โออิรัน และ เกอิชาเป็นอาชีพที่เก่าแก่โบราณ ของญี่ปุ่นพอๆกัน ลักษณะงาน ก็มีความคล้ายคลึงกัน

คือร่ายรำทำเพลง ให้ความสำราญกับแขก แคตข้อแตกต่างระหว่าง เกอิชาและ โออิรัน คือ

เพราะว่า เกอิชาเค้าไม่ขาย.... น่ะสิคะ

แต่ เกอิชาจะมี Danna หรือผู้อุปถัม แน่นอนค่ะ เกอิชาแต่งงานม่ายได้ แต่สามารถมีผู้อุปถัม ที่จะอุปถัมเธอไปได้ทั้งชีวิต และก็สามารถ กุ๊กกิ๊กกับเธอได้อีกด้วย.....

แต่!!! ถ้าเป็น โออิรัน อันนั้น ขาย... ค่ะ

เพราะงั้นคงเข้าใจแล้วนะคะ ว่า เกอิชา เค้าม่ายขาย

แต่ว่า เค้าก็ไม่ชอบนะคะ ที่มีคนเข้าใจผิดแบบนั้นค่ะ

เพราะที่ญี่ปุ่น คนในทุกชนชั้น ทุกอาชีพ มีความถูมิใจ และหยิ่งในศักดิ์ศรีของอาชีพของตนสุดๆ พูดง่ายๆ เกอิชาไม่ชอบที่มีคนมองว่าตัวเองเป็นโออิรัน และ โออิรันก็ไม่ชอบเช่นกันที่มีคนมองผิดว่าเ็ป้น เกอิชา

แต่ถึงจะเป็นโออิรัน ที่ภาษาเราๆก็คือ นางคณิกานั่นแหละค่ะ แต่เคึ้าก็มีความภูมิใจในอาขีพเค้าเหมือนกันนะคะ เพราะเค้าก็เหมือนๆกับเกอิชา คือ ขายศิลปะ แต่ที่ต่างกันคือ.........

เค้าขายเรือนร่างพร้อมศิลปะ ความบังเทิงเีริงใจด้วย (หรือมาเป็้นแบบแพ็คเกจค่ะ)

โออิรันเนี่ย เค้าก็หยิ่งในศักดิ์ศรีเขานะคะ คือเขาจะมีมีดติดตัวอยู่เล่มนึง เวลาที่โดนบังคับขืนใจ เขายอมที่จะชักมีดออกมาแล้วแทงตัวตายอยู่ตรงนั้น แนวๆว่า ถ้าจะกดขีฉันขนาดนี้ฉันยอมตายดีกว่า พูดง่ายๆคือก่อนจะรับแขกก็ต้องมีการยินยอมพร้อมใจทั้ง 2 ฝ่ายก่อนค่ะ

แต่ไอ้ยอมไม่ยอมเนี่ย ก็แล้วแต่แม่เล้าิอีกว่าจะมีคุณธรรมมากแค่ไหน....

อาววววววววล่ะค่ะ เรามาดูกันดีกว่าว่าทั้ง 2 อาชีพนี้มีอะไรที่สามารถแยกกันได้บ้าง

หลักๆก็

1.ทรงผม

2.โอบิ

3.กิโมโน

4.gata (เกี๊ยะ)

5.เท้า.....(ข้อนี้อย่าตกใจอ่านไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็รู้ค่ะท่าน)

