สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 29 พ.ค. ว่า คณะนักวิทยาศาสตร์รัสเซียเผยในวันนี้ ว่า ค้นพบเลือดในซากแมมม็อธ สัตว์ตระกูลช้างในยุคดึกดำบรรพ์ ถือเป็นการค้นพบที่สำคัญ ที่จะนำไปสู่การโคลนนิ่งสัตว์ชนิดนี้ ให้กลับมีชีวิตบนโลกอีกครั้ง โดยเลือดได้จากซากแมมม็อธเพศเมียสภาพสมบูรณ์ ที่คณะสำรวจนำโดยนักวิทยาศาสตร์พบเมื่อช่วงต้นเดือนนี้ ที่เกาะห่างไกลแห่งหนึ่ง ในมหาสมุทรอาร์คติก แถบขั้วโลกเหนือ
นายเซเมียน กริกอร์เยฟ นักวิทยาศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยแห่งชาตินอร์ธอีสเทิร์น ในเมืองเอียร์คุสก์ ในฐษนะหัวหน้าทีมสำรวจ กล่าวว่า แมมม็อธตัวที่พบซากตายตอนอายุประมาณ 60 ปี เมื่อประมาณ 10,000 – 15,000 ปีที่แล้ว และนับเป็นครั้งแรก ที่มีการพบแมมม็อธเพศเมียที่อายุมากขนาดนี้ แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่าก็คือ ซากที่พบอยู่ในสภาพสมบูรณ์มาก โดยเฉพาะส่วนล่าง สองขาหน้าและท้อง ยังมีแม้กระทั่งเลือดและเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อ แต่ส่วนบนรวมถึงหลังและหัวแหว่งหายไป เชื่อว่าถูกกัดกินโดยสัตว์นักล่า “เมื่อเราทุบน้ำแข็งจากใต้ส่วนท้องของเธอ เลือดไหลออกจากตรงนั้น เลือดสีคล้ำมาก” กริกอร์เยฟ กล่าว และว่า การค้นพบถือเป็นความหวังใหม่ สำหรับคณะนักวิจัยที่กำลังพยายามหาวิธีโคลนนิ่ง เพื่อนำสัตว์ดึกดำบรรพ์ชนิดนี้ กลับมามีชีวิตบนโลกอีกครั้ง.