เรือปิศาจ Flying Dutchman

เมื่อพูดถึงเรือปิศาจ หรือ เรือผีสิง ที่ขึ้นชื่อว่าโด่งดังที่สุดก็คงไม่พ้นเรื่องของ เรือ ฟลายอิ้ง ดัทช์แมน Flying Dutchman ("De Vliegende Hollander")  ตามตำนานว่ากันว่าเป็นเรือผีสิงที่ต้องท่องไปในน่านน้ำไม่มีวันสิ้นสุด หรือไม่ก็จนกว่าโลกจะแตกไปข้างหนึ่ง วันดีคืนดีอาจมาปรากฏให้นักเดินทะเลสยองเล่นๆ ตามน่านน้ำต่างๆ ในรูปของเรือสำเภาสามใบเสา และกัปตันผู้ซึ่งยังแต่งกายในแบบศตวรรษเก่า ยกตัวอย่างก็เมื่อปี ค.ศ. 1892 ที่อ่าวเวสตัน ในเท็กซัส มีผู้เห็นเรือ ฟลายอิ้ง ดัทช์แมน ถึงสองครั้ง เป็นเรือที่มีแสงเรืองน่ากลัว ที่หัวเรือมีกัปตันเรือยืนอยู่ ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยว กรีดเสียงหัวเราะบ้าคลั่งชวนขนลุก

 
 
   เรือ Flying Dutchman หรือมีชื่อเรียกในภาษาดัชท์คือ "De Vliegende Hollander" เป็นเรือปิศาจที่พบเห็นได้มากที่สุดในบริเวณแหลม *** ๊ดโฮบ Cape of Good Hope ทวีปอัพฟริกาใต้ เรื่องเกิดขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 17 เรือ Flying Dutchman เป็นเรือของบริษัท Dutch East India Company เป็นเรือบรรทุกสินค้าอยู่ภายใต้การควบคุมของกัปตันเรือ van der Decken ที่มีจิตใจ *** มโหดและไม่นับถือพระเจ้า ในปี ค.ศ. 1680 ได้เดินทางไปถึงดินแดนทางตะวันออกซึ่งสมัยนั้นถือว่าไกลมาก ซึ่งประสบความสำเร็จด้วยดี และกำลังนำเรือกลับประเทศฮอลแลนด์เมืองบ้านเกิด ขณะแล่นผ่านมาถึงบริเวณแหลม *** ๊ดโฮบ ได้เกิดพายุขนาดใหญ่ขึ้น เรือฟลายอิ้ง ดัทช์แมนได้ถูกพายุพัดถล่มอย่างหนัก  หลังจากที่เรือต่อสู้กับพายุได้ประมาณหนึ่งชั่วโมงจนเรือออกไปนอกเส้นทางเดินเรือและกระแทกหินโสโครกจมลงหายไปพร้อมกับชีวิตคนบนเรือทั้งหมด ทุกคนเชื่อว่าพระเป็นเจ้าได้พิพากษาลงโทษกัปตันและเรือลำนั้นด้วยพายุที่เกิดขึ้นลูกนั้น เล่ากันว่า ระหว่างที่อยู่ในพายุนั้นกัปตัน van der Decken ซึ่งไม่ยอมแพ้ต่อพายุได้ตะโกนขึ้นว่า "I will round this Cape even if I have to keep sailing until doomsday! ( ข้าจะวนเวียนอยู่บริเวณแหลมนี้ ถึงแม้ว่าข้าจะต้องล่องเรือจนถึงวันสิ้นสุดของโลกก็ตาม )
 
   ได้มีตำนานเล่าขานต่อมาว่าเรือฟลายอิ้ง ดัทช์แมนได้กลับมาปรากฏตัวให้คนเห็นหลายๆ ครั้ง อย่างเช่นในปี ค.ศ. 1881 คนประจำเรือของ เจ้าชายจอรจ์ Prince George (ต่อมาเจ้าชายจอรจ์ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ใช้พระนามว่าพระเจ้าจอร์จ์ที่ 5) ได้มองเห็นเรือฟลายอิ้ง ดัทช์แมนปรากฎตัวขึ้นด้านหัวเรือ และหลังจากนั้นไม่กี่วันเขาก็เสียชีวิตด้วยการพลัดตกจนเสากระโดงเรือ ในปี ค.ศ. 1881 เช่นกัน มีเรือสินค้าชาติสวีเดนลำหนึ่งแล่นผ่านบริเวณที่เรือฟลายอิ้ง ดัทช์แมนจม ทันทีที่คนประจำเรือบนเสากระโดงได้เห็น เรือฟลายอิ้ง ดัทช์แมน ปรากฎตัวขึ้น เขาก็พลัดตกจากเสากระโดงเรือลงมาตาย ก่อนตายเขาได้พูดว่าเขาได้เห็น เรือฟลายอิ้ง ดัทช์แมน กัปตันเรือได้ส่งคนประจำเรือคนที่สองปีนขึ้นเสากระโดงเพื่อขึ้นไปดูและเขาก็เสียชีวิตในสองวันต่อมา หลายปีต่อมามีเรือสัญชาติอเมริกาแล่นผ่านเข้ามาในบริเวณแหลม *** ๊ดโฮป เรือลำนี้ชื่อ Relentless และพบกับเรือฟลายอิ้ง ดัทช์แมน กัปตันเรือได้ออกคำสั่งให้นายท้ายเรือหันหัวเรือไปยังเรือฟลายอิ้ง ดัทช์แมนเพื่อเข้าไปดูให้เห็นชัดขึ้น แต่นายท้ายเรือก็ไม่ได้หันหัวเรือไปตามคำสั่ง กัปตันไปดูกลับพบนายท้ายเรือนอนตายอยู่ที่พังงาถือท้ายเรือ และในคืนนั้นยังพบว่าคนประจำเรือสามคนได้หายตัวไปจากเรืออีกด้วย
 
