กรณีนางรัตนาภรณ์ จึงสงวนสิทธิ์ เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ออกมาเตือนเรื่อง ไฟแช็กยักษ์ เสี่ยงต่อการเกิดระเบิดเป็นอันตรายต่อชีวิตของผู้บริโภค ที่สำคัญเป็นสินค้าที่ผิด กฎหมาย ลักลอบนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน อย่างไรก็ตามหากตรวจสอบพบสถานที่จำหน่ายหรือสถานที่ผลิตก็จะมีการลงโทษทันที ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ ที่ตลาดคลองถม วันที่ 4 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการจับจ่ายซื้อของกันตามปกติ ร้านค้าส่วนใหญ่ไม่ได้นำไฟแช็กยักษ์ออกมาจำหน่ายมากนัก เนื่องจากเกรงว่าจะถูกเจ้าหน้าที่จับกุม แต่ก็มีบางร้านที่ไม่ทราบข่าวได้นำไฟแช็กยักษ์มาจำหน่ายเหมือนเดิม แต่ไม่ได้รับความสนใจจากลูกค้ามากเท่าที่ควร
ส่วนบรรยากาศที่ตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ตลาดจำหน่ายสินค้ามือสอง จากการสำรวจพบว่ามีไฟแช็กยักษ์วางจำหน่ายอยู่ตามร้านจำหน่ายสินค้าทั่วไปของ ชาวกัมพูชา โดยวางจำหน่ายปะปนอยู่กับไฟแช็กขนาดเล็ก และขนาดทั่วไปเป็นจำนวนมาก ยังไม่มีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานใดเข้ามาทำการสำรวจหรือดำเนินการประชา สัมพันธ์ถึงพิษภัยของไฟแช็กยักษ์ดังกล่าวแต่อย่างใด จากการสอบถามพ่อค้าแม่ค้าที่นำไฟแช็กยักษ์มาจำหน่าย กล่าวว่า รับไฟแช็กยักษ์มาจากฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา ราคาอันละ 20 บาท ก่อนจะมาจำหน่ายให้กับลูกค้าราคาอันละ 35 บาท หรือ 3 อัน 100 บาท ส่วนใหญ่ลูกค้าที่มาซื้อจะเป็นกลุ่มวัยรุ่นคนไทย หรือกลุ่มแม่ค้าตามจังหวัดต่าง ๆ ที่รับไปจำหน่ายอีกต่อหนึ่ง โดยเฉพาะจำหน่ายในตลาดนัด ตลาดเปิดท้ายขายของ หรือตลาดคลองถม ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมของลูกค้าอยู่ในขณะนี้
“ไฟแช็กยักษ์มีขนาดใหญ่กว่าไฟ แช็กธรรม 4-5 เท่า ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า มีการจำหน่ายตามตลาดนัดทั่วประ เทศ โดยมีการลักลอบนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านของไทยตามเขตชายแดน เบื้องต้นอยู่ระหว่างการสืบหาผู้ค้ารายใหญ่ หากเจอครั้งแรกก็จะตักเตือนก่อน หากไม่ทำตามก็มีโทษปรับในอัตรา 5,000-50,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ขณะที่ผู้ผลิต มีโทษปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือทั้งจำและปรับ”
ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก เดลินิวส์