เข้าพบตร.-อ้างวุ่น ไม่ตั้งใจแพร่คลิป

มอบตัว - น้องบิว และน้องไอซ์ 2 กะเทยแปลงเพศที่เต้นเปลือย "แน่นอก" โชว์ จนเป็นข่าวครึกโครม มอบตัวพนักงานสอบสวนปอท.แล้ว อ้างถ่ายคลิปเต้นโชว์เล่นๆ แต่ไม่รู้ว่าคลิปไปโผล่ในยูทูบได้อย่างไร เมื่อวันที่ 29 พ.ค.

2 กะเทยเต้นเปลือยเพลง "แน่นอก" โผล่เข้ามอบตัวกับตำรวจ สารภาพทำไปเพราะเมาและคึกคะนอง พร้อมขอโทษสังคม อ้างใช้มือถือถ่ายผ่านโปรแกรมโซเชี่ยลแคม ส่งกันเฉพาะกลุ่มเพื่อนๆ โดยไม่ทราบว่าคลิปจะอัพโหลดขึ้นเว็บอัตโนมัติ แล้วมีคนนำไปโพสต์ต่อในยูทูบ จนกลายเป็นเรื่องอื้อฉาว ตำรวจปอท. แจ้งข้อหาทำผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และกระทำการอันควรขายหน้าต่อหน้าธารกำนัล เตือนคนนำคลิปฉาวไปเผยแพร่ต่อมีความผิดด้วย

จากกรณีคลิปอื้อฉาวเผยแพร่ทางเว็บไซต์ยูทูบ เป็นสาวประเภทสอง 2 คน เปลือยกายเต้นเพลงรักต้องเปิด (แน่นอก) เพลงดังของวงทรีทูวัน และใบเตย อาร์สยาม จนถูกโจมตีว่าไม่เหมาะสม ทั้งคู่ออกคลิปขอโทษ ขณะที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำ ความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เข้ามารับผิดชอบคดีนี้ตามหาตัว 2 สาวประเภทสองมาดำเนินคดี ขณะที่เจ้าของเพลงออกมาติงว่าไม่ควรแสดงออกอย่างไม่เหมาะสม ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 29 พ.ค. นายประภัสราพร หรือไอซ์ ทาสี และนายฐิติมา หรือบิว สีหมอก อายุ 20 ปี เท่ากัน ที่ปรากฏในคลิปเต้นเปลือยในเพลงรักต้องเปิด (แน่นอก) เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ปรัชญา ประสานสุข รองผบก.ปอท. เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ในข้อหานำเข้าข้อมูลลามกอนาจารเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และข้อหากระทำการอันควรขายหน้าต่อ หน้าธารกำนัล มีโทษจำคุก 1 เดือน ปรับ 1 พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นายประภัสราพร และนายฐิติมา ให้การสารภาพและว่า ขอโทษที่เป็นตัวอย่างไม่ดีต่อเยาวชน ขอโทษสาวประเภทสองที่ทำให้เสื่อมเสียจากการกระทำ รวมถึงขอโทษหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเจ้าของบทเพลงด้วย ซึ่งคลิปดังกล่าวถ่ายด้วยโทรศัพท์มือถือในวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา ใช้โปรแกรมโซเชี่ยลแคม เห็นกันเฉพาะกลุ่มเพื่อนๆ

สาวประเภทสองทั้งคู่อ้างอีกว่า แต่เกิดความผิดพลาดเนื่องจากไม่รู้ว่าโปรโซเชี่ยลแคมนั้นจะอัพโหลดลงเว็บไซต์อัตโนมัติทันที นอกจากนี้ไม่ทราบว่าผู้ใดนำไปเผยแพร่ต่อในยูทูบ และที่ทำไปเพราะเมาทำให้คึกคะนอง ซึ่งก่อนหน้านี้ ก็ได้ถ่ายคลิปไว้จำนวนหนึ่งแต่คลิปนี้ถือว่าเป็นคลิปที่แรงที่สุด

ด้านรองผู้บังคับการ ปอท. กล่าวถึงถึงผู้ที่นำคลิปดังกล่าวไปเผยแพร่ต่อจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และขอให้ผู้ปกครองดูแลบุตรหลาน ในการใช้คอมพิวเตอร์ด้วย