ศาลอาญา ถ.รัชดาฯ 19 มิ.ย.-"เสี่ยอู๊ด" สิทธิกร บุญฉิม เตรียมออกจากเรือนจำวันพรุ่งนี้ (20 มิ.ย.) หลังถูกจำคุกครบกำหนดโทษ 5 ปี ตามคำพิพากษาของศาล กรณีการโฆษณาหลอกลวงให้ประชาชนเช่า "พระสมเด็จเหนือหัว"

นายทวี ประจวบลาภ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา กล่าวถึงกรณีการปล่อยตัวนายสิทธิกร บุญฉิม หรือเสี่ยอู๊ด กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไดมอนด์ ฮิลล์ จำกัด จำเลยคดีฉ้อโกงประชาชน กรณีโฆษณาหลอกลวงให้ประชาชนเช่า "พระสมเด็จเหนือหัว" เมื่อปี 2550 ที่ศาลอาญาและศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนจำคุก 5 ปี ซึ่งวันพรุ่งนี้ ( 20 มิ.ย.) จะครบกำหนด 5 ปีว่า ปกติถ้าศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ท้ายหมายขังจะมีแบบพิมพ์ว่าถ้าขังจำเลยมาครบอัตราโทษที่ศาลลงโทษแล้วก็ให้ปล่อยตัวไป ซึ่งทางราชทัณฑ์จะตรวจสอบให้ถูกต้องตรงกัน

ด้านนายกอบเกียรติ กสิวิวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ว่านายสิทธิกรถูกคุมขังครบกำหนดตามคำพิพากษาในวันที่ 20 มิ.ย.นี้ จึงจะมีการปล่อยตัวช่วงเช้าวันพรุ่งนี้ต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงปลายเดือน พ.ค.2556 กรมราชทัณฑ์มีหนังสือถึงอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา เรื่องจำเลยถูกจำคุกครบกำหนดโทษปล่อยเฉพาะคดีว่านายสิทธิกร จำเลย ถูกจำคุกมาจะครบกำหนดโทษปล่อยตัวในวันที่ 20 มิ.ย. จึงสอบถามมาว่าจะให้ปล่อยหรือขังจำเลยต่อไป ต่อมาเมื่อต้นเดือน มิ.ย. ศาลอาญาจึงมีคำสั่งแจ้งว่าเมื่อจำเลยครบกำหนดโทษแล้วก็ให้ปล่อยตัวไป

สำหรับนายสิทธิกร วัย 41 ปี จำเลยที่ 1 ถูกอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 2551 ว่าร่วมกับบริษัท ไดมอนด์ ฮิลล์ จำกัด จำเลยที่ 2 ในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน , ร่วมกันโฆษณาโดยใช้ข้อความที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับสินค้า และใช้ข้อความอ้างอิงเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ โดยไม่ได้รับพระราชทานอนุญาต ไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค หรืออาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสังคมส่วนรวม, ร่วมกันใช้เครื่องหมายราชการโดยไม่ได้รับอนุญาต และเลียนเครื่องหมายราชการให้ปรากฏวัตถุหรือสินค้าใดๆ และถูกคุมขังมาตั้งแต่ปี 2551

ซึ่งศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 1 เม.ย.2553 ให้จำคุกนายสิทธิกร จำเลยที่ 1 ทั้งสิ้น 5 ปี และปรับบริษัท จำเลยที่ 2 รวม 12,000 บาท โดยให้จำเลยทั้งสองร่วมกันคืนเงินกับผู้เสียหายทั้ง 921 คนที่เช่าพระสมเด็จเหนือหัว แต่ไม่ให้เกิน 4,055,916 บาทด้วย ต่อมาจำเลยยื่นอุทธรณ์ ซึ่งศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2556 ที่ผ่านมา ยืนตามศาลชั้นต้น ขณะที่คดีนี้พนักงานอัยการก็ได้ยื่นขอขยายฎีกา ซึ่งจะครบกำหนดฎีกาในวันที่ 28 มิ.ย.นี้ หากพนักงานอัยการยื่นฎีกาแล้ว ศาลอาญาจะต้องส่งสำนวนทั้งหมดให้ศาลฎีกาพิจารณาเพื่อมีคำพิพากษา และเมื่อมีคำพิพากษาศาลฎีกาส่งมายังศาลอาญาแล้ว ศาลอาญาก็จะต้องออกหมายเรียกนายสิทธิกรมาฟังคำพิพากษาศาลฎีกาต่อไป.-สำนักข่าวไทย