หากใครก็ตามได้มีโอกาสมาเยี่ยมเยือนประเทศสเปนแล้ว บาร์เซโลน่า เป็นเมืองหนึ่งที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง นอกจากความหลากหลายทางด้านวัฒนธรรม อาหาร และ ความมีชื่อเสียงด้านกีฬาแล้ว เมือง บาร์เซโลน่า ยังมีชื่อเสียงด้านสถาปัตยกรรมอันหลากหลายในส่วนต่างๆของเมืองอีกด้วย

ภาพมุมกว้างของเมือง บาร์เซโลน่า กับสิ่งก่อสร้างที่เป็นสัญลักษณ์ของเมือง La Sagrada Familia

 

สภาพบรรยากาศบางส่วนในเมือง บาร์เซโลน่า

บาร์เซโลน่า เป็นเมืองหลวงของแคว้นหนึ่งในสเปนทีชื่อว่า คาตาโลเนีย (Catalonia) หรือที่คนไทยจะคุ้นกับคำว่าแคว้นคาตาลัน โดยที่ชาวเมืองนี้พูดภาษาคาตาลัน (ซึ่งจะแตกต่างจะภาษาสเปน โดยจะเป็นกึ่งๆภาษาสเปนปนกับภาษาฝรั่งเศส) ซึ่งเป็นหนึ่งในภาษาที่ได้รับการยอมรับเป็นภาษาราชการจากสหภาพยุโรป และในอีกหลายประเทศ หากมาเที่ยวเมืองนี้แล้วสิ่งแรกๆ ที่ต้องทำเลยคือการไปเยือนโบสถ์ที่มีความสูงโดดเด่นมากที่สุดของเมืองที่ชื่อว่า “ซากาด้า แฟมีเลีย (Sagrada Familia)” ซึ่งได้เริ่มก่อสร้างมายาวนานมากกว่า 100 ปีแล้ว แต่ก็ยังไม่เสร็จสมบูรณ์เนื่องจากมีปัญหาหลายอย่าง อาทิเช่น ปัญหาสงครามกลางเมืองในยุคก่อน หรือแม้กระทั้งปัญหาความซับซ้อนของสถาปัตยกรรมของผู้ออกแบบ (ถ้าสร้างเสร็จเมื่อไหร่ก็จะกลางเป็นโบสถ์ที่มีความสูงที่สุดในโลกโดยทันที โดยจะมีความสูงกว่า 170 เมตร) โดยมีการคาดการณ์ว่าโบสถ์นี้จะก่อสร้างต่อไปอีกปหลายสิบปีกว่าจะเสร็จสมบูรณ์ตามแผนที่ได้วางไว้ อย่างไรก็ตามโบสถ์นี้ได้รับการยอมรับว่าเป็น UNESCO World Heritage Site ไปเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ยังสร้างไม่เสร็จ

โบสถ์ Sagrada Familia นี้ได้รับการยอมรับเป็น UNESCO World Heritage Site ไปเรียบร้อยแล้ว (ถึงแม้ว่ายังสร้างไม่เสร็จในตอนนี้)

ถ้าได้มาเยี่ยมเยือนเมือง บาเซโลน่า โดยเฉพาะโบสถ์ ซากาด้า แฟมีเลีย แห่งนี้แล้ว บุคคลท่านหนึ่งที่เราจะไม่กล่าวถึงไม่ได้เลยคือ แอนโทนี่ เกาดี้ (Antoni Gaudí) โดยเค้าคนนี้เป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมืองบาร์เซโลน่า เป็นคนออกแบบโบสถ์แห่งนี้ และยังรวมถึงอีกหลายๆสิ่งก่อสร้างในเมืองนี้ที่จะพูดถึงต่อๆไปอีกด้วย

ความยิ่งใหญ่อลังการด้านในของโบสถ์ Sagrada Familia 

ภายในโบสถ์ ซากาด้า แฟมีเลีย ถูกออกแบบมาอย่างชาญฉลาด โดยที่ผู้ออกแบบได้คำนึงถึงทิศทางของแสงแดดที่จะตกกระทบกระจกสีต่างๆ ทำให้เกิดลวดลายสีสันสวยงามภายใน หรือแม้กระทั่ง design ที่ได้รับอิธิพลมาจากธรรมชาติ คือจะมีลวดลายเส้นโค้งมนแบบต้นไม้ตามธรรมชาติ และหลีกเลี่ยงการใช้เส้นตรงในการออกแบบ และยังมีความงดงามอีีกหลายอย่างด้านในซึ่งยากต่อการพรรณา แต่ถ้าได้มีโอกาสเข้าไปชมแล้ว รับรองว่าจะประทับใจแน่นอน เพราะฉะนั้นโบสถ์ ซากาด้า แฟมีเลีย นี้เป็นที่ๆไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

