ประวัติศาสตร์โลก แบ่ง ออกเป็น 5 ยุค


1. ยุคก่อนประวัติศาสตร์
เป็นยุคสมัยที่มนุษย์ยังไม่มีความเจริญทางด้านวัฒนธรรมใดๆ แบ่งเป็นยุคหิน และยุคโลหะ


2. ประวัติศาสตร์สมัยโบราณ (3,500 ปี ก่อน คริสตกาล-ค.ศ. 476)
มนุษย์ริเริ่มประดิษฐ์ตัวอักษร วิทยาการต่างๆ และก่อตั้งอาณาจักรต่างๆ ขึ้นมาเช่น จักรวรรดิโรมัน จักรวรรดิอียิปต์โบราณ กรีกโบราณ จีน บาบิโลเนีย เมโสโปเตเมีย สุเมเรียน ฟินิเซียน อิสราเอล ฯลฯ บุคคลสำคัญของโลกในสมัยนี้ได้แก่ พระนางคลีโอพัตราที่ 7, จูเลียส ซีซาร์, พระเยซู, จักรพรรดิออกัสตัส, ฟาโรห์ตุตันคาเมน, สปาตาร์คัส, จิ๋นซีฮ่องเต้, จักรพรรดิคอนสแตนติน, พระเจ้าอะเล็กซานเดอร์มหาราช, พระพุทธเจ้า, เล่าจื้อ, ขงจื๊อ, กษัตริย์ดาวิด, กษัตริย์ซาโลมอน ฯลฯ และมีศาสนาบางศานาที่ถือกำเนิดขึ้นในสมัยโบราณจนถึงปัจจุบันเช่น ศาสนาคริสต์, ศาสนาโซโรอัสเตรียน, ศาสนาพุทธ, ศาสนาเชน, ศาสนาฮินดู , ศาสนายิว (ยูดาย), ศาสนาชินโต, ลัทธิเต๋า, ลัทธิขงจื๊อ เป็นต้น
สมัยโบราณโดยเฉลี่ยของโลก สิ้นสุดใน ค.ศ. 476 เมื่อจักรวรรดิโรมันตะวันตกล่มสลายลง เหลือแต่จักรวรรดิโรมันตะวันออก ที่เปิดเมืองรับเอาศาสนาคริสต์เข้ามามีบทบาทสูงในสังคมโรมัน และอิทธิพลของโรมันก็แผ่ขยายไปทั่วยุโรป และไปทั่วโลก ทำให้โลกโดยรวมออกจากสมัยโบราณ เข้าสู่ สมัยกลาง


3. ประวัติศาสตร์สมัยกลาง (ค.ศ. 476-1453)
นักประวัติศาสตร์ได้กำหนดช่วงเวลาสมัยกลางของสากลโลกไว้ว่า การล่มสลายของจักรวรรดิโรมันตะวันตกในค.ศ. 476 เป็นจุดเริ่มต้นของสมัยกลาง เพราะหลังการล่มสลาย จักรวรรดิโรมันตะวันออก ซึ่งกลายเป็นจักรวรรดิไบแซนไทน์ การล่มสลายของมหาอำนาจทำให้ยุโรปแตกเป็นอาณาจักรมากมายและไม่มีขื่อแป จนตกเป็นเหยื่อของการรุกรานจากชนชาติภายนอก คริสต์ศาสนาจึงกลายเป็นที่พึ่งและสถาบันสูงสุดของยุโรปสมัยกลาง จนในศตวรรษที่ 15 ชาติต่าง ๆ ในยุโรปสามารถรวมตัวกันเป็นรัฐชาติ (Nation-States) จนพัฒนากลายเป็นประเทศต่าง ๆในปัจจุบันได้ หลังจากการล่มสลายของจักรวรรดิไบแซนไทน์ ในปี ค.ศ. 1453 ทำให้ความรู้ของกรีกและโรมันแพร่กระจายไปทั่วยุโรป เกิดการฟื้นฟูศิลปวิทยา จึงเริ่มต้นเข้าสู่ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา ซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดของสมัยกลางของสากลโลก และเปิดโลกเข้าสู่สมัยใหม่ ศาสนาอิสลามถือกำเนิดขึ้นในยุคกลาง บุคคลสำคัญของโลกในยุคนี้ได้แก่ โจนออฟอาร์ค กรุงสุโขทัยถือกำเนิดขึ้นในตอนปลายของยุคกลาง


4. ประวัติศาสตร์สมัยใหม่ (ค.ศ. 1453-1945)
สมัยใหม่ เป็นช่วงเวลาหนึ่งของอารยธรรมต่างๆ ซึ่งในช่วงนี้ อารยธรรมนั้น ๆ จะเริ่มมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ เริ่มมีแนวคิดที่ยึดหลักความจริง หลุดพ้นจากความเชื่องมงายหลายอย่างในอดีต นักวิชาการได้กำหนดช่วงเวลาที่เป็น "สมัยใหม่" ของสากลโลกไว้ให้เป็นช่วง ค.ศ. 1453-ค.ศ. 1945 โดยเริ่มนับจากการล่มสลายของจักรวรรดิไบแซนไทน์และสิ้นสุดลงหลังสงครามโลกครั้งที่สองยุติ ศาสนาคริสต์นิกายโปรเตสแตนท์ และศาสนาซิกข์ถือกำเนิดขึ้นในยุคนี้ บุคคลสำคัญของโลก ได้แก่ พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 นโปเลียนมหาราช เจงกิสข่าน


5. ประวัติศาสตร์สมัยปัจจุบัน
สมัยปัจจุบัน เป็นช่วงเวลาของอารยธรรมหนึ่ง ๆ ซึ่งเป็นช่วงที่แต่ละอารยธรรมจะมีเทคโยโลยีเข้ามาใช้อย่างแพร่หลาย และมีการตระหนักถึงการใช้เทคโนโลยีอย่างถูกวิธี นักประวัติศาสตร์ได้กำหนดช่วงเวลาที่เป็น "สมัยปัจจุบัน" ของสากลโลกไว้ให้ตรงกับ ค.ศ. 1945 จนถึงปัจจุบันนี้ โดยเริ่มนับจากการสิ้นสุดของสงครามโลกครั้งที่สอง เป็นต้นมา 

Credit: Dominic
10 มิ.ย. 56 เวลา 12:12 46,094 10
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...