ชายฮ่องกง ใช้ชีวิตเยี่ยงผู้ชายมาตลอดอายุ 66 ปี เพิ่งจะถูกตรวจพบว่า แท้จริงแล้วเป็นผู้หญิง แพทย์ชี้ เกิดจากโรคทางพันธุกรรมหายาก 2 โรค
วานนี้ (4 มิถุนายน 2556) เว็บไซต์เดลี่เมล ของอังกฤษ มีรายงานว่า ชายฮ่องกงวัย 66 ปี ที่มีหนวดเครารายหนึ่ง มาพบแพทย์ด้วยอาการท้องบวม แต่แล้วเขากลับถูกแพทย์ระบุว่า จริง ๆ แล้วเขาเป็นผู้หญิง ทั้งยังวินิจฉัยด้วยว่าอาการช่องท้องขยายของเขานั้นเกิดจากซีสต์ที่รังไข่
ไม่ต้องสงสัยว่าเป็นใครก็ต้องช็อกเมื่อมีใครมาบอกว่าเพศที่เรารับรู้มาตลอดชั่วชีวิตนั้นไม่ใช่เพศที่แท้จริง แต่จากการทดสอบของแพทย์นั้นพบว่า ผู้ป่วยรายนี้มีอาการของโรคทางพันธุกรรมที่หายากและไม่สามารถระบุสาเหตุได้ 2 โรคด้วยกันคือ เทอร์เนอร์ซินโดรม และต่อมหมวกไตโตผิดปกติแต่กำเนิด
โดยในวารสารการแพทย์ของฮ่องกง ซึ่งตีพิมพ์ข้อมูลเมื่อวันที่ 3 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้ระบุว่า เทอร์เนอร์ซินโดรม หรือภาวะต่อมเพศไม่เจริญ นั้นเป็นภาวะทางพันธุกรรมซึ่งพบได้ในทารกหญิง 1 ใน 2,000 คน
เกิดจากความผิดปกติของโครโมโซมเอ็กซ์ตัวที่ 2 ของเด็กหายไปบางส่วน เป็นผลให้ เด็กกลายเป็นหมัน หรือมีขนาดตัวเตี้ยกว่าปกติ
ขณะที่ ต่อมหมวกไตโตผิดปกติแต่กำเนิด ซึ่งเกิดขึ้นในทารก 1 ใน 15,000 ราย ทั้งชายและหญิง จะเป็นผลให้ฮอร์โมนเพศชายในตัวของผู้ป่วยเพิ่มขึ้น
จนร่างกายมีลักษณะของเพศชายปรากฏเร็วอย่างไม่เหมาะสม โดยผู้ป่วยโรคต่อมหมวกไตโตผิดปกติแต่กำเนิดจะหยุดการเจริญเติบโตหลังจากผ่านวัยแรกรุ่น ตอนอายุ 10 ปี ทำให้มีความสูงเพียงราว 137.2 ซม.
นอกจากนี้ผู้ป่วยยังจะมีองคชาตขนาดเล็ก แม้ว่าภายในร่างกายจะยังมีระบบสืบพันธุ์ของเพศหญิงตามปกติ แต่ผู้ป่วยจะมีปัญหาในด้านระบบการสืบพันธุ์
ทั้งนี้ในวารสารการแพทย์ยังได้ระบุว่า กลุ่มคนที่เกิดมามี 2 เพศภายในคนเดียวกันนั้น มีเพียง 6 รายเท่านั้น เท่าที่มีการรายงานในวรรณกรรมทางการแพทย์ที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตามในการรักษาที่ผ่านมากับผู้ป่วยชาวเวียดนามนั้น เขายังสามารถใช้ชีวิตในฐานะผู้ชายได้ตามปกติ และบางครั้งอาจรักษาด้วยการให้ฮอร์โมนเทสโทสเทอร์โรนทดแทน
อย่างไรก็ตาม อาการของโรคทางพันธุกรรมทั้ง 2 โรคนี้ ไม่ได้เป็นสาเหตุของการเกิดอาการซีสต์ในรังไข่ ดังนั้นอาการของชายจีนรายนี้จึงอาจจะเป็นอาการที่เพิ่งเคยพบเป็นครั้งแรกก็ได้
http://hilight.kapook.com/view/86898