6 อันดับ พ่อ-แม่ ยอดแย่ !!

 

 

 

 

 

6 อันดับ พ่อ-แม่ ยอดแย่ !! นั้นเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น (ในต่างประเทศ) และเรื่องนั้นได้ปรากฏออกมาให้คนทั่วไปได้พบเห็น จนเกิดเสียงวิพากวิจารณ์เกี่ยวกับการกระทำนั้นๆด้วย บางข่าวนั้นเพื่อนๆอาจจะเคยได้ยินมาแล้วก็ได้ โดยทางเว็บไซต์ oddee.com ได้ จัดอันดับ มา เกี่ยวกับ  The Worst Parents Ever ซึ่งพอได้อ่านดูแล้วบางที ความหวังดีของพ่อ-แม่ก็กลายเป็นสิ่งที่ทำร้ายลูกคุณเองโดยไม่รู้ตัวนะคะเนี่ย ..

“ซาร่า บูจ” ผู้หญิงวัย 50 ปีคนนี้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางเพราะเธอหลงใหลตุ๊กตาบาร์บี้เข้าขั้นเสพติด จึงยอมเสียเงินเป็นล้านๆ เพื่อศัลยกรรมหน้าตาและรูปร่างให้ออกมาใกล้เคียงกับตุ๊กตาบาร์บี้มากที่สุด

ซาร่า บูจ มีลูกสาววัย 10 ขวบชื่อว่า “ป๊อปปี้” ในวันเกิดปีที่ผ่านมา ซาร่า บูจ ได้มอบของรางวัลสุดแปลกให้แก่ลูกสาวนั่นก็คือ เวาเชอร์หรือบัตรกำนัลของขวัญเพื่อศัลยกรรมหน้าอก !โดยซาร่า บูจได้เล่าว่า ป๊อปปี้ได้เดินเข้ามาบอกเธอว่าอยากมีหน้าอกที่อึ๋ม ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจให้บัตรกำนัลของขวัญนี้แก่ลูกสาว เพื่อที่ป๊อปปี้จะได้ใช้ไปเสริมหน้าอกได้เมื่ออายุ 16 ปีบริบูรณ์ (ยังทำตอนนี้ไม่ได้เพราะผิดกฏหมาย)

แน่นอนว่าเมื่อข่าวนี้แพร่ออกไป ก็ได้รับการวิจารณ์จากคนทั่วไปอย่างกว้างขวาง เช่น “คนเป็นแม่เสพติดศัลยกรรมมากเกินไปจนแพร่มาถึงลูกด้วย” หรือไม่ก็ “คนเป็นพ่อไม่ปวดหัวแย่เหรอ”… นั่นสินะ

“ทอร์รี่ แฮนเซน” หญิงชาวอเมริกันได้รับอุปการะเป็นแม่บุญธรรมให้แก่เด็กชายกำพร้าชาวรัสเซีย “อาร์เทียม ซาเวเลียฟ” แต่เมื่ออาร์เทียมอายุได้ 7 ขวบ เขาก็เริ่มแสดงอาการทางจิต มีอารมณ์ที่เกี้ยวกราด โมโหร้าย ทั้งๆ ที่ผู้เป็นแม่บุญธรรมได้เลี้ยงดูและดูแลอย่างดี

ในที่สุด ทอร์รี่ แฮนเซน ก็ทนกับพฤติกรรมของลูกชายบุญธรรมวัย 7 ขวบนี้ไม่ไหว เธอตัดสินใจส่งเด็กคนนี้กลับประเทศรัสเซีย โดยเธอแนบจดหมายไปกับตัวเด็กชายมีใจความว่า “ฉันได้ทำการเลี้ยงดูเขาอย่างดีที่สุด แต่ตอนนี้รู้สึกเสียใจมากที่จะต้องทำแบบนี้เพื่อความปลอดภัยของครอบครัวของฉัน ฉันไม่ต้องการที่จะเลี้ยงดูเด็กคนนี้อีกต่อไปแล้ว” พร้อมกับได้จ้างคนให้ไปรับอาร์เทียมที่สนามบินปลายทาง และเมื่ออาร์เทียมเดินทางโดยลำพังจากอเมริกามาถึงรัสเซีย เขาก็ถูกส่งตัวไปที่กระทรวงการศึกษาและวิทยาศาสตร์ของรัสเซีย เพื่อรับการบำบัดพฤติกรรมต่อไป

สำหรับเรื่องนี้มีทั้งกระแสเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย … สำหรับกระแสเห็นด้วยนี่ออกแนวภาพยนตร์เรื่อง Orphan (เด็กนรก) ที่รับเด็กมาเลี้ยงแต่นับวันก็ยิ่งแสดงอาการโรคจิตออกมา (น่ากลัวมากๆ) ขืนเลี้ยงไว้วันดีคืนดีอาจฆ่าคนตายได้ ส่วนกระแสไม่เห็นด้วยก็ออกมาบอกว่า ทำไมถึงทอดทิ้งเด็กและปล่อยให้เด็กตัวเล็กๆ เดินทางไกลคนเดียว ต่อให้เด็กจะร้ายแค่ไหน แต่เด็กก็คือเด็กวันยังค่ำ …… แล้วเพือนๆ teen.mthai ล่ะ คิดยังไง ?

