เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

            เห็นข่าวอาชญากรรมตามหน้าหนังสือพิมพ์แล้วก็อดเป็นกังวลไม่ได้เลยว่า นับวันมิจฉาชีพได้คืบคลานเข้ามาใกล้ตัวเรามากขึ้น ๆ หลาย ๆ คดีเกิดเหตุขึ้นทั้งที่อยู่ในสถานการณ์และสถานที่ที่ไม่คาดคิด อย่างเช่นกลางชุมชน ตลาด หรือแม้กระทั่งลานจอดรถตามห้างสรรพสินค้า และยังมีอาชญากรรมอีกหลายเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วไม่เป็นข่าว โดยเฉพาะภัย "ผู้หญิง" เกิดขึ้นรายวัน แถมยังน่ากลัวมากเกินกว่าที่ใครจะคาดถึง

            อย่างเช่นเรื่องราวเตือนภัยสาว ๆ ที่แชร์กันในโลกไซเบอร์ขณะนี้ ทั้งในเฟซบุ๊ก และเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่มีผู้ตั้งกระทู้ "เตือนภัยผู้หญิงค่ะ เพื่อนเราเจอมากับตัวค่ะ น่ากลัวมาก" เล่าภัยอันตรายที่เพื่อนของเธอเจอมากับตัวจนเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด

            โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 8 มิถุนายน 2556 เวลาประมาณ 5 โมงเย็น หน้ามหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา จังหวัดนครปฐม มีผู้หญิงคนหนึ่งจอดรถตรงอยู่ข้างรั้วหอนาเดียเพลส หน้าร้านสลัมบาเร่ แล้วลงไปซื้อของกินหน้ามหาวิทยาลัย โดยช่วงนั้นฝนเริ่มตก เธอจึงถือร่มติดมือไปด้วย กระทั่งซื้อของเสร็จเดินกลับมาที่รถ ก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่เยื้อง ๆ ร้านสลัมบาเร่ แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรนัก เพราะฝนตกจึงรีบเดินไปที่รถ

            เมื่อผู้หญิงคนดังกล่าวเปิดประตูรถเรียบร้อย วางของไว้ในรถ เสียบกุญแจ ก็ได้หันมาหุบร่ม แต่เธอกลับต้องตกใจเมื่อพบผู้ชายคนที่เธอเห็นเข้ามายืนประชิดตัวเสียแล้ว ลักษณะสูงประมาณ 175 เซนติเมตร ใส่แจ็คเก็ตสีเขียวแขนยาว ค่อนข้างอ้วนและผิวดำ เธอจึงใช้ร่มตีที่ตัวผู้ชายคนนั้น แต่ผู้ชายยังคงเดินเข้ามาใกล้ เธอจึงใช้ร่มตีเข้าไปที่หน้าของผู้ชายอีกหลายครั้ง แต่ทว่าผู้ชายคนนั้นกับดึงตัวของผู้หญิงออกมาแล้วกดหัวให้ต่ำลง เธอจึงส่งเสียงร้องให้คนช่วย แต่ก็ไม่มีใครเข้ามาช่วย ทั้ง ๆ ที่น่าจะมีคนเห็นเหตุการณ์

            แต่โชคดีที่หลังจากนั้น จู่ ๆ ชายคนดังกล่าวได้ปล่อยเธอแล้วเดินออกไป เธอจึงรีบขึ้นรถแล้วล็อกประตูทันที ก่อนจะนั่งสงบสติอารมณ์อยู่สักพัก แต่สักพักก็มีผู้ชายผิวขาว ผมเกรียน สูงไม่เกิน 165 เซนติเมตร มาเคาะกระจกถามว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะผู้ชายคนที่เดินไปนั้นก็พยายามจะเปิดรถของเขาเหมือนกัน พร้อมกับบอกว่าเขาเป็นทหาร หากต้องการจะไปสถานีตำรวจก็จะไปเป็นเพื่อน แต่ผู้หญิงที่เป็นผู้เสียหายซึ่งยังตกใจอยู่ได้แต่บอกว่าไม่เป็นไร ๆ ผู้ชายคนนั้นจึงเดินกลับไปขึ้นรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ฟรีดสีขาว ทะเบียนขึ้นต้นด้วย กว และขับออกไป

