ต้นเบาบับมีถิ่นกำเนิดที่มาดากัสการ์ (ซึ่งถือเป็นต้นไม้ประจำชาติด้วย) บนแผ่นดินใหญ่ของแอฟริกา และที่ประเทศออสเตรเลีย โดยเราสามารถพบกับ “ทุ่งเบาบับอันยิ่งใหญ่ที่สุด” ได้ที่ “ถนนเบาบับ” ในประเทศมาดากัสการ์

และทำไมต้นเบาบับถึงได้ชื่อว่า The Upside-Down Tree ด้วยลักษณะลำต้นที่เหมือนมีรากชี้ขึ้นฟ้ายังงัยล่ะคะ มีตำนานเล่ากันมาว่าเจ้าต้นเบาบับนี้ถูกพระเจ้าโยนลงมาจากสวรรค์ค่ะ เหตุเพราะไม่ชอบ ไม่ปลื้ม แล้วต้นไม้นี้ก็ตกหัวทิ่มปักพื้นโลกมนุษย์ แต่ไม่ตายกลับยังเติบโตงอกงามขึ้นมาได้เรื่อยๆ เสียอีกแหน่ะ

เบาบับ สามารถเติบโตได้ถึงขนาดใหญ่สูงถึง 5 ถึง 30 เมตรและมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางลำต้นของ 7 ถึง 11 เมตร สามารถกักเก็บน้ำไว้ในลำต้นอวบๆ ได้มากถึง 120,000 ลิตร ไว้รับมือกับสภาวะอากาศแห้งแล้ง ดังนั้นต่อให้แล้งอย่างไร ฉันก็ไม่หวั่น เพราะฉะนั้นจะไม่แปลกใจเลยถ้าหากทราบว่าต้นเบาบับจะมีอายุยืนได้ถึง 6,000 ปี ว้าว >,<

ในแอฟริกาซึ่งเป็นถิ่นกำเนิดเบาบับ ชนพื้นเมืองนำแทบทุกส่วนของต้นเบาบับมาใช้ประโยชน์มากมายในชีวิตประจำวัน ใบเบาบับถูกนำมารับประทานเหมือนผักสดซึ่งให้วิตามินซีสูง ผลมีรสเปรี้ยวและมีวิตามินซีสูง ถูกนำมาทำอาหารและมีขายในตลาดพื้นเมือง เมล็ดถูกนำมาสกัดทำน้ำมันและส่วนผสมของเครื่องสำอาง ช่วยทำให้ผิวหน้าไม่เหี่ยวย่น รากถูกนำมาสกัดเป็นยา ส่วนเปลือกต้นเบาบับนั้นมีคุณสมบัติเหนียวเป็นพิเศษ และถูกนำมาทำเชือก แห อวน เสื่อ หรือ กระดาษเบาบับคุณภาพสูง เรียกได้ว่าครบครันไปด้วยคุณประโยชน์ ไม่รู้ทำไมถึงถูกโยนทิ้งลงมาจากสวรรค์น่ะสิคะ

เบาบับถือเป็นไม้อนุรักษ์ของแอฟริกานะคะ คนไทยเราก็ชอบเลี้ยงแต่ว่าจะนิยมเลี้ยงเป็นไม้แคระสไตล์บอนไซค่ะ