คงมีหลายคนที่รู้จักและประทับใจกับทะเลสาบที่มีชื่อว่า Obersee (โอเบอร์เซ) แห่งเมือง Berchtesgaden ชายแดนประเทศเยอรมนี อยู่ในแคว้นบาวาเรีย ห่างจากมิวนิก 180 กิโลเมตร และห่างจากซาลส์บวร์กประเทศออสเตรีย ประมาณ 30 กิโลเมตร
โดยต้องผ่านทะเลสาบ Konigssee ที่หลายคนเรียกขานกันว่า เป็นทะเสสาบที่ใสสะอาดที่สุดในเยอรมนี โอบล้อมด้วยขุนเขาสูงตระหง่านบนเทือกเขา Watzmann ที่มีความสูง 2,713 เมตร สูงเป็นอันดับ 3 ของประเทศเยอรมนี นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปพิชิตยอดเขาชมความงามของทะเลสาบโอเบอร์เซ ต้องล่องเรือผ่านป่าสนไปยังจุดเริ่มต้นเดินป่า ต้องไต่ระดับความสูงตั้งแต่ชั้นอนุบาลไปจนถึงชั้นมหาวิทยาลัย (ยากมากสำหรับคนที่กลัวความสูง) แม้จะมีบันไดช่วย แต่ในบางช่วงบางตอนก็หวาดเสียวจนแทบก้าวขาไม่ออก
แต่ด้วยบรรยากาศรายล้อมที่ "ยิ่งสูงยิ่งสวย" วิวตรงหน้าจึงเป็นแรงส่งให้จำต้องไต่ระดับขึ้นไปอย่างไม่ย่อท้อ เพื่อชมสิ่งแปลกตาและความงามของทะเลสาบ ราวกับฝันไป เมื่อภาพวิวที่ปรากฏอยู่ตรงหน้านั่น ประดุจดั่งภาพเขียนจากจิตรกรฝีมือดี ที่ระบายภาพธรรมชาติอันวิจิตรบรรจงลงบนผืนผ้าใบ ตามแต่จินตนาการจะสร้างสรรค์ แต่ไม่คิดว่าภาพวาดเหล่านั้นจะปรากฏขึ้นตรงหน้า แถมทุกสิ่งยังเคลื่อนไหวได้
ความเหน็ดเหนื่อยมลายหายไปสิ้น
ผืนน้ำทะเสสาบทำหน้าที่เป็นกระจกสะท้อนภาพทิวเขา ส่องประกายแสงระยิบระยับเล็ก ๆ ตามคลื่นลมพัดโบกเบา ๆ ราวกับต้องมนต์ แทบทุกคนจะต้องยืนตะลึงกับฉากตรงหน้าตาไม่กะพริบ ก่อนจะคว้ากล้องมาบันทึกภาพ
ภาพถ่ายที่เคยเห็นก่อนหน้านี้ เรียกว่าหมดความหมายในทันใด เพราะสิ่งที่เห็นด้วยตาตัวเองนี่ เกินกว่าจะหาภาพใดมาเปรียบได้
หญ้าสีเขียวขจีทำหน้าที่เป็นพรมห่มเนินเขาทอดยาวปกคลุมไปสู่ทะเลสาบ ตัดกับสีทะเลสาบและภูเขาที่ซ้อนทับกันอย่างลงตัวและสวยงามอย่างไร้ที่ติ
หากกัดฟันเดินต่อไปอีกนิดก็จะได้ชมสายธารแห่งต้นน้ำเบื้องหน้า คือน้ำตกที่สูงที่สุดในเยอรมนี
จุดนี้เรายังได้เห็นเพื่อนร่วมทางตัวจ้อยเป็นเด็กอายุ 6-10 ขวบ เดินสวนทางออกมาอย่างแช่มชื่น ไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย
ในที่สุดก็หมดเวลาเพลิดเพลินกับความงามของธรรมชาติ เมื่อพระอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำลงมาเรื่อย ๆ จำเป็นต้องเร่งฝีเท้ากลับไปขึ้นเรือ เพื่อกลับไปยังเส้นทางเดิมพร้อมกับความทรงจำที่สวยงามเต็มกระเป๋า
