เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
"โอ๊ย...ฟินอ่ะ ฟินสุด ๆ " ช่วงนี้คำว่า "ฟิน" คงเป็นคำฮิตคำฮอตที่ติดปากวัยรุ่นหลาย ๆ คนเลยล่ะค่ะ ไม่ว่าจะไปไหนมาไหน จะดูรายการ ดูละครเรื่องอะไร หรือแม้สเตตัสเฟซบุ๊ก ก็มักจะเห็นคำว่า "ฟิน" เต็มไปหมด วันนี้กระปุกดอทคอมก็เลยขอนำความหมายของคำว่า "ฟิน" พร้อมกับภาษาวัยรุ่นฉบับอัพเดทล่าสุดมาฝากกันจ้า...
ฟิน : มาจากคำว่า "ฟินาเล่ FINALE" ที่แปลว่า จบแบบสมบูรณ์แบบ โดยส่วนมากมักจะใช้ตอนที่รู้สึกว่า... "สุดยอด" อย่างเช่น ดีใจจังได้คุยกับรุ่นพี่คนนั้นแล้ว ฟินสุด ๆ อ่ะ เป็นต้น
คำว่า ‘ ฟิน ’ นั้น มาจาก ‘ ฟินแลนด์ FINLAND ’ และ ‘ ฟินเนเร่ FINALE ’ ซึ่งหมายถึงอะไรที่สุดยอด
เป็นแสลงที่ใช้บอกอารมณ์ความรู้สึกว่ามัน ‘ สุดยอดมาก ’ อะไรประมาณนั้น
**ในภาพยนต์ต่างประเทศ จะใช้คำว่าอวสาน, จบ ด้วย END หรือ FIN**
อิน : มาจากคำว่า "อินเนอร์ INNER" มีความหมายแบบรู้สึกร่วมไป อย่างเช่นเวลาฟังเพลงแล้วรู้สึกร่วมไปกับเพลง จนต้องร้องไห้ออกมา หรือเวลาดูละครฉากที่มีการตบตีกัน แล้วอยากจะตบนางร้ายนอกจอ หรือไม่ก็อยากจะเป็นนางเอกแทนดาราในทีวี เป็นต้น
จิ้น : มาจากคำว่า "อิมเมจิ้น IMAGINE" แปลว่า จินตนาการ ซึ่งจะใช้จินตนาการหรือคิดไปเองว่า คนที่เราชอบเป็นอย่างที่ตัวเองคิด หรืออยากให้เขาทำอย่างนั้นอย่างนี้ ไม่ก็เอาไว้จับคู่ดาราสองคนที่เราชื่นชอบ พร้อมจินตนาการให้คิดลึกไปไกล เช่น ดาราที่เราชอบทั้งสองคนบังเอิญไปเจอกัน แต่เรากลับจินตนาการ หรือจิ้นว่า เขาสองคนต้องนัดมาจู๋จี๋กันแน่ ๆ เลย เป็นต้น
คำว่าจิ้นนั้น มาจาก ‘ imagination ’ หรือก็คือ ‘ จินตนาการ ’ นั่นเอง ดังนั้น คำว่า คู่จิ้น อาจเกิดจากการที่คนสองคนสนิทกันมากๆ อยู่ด้วยกันบ่อยๆ จนคนรอบข้างรู้สึกว่า.. ‘ เหมือนเค้าจะรักกันนะ / เหมือนแฟนกันเลย / ดูน่ารักจัง ’ เป็นต้น
ดังนั้นจึงเกิดคำว่าคู่จิ้นขึ้นมา และคำคำนี้ สามารถใช้ได้ทั้งคู่จิ้นที่เป็น ชายกับชาย ชายกับหญิง และหญิงกับหญิง
ในวงการบันเทิงไทยนั้นเองก็มีคู่จิ้นอยู่มากมาย
~ ยกตัวอย่างฝั่ง ‘ ชายกับชาย ’ อาทิเช่น
- โตโน่กับริท
- เต๋ากับคชา
- นัทกับซิน
- ฮั่นกับแกงส้ม
~ มาดูฝั่ง ‘ ชายกับหญิง ’ กันดีกว่า เช่น
ณเดชญ์กับญาญ่า
บอยกับมาร์กี้
พอร์ชกับฉัตร