สามีภรรยาชาวเกาหลีคู่หนึ่งพบรักกันทางอินเตอร์เน็ต ทั้งสองแต่งงานและอยู่กินด้วยกันโดยที่ทั้งคู่นั้นไม่มีงานทำและติดเกมออนไลน์มากกกกกกกกกกๆๆ เรียกว่าวันๆ อาศัยสิงสถิตอยู่ในร้านอินเตอร์เน็ตเพื่อเล่นเกมอย่างเดียว โดยเกมที่ทั้งคู่ติดนั้นชื่อเกม PRIUS เป็นเกมบทบาทสมมติที่ผู้เล่นต้องทำงานและเลี้ยงลูก

ต่อมาฝ่ายหญิงตั้งท้องและคลอดลูก แต่ทั้งสองสามีภรรยาก็ยังไม่เลิกติดเกมจนละเลยไม่สนใจลูกน้อย เพราะพวกเขามัวแต่ให้ความรักความสนใจแก่ลูกในเกมที่ชื่อว่า “อะนิม่า” จนในที่สุด ลูกวัย 3 เดือนก็เสียชีวิตลงเพราะขาดอาหาร ข่าวนี้สร้างความตกใจและสะเทือนใจเป็นอย่างมาก และแน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ถูกรุมประนามและถูกตำรวจจับตัวในที่สุด

“มิแรนด้า” คุณแม่ที่มีลูกสาวกำลังย่างเข้าวัยรุ่น อาศัยอยู่ในรัฐฟลอริด้า สหรัฐอเมริกา ได้โทรเรียก “คู่ปรับ” ที่โรงเรียนของลูกสาวให้มาหาเธอและลูกสาวที่อพาร์ทเมนท์ เพื่อให้ลูกสาวของเธอและเพื่อนคู่ปรับคนนั้นตบตีกัน !! ซึ่งระหว่างที่ทั้งคู่ตบตีกันนั้น มิแรนด้าก็คอยตะโกนเชียร์ส่งเสียงให้ลูกสาวของเธอตบให้หนักขึ้น = =” แต่โชคไม่ดีที่มีบุคคลที่สาม (หรือสี่ ?) แอบถ่ายคลิปและโพสท์ลงใน Facebook จนกลายเป็นประเด็นใหญ่ในโลกออนไลน์

ต่อมา มิแรนด้าถูกจับตัวไปสอบสวน เธอสารภาพว่า สาเหตุที่ต้องทำอย่างนี้เพราะกลัวว่าลูกสาวของเธอและคู่ปรับคนนั้นจะไปตบตีกันที่โรงเรียน ดังนั้นเธอจึงเรียกให้มาตบกันที่บ้านเลยดีกว่า เพราะยังไงๆ ก็จะยังอยู่ในสายตา …. แหม ทำไปได้

ข่าวนี้เป็นอีกข่าวที่ดังมากๆ ค่ะ … คุณแม่ชาวอังกฤษวัย 34 ปีที่อาศัยอยู่ในอเมริกา ได้ฉีดโบทอกซ์ให้ลูกสาววัย 8 ขวบ !! เพราะเธอใฝ่ฝันและตั้งใจอยากให้ลูกสาวประกวดนางงาม จึงพยายามทำทุกวิถีทางให้ลูกสาวดูดีขึ้นแม้กระทั่งฉีดโบทอกซ์เพื่อป้องกันริ้วรอยเหี่ยวย่น จากนั้นเธอได้พาลูกไปออกรายการ Good Morning America และรายการ Inside Edition ของอเมริกา และเล่าเรื่องนี้ให้ผู้ชมฟังอย่างภาคภูมิใจ

แต่เมื่อรายการออกอากาศไป ก็ได้รับการวิจารณ์(ด่า)ยับเลยทีเดียวค่ะว่า สิ่งที่คุณแม่คนนี้ทำเป็นการทำร้ายลูกสาวอย่างมาก ทำให้เจ้าหน้าที่ทางการของหน่วยคุ้มครองเด็กของสหรัฐอเมริกาเข้ามาสอบสวนเรื่องนี้และได้ออกคำสั่งแยกแม่ลูกคู่นี้ออกจากกันเป็นระยะเวลาหนึ่ง 

“รอนด้า โฮลเดอร์” คุณแม่ผู้เข้มงวดกับผลการเรียนของลูกชาย รู้สึกผิดหวังมากเมื่อเห็นผลการเรียนของลูกชายวัย 15 ปีที่สอบตกแทบทุกวิชา ทำให้เกรดตกลงมาที่ 1.22 เธอจึงตัดสินใจลงโทษด้วยการให้ลูกชายไปยืนอยู่ริมถนนใหญ่แห่งหนึ่งในรัฐฟลอริด้า และติดป้ายห้อยคอเพื่อประจานว่าสอบตก โดยป้ายที่ห้อยคอนั้นเขียนว่า “I DID 4 Questions on my F-Cat AND Said I Wasn’t Going to Do it! GPA 1.22… Honk if I NEED [an] Education.”

Credit: http://teen.mthai.com/variety/44981.html
22 มิ.ย. 56 เวลา 10:38 5,949 2 140
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...