นอกจาก นี้แล้วยังมีอีกหลายๆสถานที่ ที่น่าสนใจและควรค่าแก่การเยี่ยมชมสำหรับผู้ที่รักการออกแบบ และ รักสถาปัตยกรรม อาทิเช่น Casa Batlló (คาซ่า บาทิโย่ว) ซึ่งเป็นบ้านของมหาเศรษฐีรายหนึ่งที่ได้ว่าจ้าง ศิลปินเอกเกาดี้ (สมัยที่ยังมีชีวิตอยู่) ให้ออกแบบบ้านออกมา โดยที่เกาดี้ได้ใส่ใจในทุกๆรายละเอียดของบ้านหลังนี้แม้กระทั่งปุ่มกดลิฟท์ เลยทีเดียว (หากใครไปเยี่ยมชม Casa Batlló แนะนำให้ลองใช้ลิฟท์ดูซักครั้งหนึ่ง ปกติจะให้แค่คนพิการ หรือคนที่ใช้รถเข็นใช้ แต่ถ้าได้มีโอกาสใช้แล้วหละก็ จะเป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆเลยทีเดียว)

Casa Batlló (คาซ่า บาทิโย่ว) ซึ่งเป็นบ้านของมหาเศรษฐีรายหนึ่งที่ได้ว่าจ้าง ศิลปินเอกเกาดี้ (สมัยที่ยังมีชีวิตอยู่) ให้ออกแบบบ้านออกมา

สถานที่ต่อไปที่อยากจะแนะนำคือ Park Güell (ปาร์ค กูเอล) จะอยู่ห่างจากใจกลางเมืองออกมาสักเล็กน้อยแต่ว่าสามารถเดินทางมาได้โดยการ ใช้ Metro เป็นอีกที่หนึ่งที่ไม่ควรพลาดโอกาสเยี่ยมชม สวนสาธารณะแห่งนี้เปิดให้เข้าชมฟรี ในสวนเต็มไปด้วย design จำนวนมากที่ดูแปลกตา อย่างเช่นในรูป ซึ่งเป็นหนึ่งในสไตล์การออกแบบของ เกาดี้ ซึ่งบ้านของเค้าก็ยังอยู่ในสวนนี้อีกด้วย เนื่องจากสวนแห่งนี้ตั้งอยู่บนยอดเขา หากขึ้นไป ณ ​จุดสูงสุดแล้ว เราจะเห็นวิวของทั้งเมืองยาวไปจนถึงขอบชายฝั่งทะเลซึ่งจะสวยสดงดงามมากตอนพระอาทิตย์ตกดิน

บรรยากาศภายใน Park Güell

หนึ่งใน design ขึ้นชื่อภายใน Park Güell

La Rambla street (ถนน ลาลัมบรา) เป็นถนนท่องเที่ยวใจกลางเมืองที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของเมืองนี้ สองข้างถนนเต็มไปด้วยร้านขายของที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยว ถ้าหากมาเยี่ยมเยือนถนนเส้นนี้ในวันเสาร์-อาทิตย์ จะพบเห็นนักแสดงข้างถนน (Street show) จำนวนมากให้ชื่นชมความสามารถ และ ถ้ามาตรงกับวันที่มีการแข่งขันฟุตบอลนัดใหญ่ๆของทีมบาร์เซโลน่า ชาวเมืองจะมาเฉลิมฉลองชัยชนะกันบนถนนแห่งนี้หลังจากจบการแข่งขันด้วย

นอก จากที่ๆบอกมาแล้วนั้น เมือง บาร์เซโลน่า นี้ยังมีจุดให้นักท่องเที่ยวแวะชื่นชมและถ่ายรูปได้อีกหลาย จุดอาทิเช่น Montjuic ซึ่งมีเสาส่งสัญญาณ design แปลกตารอให้นักท่องเที่ยวมาถ่ายรูป

หรือแม้กระทั้งสนามบอล Camp Nou ของทีมฟุตบอลบาร์เซโลน่า (FC Barcelona) ซึ่งสามารถซื้อตั๋วเข้าไปชมสนาม (Stadium Tour) ในวันที่ไม่มีการแข่งขันได้อีกด้วย

อีกทั้งถ้าหากมาเที่ยวเมืองบาร์เซโลน่า นี้ช่วงเดือนเมษายน ก็สามารถหาซื้อตั๋วเข้าชมการแข่งขันเทนนิสคอร์ทดินระดับโลก Barcelona Open ชมนักเทนนิสชื่อดังมากมาย (ซึ่งราฟาเอล นาดาล เข้าร่วมการแข่งขันเกือบทุกปี) อย่างใกล้ชิดได้อีกด้วย

สุดท้ายนี้ไม่ว่าจะมาเที่ยวเมืองบาร์เซ โลน่าในช่วงไหนของปีก็ตาม คุณจะมั่นใจได้ว่าจะได้ลองลิ้มชิมรสชาติอาหารสเปนอันสุดแสนอร่อย อาทิเช่น ข้าวผัดสเปน (Paella), ทาปาส (Tapas) ต่างๆมากมาย และ ลองชิมเบียร์ผสมมะนาว (Shandy) รสชาติคล่องคอได้ตลอดทั้งปีเลยทีเดียวครับ