กันต์กับเชียร์
ต่อมาคือ ‘ หญิงกับหญิง ’ เช่น
นทกับแอปเปิ้ล
สต็อปกับสมายล์
คู่แต่ละคู่ที่กล่าวมาข้างต้นนั้น เกิดจาก ‘ ฟิน ’ และ ‘ มโน ’ กันเองของแฟนคลับล้วนๆ
มโน : ส่วนคำว่า ‘ มโน ’ มาจาก มโนภาพ ก็คือการจินตนาการอะไรต่างๆ ไปเอง
เช่น มโนว่าคู่จิ้นเขารักกัน แต่ความเป็นจริงอาจตรงข้ามก็ได้.. หรืออาจจะเป็นการมโนไปเองว่าฉันได้กอดณเดชญ์ ทั้งๆ ที่ความจริงอาจจะไม่ใช่
เกรียน : การแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ชอบทำซ่าไม่เข้าท่า และไม่เป็นประโยชน์ โดยเปรียบเทียบคำว่าเกรียนจากทรงผมของเด็กผู้ชาย ม.ต้น แต่คำว่าเกรียนนี้ สามารถใช้เปรียบเทียบได้ทุกเพศ ทุกวัย ไม่จำกัด
อั๊ยย่ะ : คำอุทานน่ารัก ๆ บ้างก็ว่า เพี้ยนมาจากคำว่า ไอหยา... บ้างก็ว่าเป็นภาษาใต้ ส่วนมากจะพูดในประโยคที่เป็นไปในทิศทางค่อนข้างดี เช่น อั๊ยยะ น่ารักจัง ซึ่งเป็นคำที่พูดมานานแล้ว แต่เพิ่งจะมาฮิตมาก ๆ ตอนที่ตุ๊กกี้ ชิงร้อยชิงล้านนำไปพูด
ปลวก : เป็นคำด่าแนวประชด เปรียบเทียบคนหน้าตาไม่ดีว่าหน้าเหมือนปลวก และมักมีพฤติกรรมที่ไม่หยุดนิ่ง ชอบแย่งซีนคนอื่นไปทั่ว หรืออาจจะเปรียบเทียบนิสัยที่ชอบกัดจิกคนอื่นไปทั่ว เหมือนปลวกนั่นเอง
เมพขิง ๆ : คำนี้มาจากคอเกมส์ออนไลน์ทั้งหลาย ที่เพี้ยนมาจากคำว่า "เทพจิง ๆ" ด้วยความที่เวลาเล่นเกมส์บางเกมส์ต้องทำเวลา จึงทำให้บางทีพิมพ์ผิด ไม่เชื่อลองก้มดูที่แป้นคีย์บอร์ดสิ ท. ทหาร จะติดกับ ม.ม้า และ จ.จาน จะติดกับ ข.ไข่ เวลาพิมพ์รีบ ๆ บางทีมันก็พลาดเป็น เมพขิง ๆ ได้เหมือนกัน
วันนาบี : มาจากคำว่า "wanna be" ที่แปลว่า อยากเป็น ซึ่งเป็นคำเหน็บแนมสำหรับคนที่อยากจะเป็นนู่น เป็นนี่ หรือเอาไว้ด่าคนที่ชอบเลียนแบบ มีความหมายอีกอย่างหนึ่งคือ จอมปลอม
สาววาย Y :คำคำนี้ใช้เรียกผู้หญิงที่ชื่นชอบ Y มากๆ ก็คือชื่นชอบคู่จิ้นชายกับชายหรือหญิงกับหญิง เราจะเรียกว่าสาว Y
อาการของพวกเขาคืออาจจะไม่ได้ชอบเพศเดียวกัน แต่การที่ได้เห็นชายหนุ่มที่ปิ๊งรักกันเองแล้วรู้สึกกระชุ่มกระชวย ใจบิดไปบิดมาจนจะละลาย (ความจริงก็ไม่ค่อยเข้าใจน่ะนะ ว่าทำไมผู้หญิงถึงชอบอะไรแบบนี้ มันเป็นเรื่องที่ซับซ้อนน่ะ )
ในไทยเองก็มีเด็กสาวประเภทนี้เกลื่อนกลาดไปหมด ลองกลับไปเช็คคนใกล้ตัวคุณดีๆ ว่ามีบ้างมั้ย ..
