เวลา 00.30 น. วันที่ 30 พ.ค. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองเชียงใหม่ พ.ต.อ.อักษร วงษ์ใหญ่ ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ พ.ต.ท.ศักดิ์ศรี ยะปะละ รอง ผกก.สส.ฯ พ.ต.ท.ไกรศรี จุฬพรรค์ พ.ต.ต.ยุทธการ เมธา สว.สส.ฯ ได้จับกุมตัวนายพิทักษ์ เผือกแก้ว อายุ 27 ปี อยู่ ถนนบุญเรืองฤทธิ์ ซอย 2 ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พร้อมของกลาง 1.เสื้อยืด ยี่ห้อ OBEY สีเทา จำนวน 1 ตัว 2.กางเกงยีนส์ ยี่ห้อ WRANGLER จำนวน 1 ตัว 3.รองเท้าหนัง สีน้ำตาล ยี่ห้อ VANS จำนวน 1 คู่ 4.กล้องถ่ายรูป ยี่ห้อ นิคอน สีดำ รุ่น D90 หมายเลข 9158158 จำนวน 1 เครื่อง 5.สำเนาภาพกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ จำนวน 1 แผ่น โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน” ตามหมายจับของศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 241 /2556 วันที่ 29 พฤษภาคม 2556
พ.ต.อ.อักษร เปิดเผยว่า พฤติการณ์แห่งการจับ เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2556 เวลา ประมาณ 08.30 น. ได้มีนักท่องเที่ยวหญิงชาวจีน มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ตนได้ถูกลักทรัพย์ไปจากห้องพักเลขที่ 7 โรงแรมเออร์ลี่เบิร์ด ต.พระสิงห์ อ.เมือง จว.เชียงใหม่ เหตุเกิดวันที่ 21 พฤษภาคม 2556 ประมาณ 22.30 น. ถึงเวลา 07.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รุดไปตรวจที่เกิดเหตุ
ซึ่งมีกล้องวงจรปิดจากการตรวจสอบพบว่าได้มีคนร้ายเข้ามาเปิดประตูห้องที่ผู้เสียหายพักอยู่แล้วได้ลักทรัพย์ไปโดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุลักทรัพย์ลักษณะนี้มาหลายครั้งจึงได้ทำการสืบสวนและติดตามบุคคลที่ปรากฏในภาพในกล้องวงจรปิด จนทราบว่าคือนายพิทักษ์ เผือกแก้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานมอบแก่พนักงานสวบสวน เพื่อขออนุญาตต่อศาลเพื่อออกหมายจับ ตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 241 /2556 วันที่ 29 พฤษภาคม 2556
จากการสืบทราบว่าผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าวได้หลบหนีไปพักอยู่บริเวณหมู่บ้านริมถนนชลประทานต.ช้างเผือกอ.เมือง จ.เชียงใหม่ จึงได้เดินทางไปตรวจสอบเมื่อไปถึงบริเวณดังกล่าว พบนายพิทักษ์ จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และได้แสดงหมายจับต่อนายพิทักษ์ นายพิทักษ์ทราบและยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับ จึงกุมตัวมาที่สภ.เมืองเชียงใหม่
จากการสอบสวนขยายผลนายพิทักษ์ฯ ได้ให้การรับสารภาพอีกว่าตนได้เคยก่อเหตุลักทรัพย์ในอำเภอเมืองเชียงใหม่อีกดังนี้ 1.เมื่อประมาณต้นเดือน มี.ค. 56 ก่อเหตุลักทรัพย์ ที่ TOP NORTH STAR ห้องที่ 104 ,206 ได้เงินสด และกล้องถ่ายรูป 2.เมื่อประมาณต้นเดือน พ.ค. 56 ก่อเหตุลักทรัพย์ ที่ กรีน โอเอซิส ถนนพระปกเกล้า ซอย8 ห้องที่ 3 ,9 ได้เงินสด ประมาณ 9,000 บาท และโทรศัพท์มือถือ 3.เมื่อประมาณต้นเดือน มี.ค. 56 ก่อเหตุลักทรัพย์ ที่ โมจิโต เกสต์เฮาส์ ห้องที่ 2 ได้เงินสดประมาณ 6,000 บาท และโทรศัพท์มือถือ
4.เมื่อประมาณต้นเดือน เม.ย. 56 ก่อเหตุลักทรัพย์ ที่ TOP NORTH STAR ห้องที่ 207 ,209 และห้องไม่มีหมายเลข ได้เงินสด 18,000 บาท , กล้องถ่ายรูป , โทรศัพท์มือถือ
5.เมื่อประมาณกลางเดือน เม.ย. 56 ก่อเหตุลักทรัพย์ ที่ เจ เกสต์เฮาส์ หน้าวัดเชียงมั่น ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ห้องที่ 202 ,203,204,206 ได้เงินสด 10,000 บาท , กล้องถ่ายรูป , โทรศัพท์มือถือ 6.เมื่อประมาณปลายเดือน เม.ย. 56 ก่อเหตุลักทรัพย์ ที่ เจ เกสต์เฮาส์ หน้าวัดเชียงมั่น ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ห้องที่ 101 ,102,104 ได้เงินสด 10,000 บาท , กล้องถ่ายรูป 7.เมื่อวันที่ 20 พ.ค. 56 เวลาประมาณ เวลาประมาณ 04.00 น. ก่อเหตุลักทรัพย์ ที่ MALUK GUEST HOUSE&TOUR ถ.ราชวิถี ซอย2 ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ห้องที่ 2105 ,202,203 ได้เงินสด 4,700 บาท , โทรศัพท์มือถือไอโฟน4S สีดำ , โทรศัพท์มือถือโนเกีย 1 เครื่อง โน๊ตบุ๊ค เอซซุส 1 เครื่อง
จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พ.ต.ท.ไกรศรี กล่าวว่า การจับกุมคนร้ายรายนี้ได้ หลังจากทางตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดแล้ว สังเกตบริเวณรอยสักยันต์ที่แขนของคนร้าย และได้นำกลุ่มแก๊งสักยันต์ต่าง ๆ มาดูว่าการสักยันต์ลักษณะแบบนี้ จะเป็นกลุ่มไหนอย่างไร โดยได้นำคนในละแวกนั้น รวมทั้งสายของตำรวจมาดูก็ทราบว่าคนร้ายคือนายพิทักษ์ เผือกแก้ว
ต่อมาทราบจากสายว่านาย พิทักษ์ ได้ไปกบดานอยู่ที่บ้านแถวบริเวณหมู่บ้านริมถนนชลประทาน ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ และพบนายพิทักษ์ ตำรวจสังเกตจากรอยสักยันต์ที่แขน ก็มั่นใจว่าเป็นคนร้ายในภาพวงจรปิดแน่นอน จึงได้แสดงหมายจับ โดยผู้ต้องหาตอนแรกยังให้การปฏิเสธ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวมาสอบปากคำที่โรงพักและได้เปิดภาพวงจรปิดให้กับผู้ต้องหาดู ผู้ต้องหาเห็นภาพวงจรปิดจึงได้ยอมรับสารภาพ ประกอบกับ รอยสักยันต์ที่แขนเด่นชัด ทำให้ตำรวจมั่นใจว่าเป็นคนเดียวกัน ผู้ต้องหาก็ยอมรับเพราะจำนนต่อหลักฐานภาพกล้องวงจรปิด และรอยสักของตนเอง