เวลา 09.00 น. วันที่ 30 พ.ค. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า ที่ห้องศูนย์ปฏิบัติการสายงานป้องกันปราบปราม สภ.เมืองขอนแก่น (ศปก.) พ.ต.อ.สุภากร คำสิงห์นอก รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น พ.ต.ท.ภาคภูมิ พิสมัย รอง ผกก.สส.ภ.จว.ขอนแก่น พ.ต.อ.จรูญ นวมทอง ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.ไพโรจน์ กุจิรพันธ์  พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ  พ.ต.ท.ชุมพล หันชะนา รอง ผกก.สส.สภ.เมืองขอนแก่น ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมวัยรุ่นตั้งแก๊ง “โลงแตก” คอยฉกทรัพย์ในรถยนต์ขณะเกิดอุบัติเหตุ มีนายเอ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี อยู่ม.4 บ้านบะขาม ต.ในเมือง อ.เมือง ขอนแก่น เป็นหัวหน้าแก๊ง นายนครินทร์ แพงมา นายสามารถ ญาติบำเรอ นายพิเชษฐ์ หงส์อาจ ด.ช. บอย นามสมมติ พร้อมด้วยของกลาง โทรศัพท์มือถือ ไอโฟน 4 S สีขาว ตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่นที่ จ. 192/2556 ลงวันที่ 29 พ.ค. 2556 โดยกล่าวหาว่า “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน”

 สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 26 พ.ค. เวลา 02.00 น. นายณตพล แก้วหาวงศ์ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 222/41 ม. 6 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ได้ขับรถยนต์เก๋ง ฮอนด้า รุ่น CRV สีดำ หมายเลขทะเบียน กจ 11 ขอนแก่น เฉี่ยวชนกับรถ จยย. บริเวณถนนประชาสโมสรตัดถนนเฉลิมพระเกียรติ นายณตพล จึงได้จอดรถยนต์ข้างทางเปิดไฟขอทางและสตาร์ตรถทิ้งไว้ จากนั้นได้ลงไปช่วยผู้ได้รับบาดเจ็บที่นอนอยู่กลางถนน ขณะเดียวกันได้มีวัยรุ่น 5 คน ขับรถ จยย.มา 2 คัน แล้วไปจอดท้ายรถยนต์เก๋ง

 จากนั้นวัยรุ่น 4 คน ได้ลงมาทำทีช่วยผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยให้เพื่อนในกลุ่มอีก 1 คน รอที่รถ จากนั้นเพื่อนที่รอที่รถได้เดินอ้อมไปเปิดประตูรถยนต์เก๋งพร้อมกับหยิบโทรศัพท์มือถือไอโฟน4s พร้อมสายชาร์จ จนกระทั่งเมื่อหน่วยกู้ภัยมาถึงวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวได้ขับรถ จยย.ไปทางสวนสาธารณะบึงทุ่งสร้างหลบหนีไป นายณตพล จึงได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และตรวจสอบกล้องวงจรปิด จนสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ ไอโฟน 4 S

 นายเอ ผู้ต้องหา รับสารภาพว่า ได้ร่วมกับเพื่อนวัยรุ่น ตั้งกลุ่มชื่อว่า แก๊งโลงแตก บ้านโนนทัน ตระเวนขับรถออกเที่ยวไปในตัวเมือง เมื่อพบอุบัติเหตุก็จะทำทีเข้าไปช่วยเหลือ จากนั้นเมื่อเจ้าทรัพย์เผลอก็ย่องเข้าไปลักทรัพย์ของมีค่าภายในรถยนต์แล้วเอาไปขายนำเงินไปเที่ยวเล่นเกม โดยโทรศัพท์มือถือ ตนนำเอาไปจำนำที่ร้านต๋อมโมบาย บ้านดอน ถ.กสิกรทุ่งสร้าง ในราคา 7.000 บาท ซึ่งนายณตพล ซื้อมาในราคา 24.000 บาท หลังแถลงข่าวได้มอบตัวผู้ต้องหาให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป