ปรึกษากับหลานสาวและทนายของเขาเพื่อยื่นข้อเสนอซื้อครั้งที่ 2 ในราคา 60,005.25 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.87 ล้านบาท) เมื่อวันที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา แต่ลูกสาวของเขาก็ยังคงปฏิเสธโดยอ้างว่าเป็นราคาที่ยอมรับไม่ได้ และเธอจะไม่ลดราคาให้เด็ดขาด

          แน่นอนว่าจอห์นเองก็ไม่เต็มใจที่จะจ่ายมากไปกว่าราคาประเมินนั้นเช่นกัน ขณะที่จาคลีนเองก็ตัดสินใจแล้วว่าหากแม่ของเธอไม่ยอมขายบ้านคืนให้ตา เธอก็คงจะต้องนำเงินบริจาคที่ได้รับมานี้ มาซื้อบ้านหลังใหม่ให้แก่ตาของเธอแทน
สำหรับเรื่องทั้งหมดนี้ เริ่มขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 ซึ่งจอห์นที่เสียภรรยาไปแล้วได้ตัดสินใจมอบอำนาจทั่วไปให้แก่เจนีซลูกสาวของเขา เพื่อให้เธอจัดการเรื่องในอนาคตหากเขามีสุขภาพที่ย่ำแย่ลง รวมทั้งให้เธอดูแลพี่ชายวัย 64 ปีของเธอที่ป่วยเป็นออทิสติกด้วย โดยไม่คาดเลยว่าเจนีซจะใช้อุบายยึดบ้านของเขา และหลอกให้เขาโอนโฉนดบ้านมาเป็นชื่อของตัวเธอเองในที่สุด จากนั้นเจนีซ ก็พาสามีใหม่เข้ามาในบ้าน และยื่นเรื่องต่อศาลให้สามีของเธอได้กลายมาเป็นผู้ปกครองของพี่ชาย พร้อมทั้งขับไล่จอห์นออกจากบ้าน 

          ทั้งนี้ ทิม กลีสัน ทนายความของจอห์น เผยว่า หลังจากนี้เขาจะเปิดโอกาสให้ลูกสาวของจอห์นเสนอราคาขายมาอีกครั้ง แต่หากเธอไม่ยอม เรื่องก็คงต้องจบโดยที่จาคลีนเลือกที่จะนำเงินไปซื้อบ้านหลังใหม่ให้แก่จอห์นแทน อย่างไรก็ตาม นี่ก็เป็น 1 ในคดีที่น่าเศร้าที่สุดที่เขาเคยร่วมทำคดีมา นั่นทำให้เขารู้สึกท้อแท้ที่อาจจะไม่สามารถทำให้คดีจบลงด้วยดีได้ แต่เขาก็จะพยายามต่อไปให้ดีที่สุด
Credit: http://hilight.kapook.com/view/87605
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...