6.ที่อยู่

เอางี้ บางคนอ่านแล้วอาจจะนึกภาพไม่ออก มามะมาดูรูป กัน

เรียงจากซ้ายไปขวา : เกอิชา,โออิรัน

เห็นอะไรต่างกันไหม ถ้าเห้นแล้วเรามาแจงข้อต่างกันดีกว่าๆ

1.ทรงผม โออิรันจะเป็นทรงผมที่แปลก มีความอลังการ+อลังเกิน ซึ่งมันเป็นเรื่องแปลกมากที่คุณเธอทั้งหลายสามารถ ทน และตั้งคอให้ตรงได้ (ลองดูรูปโออิรันแล้วคิดว่าต้องใส่สิ หนักไหมล่ะ) ซึ่งน้ำหนัก เค้าประเมินกันเล่นว่าน่าจะ เกิน 10 โลนะ แต่คาดว่าพวกเธอคงจะชินไปแล้ว อ่อ ถ้าถามว่า แล้วอายุมากไปโออิรันจะไม่มีปัญหาเรื่องคอเหรอ อยากจะบอกว่าโออิรันส่วนใหญ่ อยู่ไม่ทันแก่หรอกค่ะ ซึ่งด้วยโรคภัยประการอันใดลองเดาๆดูก็คงจะเดาๆได้นะคะ เธอจะใส่ Kanzashi(เครื่องประดับผม,ปิ่น)ยาวที่ทำมาจากเงิน,ทอง พร้อมกับริบบิ้น และสายรัด(เชือกผูกผม)ที่ผูกเป็นปมต่างๆสวยงาม ในขณะที่เครื่องประดับจะเปลี่ยนๆไปตามความพอใจของโออิรันคนนั้น แต่ยังไงซะก็ดูไม่เหมือนทรงผมของ เกอิชากับไมโกะใ่ชไหมล่ะ

2.กิโมโน ลองนับดูเล่นๆสิว่าไมโกะใส่กิโมโนกี่ชั้น เกอิชาใส่กีชั้น และโออิรันใส่กี่ชั้นกันคะ~!! (เฉลย หลังจากนั่งหาในเน็ต ประมาณ 5 ชั้นขึ้นไปค่ะ) ที่สำคัญกิโมโนของโออิรันจะมีลักษณะคล้ายๆฟูกด้วย (ดีนะไม่ใช่้เมืองไทยไม่งั้นคงร้อนพิลึก) อีกทั้งสีสันที่แสบตาใช่เล่น ลองนึกถึงภาพในหนังเรื่อง Sakuran สิคะ อ่อ นึกไม่ออกเหรอคะ เอ้า....

แต่แค่ดูรูปข้างบนก็คงรู้นะคะว่า สีมันแซ่บได้ใจปานใด เอาเป็้นว่านอกจากโออิรันต้องรับภาระหนักบนศีรษะของพวกเธอแล้ว บนตัวก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากันนักหรอกค่ะ.....

3.โอบิ เอาเป็นว่าไม่ว่าไมโกะหรือเกอิชาไม่เคยผูกโอบิไว้ข้างหน้าเจ้าค่ะ แต่โออิรันจะผูกไว้ข้างหน้า เนื่องจากก็บอกแล้วไงคะว่าโออิรันขาย.... พร้อมศิลปะ มาเป็นแพ็คคู่ เพราะงั้นการที่ต้องถอดเข้าถอดออกไม่รู้ว่าคืนละกี่รอบ พร้อมกับกิโมโนที่หลายชั้นปานนั้น แค่สวมกิโมโนคนเดียวก็นานจะตายอยู่แย้ว โอบิก็ผูกยาก แถมกว่าจะบิดไปข้างหลังก็นานอยู่ เพราะงั้น ตัดปัญหา เอาไว้ข้างหน้าซะก็หมดเรื่อง......

4.เกตะ-โคมะ หรือจะเรียกว่า มิทสึ-อาชิ = แปลว่าขาเจ้าค่ะ อ่ะดูรูป

จากซ้่าย : ,เกตะของไมโกะ,เกตะของเกอิชา

สังเกตจากรูปจะเห็นว่า ของโออิรันจะสูงโฮก ทุกคนจะมีคำถามในใจว่า

แล้วจะเดินยังไงฟระ -''-?