ก่อนจะอำลาลำธาร ภูเขา และต้นไม้ สู่โบสถ์คาทอลิกเก่าแก่หลังเล็กที่นั่งเรือผ่านไปก่อนหน้านั้น เพื่อแวะพักดื่มน้ำและอาหาร แม้จะอยู่ลึกหรือไกลแค่ไหน ราคาอาหาร-เครื่องดื่มก็ไม่แตกต่างจากในเมือง
จากนั้นก็เดินชมโบสถ์ซังคท์บาร์โทโลแม มาจากชื่อผู้ปกครองคุ้มครองชาวนาชาวไร่ในเทือกเขาอัลไพน์ ภายในมีภาพเขียนโบราณประดับอยู่ตามผนัง
ก่อนกลับลงเรือขึ้นฝั่ง เป็นอันสิ้นสุดเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่งดงามที่สุด
แห่งหนึ่งของเยอรมนี ที่เปิดรอรับนักเที่ยวมาเยี่ยมชม
มิวนิก-ทะเลสาบ
ออกเดินทางจากมิวนิกด้วยรถไฟไปยังสถานี Freilassing และต่อรถไฟอีกครั้งไปยังเมือง Berchtesgaden กระซิบบอกราคาตั๋วโดยสารแบบ Bayern-ticket คิดเป็น 22 ยูโร มีอายุใช้ได้ 1 วัน คุณสมบัติของตั๋วชนิดนี้ สามารถใช้ได้ทุกที่ในเขต Bayern นั่นหมายถึง เราสามารถเริ่มใช้ตั้งแต่มิวนิก ไม่ว่าจะนั่งรถราง รถเมล์ หรือรถไฟใต้ดินมายังสถานีรถไฟก็สามารถใช้ตั๋วนี้ได้ จะเดินทางกี่เที่ยวก็ได้ภายใน 1 วัน
โรงแรม Georgenhof
จากนั้นเดินทางด้วยรถประจำทางจาก Konigsseeไปยังท่าเรือ และนั่งเรือต่อไปยัง Salet โดยเราสามารถเลือกล่องเรือได้ 2 ระยะทาง คือ ไปถึงแค่ St.Bartholoma ที่เป็นโบสถ์เก่า หรือจะมาให้ถึง Salet เส้นทางสายธรรมชาติ ซึ่งราคาตั๋วก็แตกต่างกัน Salet จะมีราคา 16.30 ยูโร
วิวจากห้องพัก
มีข้อแนะนำสำหรับเลือกที่พักมาให้นักเที่ยวพิจารณา ที่พักใน Schonau am Konigssee ทริปนี้เราเลือกแบบคุ้มค่าสุดประหยัดเข้าเช็กอินที่ Georgenhof แม้จะห่างจากป้ายรถเมล์และต้องยอมเดินขึ้นเดินบันได แต่รับรองวิวจากห้องพักสวยงามคุ้มค่าราคาแน่นอน พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ขนาดกว้างขวางพอสมควร ส่วน "โฟโต้มาเนีย" ที่ชอบแชร์ทั้งหลาย ที่นี่มียังมีไวไฟฟรีอีกด้วย
สำหรับอาหารโรงแรมมีอาหารเช้าให้บริการ ราคารวมกับค่าห้องแล้ว ส่วนอาหารเย็นคิดค่าบริการ 15 ยูโรต่อคน (สำหรับแขกที่พักในโรงแรมเท่านั้น) โดยเมนูประกอบด้วยซุป อาหารจานหลัก และขนมหวาน หากใครยังไม่มีโปรแกรมไปชิมที่ไหน การทานอาหารเย็นที่โรงแรมถือเป็นทางเลือกที่ดีที่เดียว เพราะรสชาติอร่อย ที่สำคัญราคาไม่แพง