เคะ , เมะ :สองคำนี้อาจทำให้หลายๆคนงง และอาจจำสลับกันในตอนแรก
คำว่า ‘ เคะ ’ มาจากภาษาญี่ปุ่นคำว่า ‘ อุเคะ ’ ที่แปลว่าฝ่ายรับ ง่ายๆ ก็เกย์ควีนที่เรารู้ๆ กันนี่แหละ
ส่วนคำว่า ‘ เมะ ’ มาจาก ‘ เซเมะ ’ ที่แปลว่าฝ่ายรุก เอาง่ายๆ อีกก็เกย์คิงนั่นเอง
แล้วยังไงล่ะ ตัดสินได้ยังไงว่าใครเคะใครเมะ??? อธิบายง่ายๆ
ฝ่ายเคะ คือฝ่ายรับ ดังนั้นจึงมีวิธีสังเกตอยู่ ดังนี้
1. ใบหน้าหวาน บางทีอาจจะดูไม่คล้ายผู้หญิงแต่ดูแล้วน่ารัก
2. รูปร่างบอบบาง ตัวเล็ก อาจจะไม่ได้เล็กเท่าผู้หญิงแต่ก็บางๆ อะนะ
3. นิสัยการแสดงออกน่ารักโมเอะ และมีบางอย่างที่คล้ายผู้หญิงนั่นเอง
หมายเหตุ : แต่สำหรับบางคนที่มีคู่จิ้นเป็นของตัวเอง เช่น นาย A กับนาย B เป็นคู่จิ้นกัน B อาจจะดูไม่เคะเลย แต่บังเอิญว่านาย A ดูเมะกว่า B จึงจำใจต้องเคะไปตามระเบียบ ถึงแม้ B จะดูไม่เคะ แต่ถ้าคู่จิ้นของเขาดูเมะกว่า ก็ต้องยอมเคะนะ ^^ (เข้าใจป่ะเนี่ย= =)
ฝ่ายเมะ คือฝ่ายรุก มีวิธีสังเกต คือ
1. ตัวสูงใหญ่ ดูมาดแมนแฮนด์ซั่มมากๆ ดูแล้วสามารถปกป้องเคะได้
2. ใบหน้าที่ดูยังไงก็ไม่มีทางแต่งหญิงขึ้น
3. นิสัยแมนๆ ติดหื่นเล็กน้อย อาจจะไม่ได้ตั้งใจ(FC มโนเอง) ดูออกเจ้าชู้ๆ สายตาการกระทำที่บ่งบอกถึงความเป็นชายและโชกโชนพอสมควรนั่นเอง *0*
เพิ่มเติม : และอยากจะเสริมอีกซักหน่อย คู่จิ้น นั้นมักจะมีชื่อที่
FC เรียกกันเป็นชื่อคู่ เช่น + โน่ริท + เต๋าคชา + นัทซิน + ฮั่นส้ม
แล้วคุณเคยสงสัยมั้ย ว่าทำไมชื่อของ โตโน่ เต๋า นัท ฮั่น ต้องอยู่ข้างหน้า??
คือมันเป็นกฎบังคับนะ เพราะถ้าสลับที่ปุ๊บความหมายเปลี่ยนทันที แล้วก็ทำให้สาว Y แทบกระอักเมื่อพิธีกรบางรายการเรียกผิด - -
การเรียกชื่อคู่ Y มีกฎอยู่ว่า ‘ชื่อของเมะต้องนำหน้าเคะ’
ดังนั้น โตโน่ เต๋า นัท ฮั่น พวกเขาเป็นเซเมะ...
แต่ ริท คชา ซิน แกงส้ม พวกเขาเป็นอุเคะ...
เข้าใจกันมั้ย?? ดังนั้นเวลาเรียกกันก็เรียกตามนี้ด้วยนะจ๊ะ ^^
+ โน่ริท / เต๋าคชา / นัทซิน / ฮั่นส้ม
คำเตือน : คู่จิ้นเกิดจากการฟินและมโนของ fc มิได้เกี่ยวข้องกับตัวนักแสดงและศิลปินแต่ประการใด
ป.ล.ขออภัยหากกระทู้นี้ทำให้แฟนคลับบางคนของศิลปินที่ถูกกล่าวถึงในการยกตัวอย่างไม่พอใจก็ขออัยมา ณ ที่นี้ด้วย
ข้าพเจ้าเพียงแต่ต้องการอธิบายความหมายและข้อเท็จจริงหลายๆ อย่างให้คนที่ไม่รู้ได้รู้เท่านั้น ^^
เอาเป็นว่า คงรู้ความหมายกันของคำศัพท์ฉบับวัยรุ่นกันแล้วนะคะ เพื่อน ๆ คนไหนมีคำศัพท์เพิ่มเติม คำไหนฮอต คำไหนฮิต ก็บอกต่อกันได้นะจ๊ะ