ปัญญา ขอโทษสังคม กรณี สิทธัตถะ เอมเมอรัล แจงรู้เท่าไม่ถึงการณ์




            ปัญญา นิรันดร์กุล ขอโทษสังคม กรณี สิทธัตถะ เอมเมอรัล ในรายการไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ 2013 แจงรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่ได้มีเจตนาดูหมิ่นศักดิ์ศรีใคร และไม่เคยคิดสร้างกระแสเรียกเรตติ้ง

            วานนี้ (11 มิถุนายน 2556) คณะอนุกรรมการส่งเสริมการกำกับดูแลกันเอง คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้ประชุมพิจารณาร่วมกับ นายปัญญา นิรันดร์กุล ประธานกรรมการบริษัท เวิร์คพอยท์ เอนเตอร์เทนเมนต์ จำกัด (มหาชน) นายสมรักษ์ ณรงค์วิชัย นางนิมะ ราชิดี ผู้แทนสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 และ รศ.อรุณีประภา หอมเศรษฐี ประธานสภาวิชาชีพกิจการแพร่ภาพและการกระจายเสียง (ประเทศไทย) เกี่ยวกับกรณีที่ รายการ "ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ ซีซั่น 3" ได้นำ สิทธัตถะ เอมเมอรัล ผู้เข้าแข่งขันรายหนึ่ง มาออกอากาศโดยมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมอย่างกว้างขวางถึงความไม่เหมาะสม เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ที่ผ่านมา

            ทั้งนี้ นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ ประธานคณะอนุกรรมการฯ เปิดเผยว่า การหารือกันในครั้งนี้ เพราะต้องการหาทางออกในด้านจริยธรรม จรรยาบรรณสื่อ และความรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อผลักดันให้มีการกำกับดูแลกันเองของวิชาชีพสื่อ และจากการพูดคุยกันนั้น เห็นได้ชัดว่าในตอนแรกทางเวิร์คพอยท์และทางช่อง 3 ไม่ทราบว่าเหตุการณ์นี้จะส่งผลกระทบต่อสังคมอย่างไร ซึ่งสะท้อนให้เห็นได้ว่าสื่อโทรทัศน์ยังขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องของจรรยาบรรณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นที่ละเอียดอ่อนอย่างเรื่องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
 
            ประธานคณะอนุกรรมการฯ กล่าวว่า สำหรับแนวทางการแก้ปัญหานั้น ในระยะยาวจะต้องมีกระบวนการศึกษาและสร้างความเข้าใจในเรื่องนี้ และต่อจากนี้จะนำเรื่องร้องเรียนส่งไปยังสภาวิชาชีพกิจการแพร่ภาพและการกระจายเสียงฯ เพื่อกลั่นกรองว่ารายการนี้ขัดต่อหลักจริยธรรม หรือจรรยาบรรณตามข้อบังคับขององค์กรวิชาชีพอย่างไรบ้าง ส่วนผลกระทบที่เห็นได้ชัดมีอยู่ 3 ระดับ คือ

            1. ผลกระทบต่อผู้เข้าประกวดและครอบครัว 

            2. ผลกระทบต่อผู้ปกครองที่มีลูกหลานญาติเป็นผู้ที่มีความต้องการพิเศษ หรือเป็นกลุ่มคนที่มีความแตกต่างในสังคม ซึ่งพบว่าปัจจุบันมีอยู่กว่า 2 ล้านคนในประเทศไทย

            3. ผลกระทบความรู้สึกต่อคนดูที่เป็นประชาชนทั่วไปที่มองว่าเรื่องนี้ค่อนข้างแรง กระทบความรู้สึกสูงต่อการสร้างทัศนคติเชิงลบในสังคม

            นอกจากนี้ นางสาวสุภิญญา ยังให้ระบุให้เจ้าของรายการออกมาตรการเยียวยาต่อสังคม เพราะแค่การขอโทษหรือการแสดงความรู้สึกเสียใจนั้นอาจจะยังไม่พอ เพื่อจะสร้างบรรทัดฐานต่อไปในการกำกับดูแลของ กสทช. และหากยังเกิดเหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้อีก ก็จะทำให้สังคมไม่เชื่อมั่น ซึ่งคงจะต้องเรียกร้องรัฐให้เข้ามาใช้กฎหมายให้แรงและมากขึ้น ทั้งนี้ ทางสภาวิชาชีพฯ ช่อง 3 และเวิร์คพอยท์ ต้องสามารถหาแนวทางกำกับดูแลร่วมกันเองได้ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับสังคมอีกครั้งว่า สื่อสามารถกำกับดูแลคนเองได้ระดับหนึ่ง ไม่เช่นนั้นสังคมก็จะเรียกร้องให้รัฐใช้อำนาจควบคุม
 
            ขณะที่ นายปัญญา เจ้าของรายการ ได้กล่าวขอโทษต่อความผิดพลาดดังกล่าว โดยระบุว่าเรื่องที่เกิดนั้นเป็นความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และไม่ได้มีเจตนาดูหมิ่นศักดิ์ศรีผู้ใด ซึ่งเรื่องที่เขาเป็นเด็กพิเศษทางรายการไม่รู้ ทำไมแม่ของเด็กไม่บอกก่อน ถ้าเป็นเคสปกติก็สามารถนำมาออกอากาศได้เลย อย่างไรก็ตาม ตนจะระมัดระวังในการออกอากาศในครั้งต่อไป และตนก็ไม่อยากให้โยงว่ารายการต้องการสร้างกระแสเพื่อเรียกเรตติ้ง เพราะตนคิดว่ารายการมีรูปแบบในการนำเสนอที่ดีอยู่แล้ว
 
            ส่วนทางด้าน นายสมรักษ์ ยอมรับว่า ตนไม่รู้ว่าเด็กพิเศษจะมีลักษณะอาการเช่นนี้ เพราะตนไม่ใช่แพทย์ อีกทั้งวัยรุ่นสมัยนี้จะมีความเป็นตัวของตัวเองสูง จึงไม่ทันรู้ว่าอาการแบบนี้คืออาการของเด็กพิเศษ แต่หลังจากนี้ตนจะเพิ่มมาตรการตรวจสอบให้เข้มงวดกว่าเดิม



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

ที่มา: เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม 

http://fb.kapook.com/hilight-87161.html
Credit: http://board.postjung.com/684026.html
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...