            จากนั้น ผู้หญิงคนดังกล่าวได้ขับรถออกไปจากจุดเกิดเหตุเพื่อจะกลับบ้าน แต่เกิดเปลี่ยนใจขับรถกลับมาดูที่เกิดเหตุอีกครั้ง เพราะคิดว่าคนร้ายอาจเป็นแค่คนสติไม่ดี และยังอยู่แถวนั้น แต่เมื่อขับกลับมาไม่เจอจึงได้ขับรถกลับไป อย่างไรก็ตาม ระหว่างทางที่ขับออกมาซอย เธอก็สังเกตเห็นรถฮอนด้า ฟรีด สีขาว ของผู้ชายที่อาสาจะเข้ามาช่วยเหลือขับอยู่ละแวกนั้น และเหมือนกับขับมาทางเดียวจนเกือบถึงหมู่บ้าน แต่เธอก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร เพราะคิดว่าเป็นแค่เรื่องบังเอิญ และดูหน้าตาผู้ชายคนนั้นแล้วไม่ได้ร้ายกาจอะไร

            เหตุการณ์น่าจะจบลงด้วยความเข้าใจว่าผู้ชายคนแรกที่เข้ามาประชิดตัวน่าจะเป็นเพียงคนสติไม่ดีเท่านั้น แต่ทว่าในคืนวันอาทิตย์ที่ 9 มิถุนายน ผู้เสียหายคนนี้ได้ทราบว่าเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา มีรุ่นน้องถูกทำร้ายหน้ามหาวิทยาลัย โดยถูกช็อตและถูกซ้อม อีกทั้งคนร้ายได้กระโดดขึ้นรถฮอนด้า ฟรีด สีขาว ทะเบียนมี กว เหมือนกัน เธอจึงถามรุ่นน้องที่ถูกทำร้ายให้เล่าเหตุการณ์ให้ฟัง จนได้ทราบว่าผู้ชายที่ทำร้ายรุ่นน้องเป็นคนเดียวกับที่พยายามทำร้ายเธอ

            ในวันรุ่งขึ้น เธอกับรุ่นน้องได้ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ พร้อมกับแจ้งทะเบียนรถของคนร้าย เมื่อตำรวจตรวจสอบจึงได้รู้ว่า เจ้าของรถคือผู้ชายที่เข้ามาคุยกับเธอ และพยายามชวนไปสถานีตำรวจด้วยกัน อย่างไรก็ตาม ตำรวจยังไม่สามารถออกหมายจับได้ เพราะผู้ชายคนนี้ไม่ได้เป็นคนลงมือ ดังนั้น ผู้เสียหายจึงได้เขียนเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ลงในเฟซบุ๊ก เพื่อเตือนภัยให้ผู้หญิงระวังตัวกันให้มาก 

            ขณะเดียวกัน นอกจากเรื่องนี้แล้ว ในเฟซบุ๊ก "ศาลายานิวส์ | Salaya News" ก็ยังมีการโพสต์ข้อความเตือนนิสิตนักศึกษาให้ระวังรถยนต์ฮอนด้า ฟรีด สีขาว ทะเบียน กว XXXX กันด้วย เพราะรถคันนี้ได้ถอดเบาะหลังออกทั้งหมด และก่อเหตุพยายามอุ้มหญิงชาวต่างชาติที่หน้ามหาวิทยาลัยมหิดล โดยหญิงชาวต่างชาติคนนี้ ได้โพสต์เล่าเหตุการณ์คล้าย ๆ กัน ลงในเฟซบุ๊ก Kristina Marie Brady ด้วย จึงเป็นที่คาดกันว่าคนร้ายของทั้งสองเหตุการณ์น่าจะเป็นคนเดียวกัน