 
   ยังมีตำนานเล่าขานถึงการปรากฏตัวเรือฟลายอิ้ง ดัทช์แมนอีกว่า ในปี ค.ศ. 1911โดยเรือชื่อ Orkney Belle เป็นผู้พบเห็นขณะเดินทางข้ามแหลม *** ๊ดโฮป ต่อมาในปี ค.ศ.  1939 มีคนมากกว่า 60 คนเห็นเรือฟลายอิ้ง ดัทช์แมนแล่นออกจากชายหาดผ่านพวกเขาไปและวิ่งหายไปในความมืดของทะเล  ปี  ค.ศ. 1942  ผู้บังคับการเรือดำน้ำ U boats พลเรือตรี  Karl Doenitz แห่งราชนาวีเยอรมัน ได้บันทึกในปูมเรือว่าพบเรือฟลายอิ้ง ดัทช์แมนแล่นผ่านเรือของเขาไป และในปี ค.ศ. 1942 เรือฟลายอิ้ง ดัทช์แมนได้ถูกพบโดยเรือรบหลวง H.M.S. Jubilee ผู้บังคับการเรือ Nicholas Monsarrat ได้พบและพยายามส่งสัญญาณไปยังเรือฟลายอิ้ง ดัทช์แมนแต่ไม่มีสัญญาณใดๆ ตอบกลับมา เขาได้บันทึกไว้ในปูมเรือว่าพบเรือใบไม่ทราบประเภทชั้นเรือแล่นผ่านไปภายใต้สภาวะที่ไม่มีกระแสลมพัดอยู่เลย  ในปี ค.ศ. 1943 คนจำนวน 4 คนในเมือง Cape Town ได้เห็นเรือฟลายอิ้ง ดัทช์แมนแล่นหายไปทางด้านหลังของเกาะ ในปี ค.ศ. 1959 กัปตันเรือ Staat Magelhaen พบว่าเรือกำลังมุ่งหน้าพุ่งเข้าชนกับเรืออีกลำหนึ่ง เรือลำนั้นก็คือเรือฟลายอิ้ง ดัทช์แมน แต่พอเรือเข้าใกล้จะชนปรากฏว่าเรือฟลายอิ้ง ดัทช์แมนได้หายตัวไป และยังมีอีกหลายครั้งที่เกิดพายุใหญ่บริเวณประภาคาร Cape light house มีบันทึกรายงานว่าได้พบเจอเรือฟลายอิ้ง ดัทช์แมนมาปรากฎให้เห็น (เมือง Cape Town สร้างขึ้นราวศตวรรษที่ 17 โดย Jan van Riebeeck ตัวแทนของบริษัท Dutch East India Company เหตุที่สร้าง Cape Town ขึ้นมา เพราะมีแผนจะแยกแหลม Cape ออกจากทวีปแอฟริกาด้วยการขุดคลองตัดผ่านคาบสมุทร แต่ในท้ายที่สุดเขาก็ต้องยอมยุติแผนดังกล่าว ปัจจุบันจึงมีเพียงแนวป่าต้นอัลมอนด์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความพยายามแยกตัวในครั้งนั้นหลงเหลือไว้เป็นอนุสรณ์)
 
 
การปรากฏตัวของ เรือ ฟลายอิ้ง ดัทช์แมน
 
ตามตำนานยังกล่าวกันว่า เรือลำนี้มีตำนานมาจากเรื่องเล่าสองเรื่อง  เรื่องแรกเป็นเรื่องของผีและกัปตันที่มีชื่อว่า แวนเดอเดคเคน (Captain Van Der Decken) ซึ่งเป็นคนที่นอกจากจะไม่นับถือพระเจ้าแล้วยังลบหลู่อย่างร้ายกาจอีกด้วย ส่วนเรื่องที่สองเป็นของนักเดินเรือที่ชื่อว่า เบอร์นาร์ด โฟคค์ คนนี้ทำสัญญากับปิศาจว่าจะยอมอยู่ในอาณัติของมันหากช่วยให้เขาเดินทางไปถึงอีสต์อินดีส์ใน 90 วัน สองเรื่องที่ว่าเชื่อกันว่าเป็นเหตุให้เรือและกัปตันต้องระหกระเหินไปทั่วร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำไปชั่วกาลนิรันดร....
Credit: Dominic
#เรือปิศาจ #Flying #Dutchman
Dhef
ผู้กำกับภาพ
สมาชิก VIP
14 มิ.ย. 56 เวลา 10:47 6,140 1 30
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...