? << เดินแบบนี้งาย เดินเป็น เลข 8 ญี่ปุ่นเจ้าค่ะ

อ่า อันนี้ไม่เค้าใจอ่ะดิ คือมันน่าจะ มาจากสุภาษิตญี่ปุ่นค่ะที่ว่า ???? (happou - bijin) แปลเป็นไทยแบบโต้งๆเลยก็ แปลว่า คนสวยใน 8 ทิศทาง~!!!! คือมันแปลว่าผู้หญิงที่เอาใจผู้ชายเก่ง ทำตัวเก่ง แต่สุภาษิตนี้ใช้ในทางลบเจ้าค่ะ

แต่ที่จริงการเดินเป็นเลข 8 แบบนั้นมันทำให้การทรงตัวง่ายขึ้นด้วย

เอ้า อ่านมา 4 ข้อเริ่มรู้สึกว่า โออิรันเนี่ยลำบากเนอะ หะวก็หนัก กิโมโนก็หนัก แถมเดินลำบากอีก ยังไม่พอ จากหน้าที่การงานดูๆแล้วก็เหมือนคอบรองรับอารมณ์ลูกค้าอีก เฮ้อ ชีวิตพวกเธอๆ ก็น่าสงสารนะคะ....

อ่ะ ข้อสุดท้าย ที่จะเแยก โออิรัน กับเกอิชาโดยสิ้นเชิงคือ.....

5.เท้า เพราะอะไรน่ะหรือ เพราะ โออิรันไม่ใส่ทาบิอ่ะดิ (ทาบิ= ถุงเท้า) แม้เแต่ในฤดูหนาว เธอก็จะไม่ใส่เจ้าค่ะ.... อยากถามมากเลยว่า เจ๊ทนได้ไง มันไม่ใช่เย็นแบบเชียงใหม่นะคะ หน้าหนาวญี่ปุ่นเนี่ย แค่เชียงใหม่ก้นาถุงเท้าใส่แทบไม่ทัน เจ๊ทนได้ไงอ่ะ~!!! เค้าว่ากันว่า เพื่อโชว์ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่อดทน และอีกนัยหนึ่ง ผู้ชายที่มาใช้บริการเห็นแล้วจะ เค้าพรรณนาว่า "ดูเท้าขาวๆที่โผล่ออกมาจากกิโมโนนั้นสิ " แนวๆเร้าอารมณ์ (ตรงไหนคะพี่?) ก็คือๆกันกับ แขกของพวกไมโกะหรือเกอิชา ที่เห็นแขนขาวๆปราศจากแป้งโบ๊ะแล้ว รู้สึกกระชุ่ยกระชวย

6.ถิ่นที่ๆพวกเธออยู่กัน ก็ถ้าเป็นเกอิชา หรือ โออิรันจะอยู่ที่เขต Hanamichi ใน Gionแบ่งเป็้น 5 เขตด้วยกันก็มี 1. gion kobu 2.gion higashi 3.gion kamishichiken 4.miyagawachou 5.pontocho

แต่ถ้าเป็นโออิรัน จะอยู่ในย่านโยชิวาระค่ะ ซึ่งก็แทบจะไม่มาปะปนกันอยู่แล้วเพราะว่า ทั้ง 2 อาชีพนี้ ไม่สามารถย่างกรายออกนอกเขตที่อยูี่ได้ค่ะ

สรุป เกิดเ็ป็้นโออิรันนั้น หนักกิโมโน เดินลำบาก หน้าหนาวเท้าก็ชาอีกต่างหาก และ จะไปเที่ยวไหนก็ไม่ได้ และหนักใจ จะรักใครก็ไม่ได้

สรุป2 เกิดเป็นเกอิชา ก็หนักหัว(หนักน้อยกว่าโออิรันอ่ะนะ) หนักตัว(อันนี้ก็น้อยกว่า) จะไปเที่ยวไหนก็ไม่ค่อยได้แต่ตอนนี้ก็เห็นมีนะ ตอที่ไมโกะมาไทยอ่ะ สุดยอดโฮก ที่สำคัญ รักใครไม่ได้อยู่แล้ว เพราะต้องรักแต่ดันนะของตัวเอง เป็นไฟต์บังคับคะ

  แต่ยังไงซะชีวิตของพวกเธอก็น่าสงสาร พอกันล่ะค่ะ