กาแฟ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าแทบทุกคนดื่ม กาแฟ ทุกเช้าจนติดเป็นนิสัย ราวกับเป็นอีกกิจวัตรที่ต้องทำไม่ต่างจาก อาบน้ำ แปรงฟัน ทั้งนี้ก็เพื่อความรู้สึกกระปรี้กระเปร่าและขจัดความง่วงให้หมดไป บางคนถึงขั้นต้องใช้เครื่องดื่มชูกำลังเพื่อผลที่แรงกว่านั้น
ล่าสุดบทความทางการแพทย์ "คู่มือการวินิจฉัยและสถิติสำหรับความผิดปกติทางจิต" (DSM-5) ตีพิมพ์โดย สมาคมจิตเวชศาสตร์สหรัฐอเมริกา ได้กล่าวว่า การรับประทานคาเฟอีนเป็นจำนวนมากเกินไปอาจทำให้เกิดภาวะ "คาเฟอีนเป็นพิษ" ซึ่งจำนวนคาเฟอีนที่ถูกประเมินว่ามากเกินไปอยู่ที่ประมาณ 250 มก. หรือกาแฟ 2-3 แก้วต่อวัน และหากพบว่าตัวเองมี 5 ในอาการต่อไปนี้หรือมากกว่า ก็มีแนวโน้มว่าคุณเองอาจเจอสภาวะ คาเฟอีนเป็นพิษ อยู่ก็ได้
1. กระสับกระส่าย
2. วิตกกังวล
3. กระวนกระวาย
4. นอนไม่หลับ
5. หน้าแดง
6. ปัสสาวะบ่อย
7. ระบบย่อยทำงานผิดปกติ
8. กล้ามเนื้อกระตุก
9. ฟุ้งซ่าน พูดพล่าม
10. หัวใจเต้นผิดปกติ
11. อยู่ไม่สุข ผุดลุกผุดนั่ง
อาการดังกล่าวถือว่าเป็นโรคชนิดหนึ่ง ซึ่งถูกจำแนกให้เป็นโรคที่เกิดจาก คาเฟอีน ล่าสุด DSM-5 ได้เพิ่มโรค "เลิกคาเฟอีน" เข้าไป โดยจะมีอาการเหนื่อยโทรม ปวดหัวและสมาธิบกพร่อง
คาเฟอีน ถือเป็นยากระตุ้นประสาทชนิดหนึ่งที่คนทั่วไปใช้ในชีวิตประจำวัน แต่จะมีผลกระทบที่ไม่น่าพอใจสักเท่าไหร่หากดื่มเป็นปริมาณมาก สำหรับคนที่ ติดกาแฟ แล้วจู่ๆก็หักดิบเลิกจะทำให้เกิดอาการดังกล่าว เช่น ปวดหัวร้ายแรง แต่อาการก็จะเกิดขึ้นชั่วคราวและจะหายไปเอง
แม้อาการดังกล่าวจะเป็นสิ่งทีเกิดขึ้นตามธรรมชาติและจะหายไปเอง หนุ่มๆก็ควรควบคุมการดื่มกาแฟในปริมาณที่เหมาะสม
เพียง 1 แก้วต่อวันตอนเช้าก็น่าจะเพียงพอสำหรับการเริ่มต้นวันใหม่อย่างกระปรี้ประเปร่าแล้วล่ะครับ