อึ้ง!! รายการทีวีเดนมาร์ก จับผู้หญิงแก้ผ้าให้ผู้ชายวิจารณ์

เดนมาร์กและกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวียได้ชื่อว่าเป็นภูมิภาค ที่ให้ความเคารพในสิทธิเสรีภาพมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ทั้งสิทธิเพศที่สาม สิทธิเด็กและสตรี รวมถึงกลุ่มคนต่างเชื้อชาติและศาสนา แต่เมื่อเสรีภาพมีมากเกินไป ก็อาจกลายเป็นการคุกคามสิทธิของผู้อื่นได้ อย่างรายการทีวีรายการหนึ่งของเดนมาร์ ที่ถูกวิจารณ์อย่างหนัก จากการนำผู้หญิงมาเปลื้องผ้าออกรายการ แล้วให้ผู้ชายนั่งวิจารณ์เรือนร่างของพวกเธอ

รายการนี้ชื่อว่า “Blachman Show” ตั้งตามชื่อของพิธีกรชื่อดัง โทมัส แบล็กแมน ซึ่งขึ้นชื่อในด้านความแรงอยู่แล้ว คอนเซ็ปของรายการที่ว่านี้ก็คือการจ้างผู้หญิงมาออกรายการในราคา 250 ยูโร หรือแค่ 9,500 บาท แลกกับการที่พวกเธอจะต้องมายืนเปลื้องผ้า และไม่พูดอะไรทั้งสิ้น ในขณะที่แบล็กแมนและแขกรับเชิญผู้ชาย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพื่อนศิลปินของเขา หรือกูรูด้านแฟชั่น จะนั่งเอกเขนกบนโซฟา วิพากษ์วิจารณ์เรือนร่างของผู้หญิง รวมถึงพูดคุยถึงเรื่องสัพเพเหระต่างๆ ที่เกี่ยวกับผู้หญิง ตั้งแต่การวิจารณ์รูปร่างหน้าอก แผลเป็น รอยสัก การเจาะสะดือ หรือแม้แต่การกำจัดขนในที่ลับของผู้หญิง โดยการสนทนาทั้งหมดเป็นของฝ่ายชายเท่านั้น ผู้หญิงที่มาโชว์เรือนร่างจะต้องยืนเงียบๆ ไม่มีปากเสียงใดๆทั้งสิ้น

แน่ นอนว่าเมื่อรายการนี้ออกฉาย ก้สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าเป็นการเหยียดเพศอย่างรุนแรง ทำเหมือนผู้หญิงเป็นวัตถุทางเพศที่ไม่มีชีวิตจิตใจ โดยเฟมินิสต์บางส่วนกล่าวว่าพวกเธอไม่ได้โกรธที่ผู้ชายพวกนี้ตำหนิถึงข้อ บกพร่องในร่างกายผู้หญิง แต่ประเด็นก็คือผู้ชายไม่มีสิทธิ์มาตัดสินหรือวิพากษ์วิจารณ์ร่างกายของ ผู้หญิง ไม่ว่าจะเป็นการพูดในด้านดีหรือไม่ดีก็ตาม

แต่สำหรับ ผู้หญิงที่ได้มาออกรายการนี้ พวกเธอกลับมองว่าตัวเองได้แสดงพลังอำนาจของผู้หญิงผ่านการโชว์เรือนร่างใน ที่สาธารณะ แถมยังได้ค่าตอบแทน โดยนีน่า หนึ่งในผู้หญิงที่เคยออกรายการนี้ บอกว่าเธอมีแฟนคลับมากมาย และมีคนมาขอแต่งงานถึง 5 ครั้ง แต่เธอก็ติรายการนี้เล็กน้อย ที่ไม่เปิดโอกาสให้ผู้หญิงพูดตอบโต้เวลาพวกเธอถูกวิจารณ์

ส่วน โทมัส แบล็กแมน พิธีกรรายการนี้ ให้เหตุผลที่คิดโชว์แปลกประหลาดนี้ขึ้นมาว่านี่คือการปลดปล่อยของผู้ชาย เดนมาร์ก ในยุคที่กฎหมายเดนมาร์กเคร่งครัดกับความเท่าเทียมทางเพศเสียจนผู้ชายแทบจะ ไม่สามารถแตะต้องวิพากษ์วิจารณ์ผู้หญิงได้เลย แถมเขายังบอกอีกด้วยว่า ที่ให้ผู้หญิงยืนเงียบๆ เป็นเพราะผู้หญิงพูดอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว เขาจึงอยากให้นี่เป็นเวทีที่ผู้ชายสามารถพูดในสิ่งที่พวกเขาอยากพูดที่สุด แต่ไม่สามารถทำได้ นั่นก็คือการวิจารณ์เรือนร่างของผู้หญิงนั่นเอง