เปิดใจ!! “แอล-กุ้งเต้น“ คู่รักวิวาห์หญิงแต่งหญิง 

กลายเป็นประเด็นที่ชาวเน็ตทั่วประเทศพูดถึงตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับงานแต่งงานผู้หญิงแต่งผู้หญิงที่ถูกแชร์ภาพไปทั่วโซเชียลเน็ตเวิร์ค จนกระทั่งทั้งคู่เผยตัวตนออกมาและยอมรับว่าเป็นเรื่องนี้

ล่าสุด แอล และ กุ้งเต้น คู่รักหญิงแต่งหญิงกระฉ่อนประเทศ ได้มานั่งคู่เปิดใจผ่านรายการ “ตื่นมาคุย” ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี เปิดเผยทุกประเด็นที่สังคมสงสัย เริ่มต้นจากคำถามเริ่มต้น รู้จักกันได้ยังไง? สาวแอล เปิดเผยว่า “รู้จักกันผ่านทางเฟซบุ๊ก แอลเป็นคนเริ่มต้นพูดคุยกับกุ้งเต้น เพราะชอบที่รอยยิ้มของน้อง มันน่ารัก ร่าเริง สนุกสนาน อยู่ด้วยแล้วคงมีความสุข รู้สึกปิ๊ง! ตกหลุมรักตั้งแต่แรกพบ ความรักของเราไม่ใช่แบบทอม-ดี้ อาจจะเป็นเลสเบี้ยน”

ทั้งคู่ยอมรับว่าก่อนหน้านี้ก็เคยลองคบหากับผู้ชาย กุ้งเต้น เล่าว่า “มีค่ะ พอดีช่วงสมัยเรียนมหาวิทยาลัยก็คบหากับผู้หญิงมาตลอด แล้วมีช่วงเวลาที่เรารู้สึกสับสบกับตัวเอง ประกอบกับมีเพื่อนทักว่า เราคงไม่ใช่แนวนี้หรอกมั้ง ช่วงนั้นก็มีผู้ชายเข้ามาก็เลยลองคบหากันดูค่ะ แต่พอคบกันแล้ว มันไม่มีความสุขเลยค่ะ ไม่ใช่ว่าผู้ชายไม่ดีนะคะ เพราะว่าครอบครัวพี่น้องเพื่อนฝูงของเราก็เป็นผู้ชาย เพียงแต่ว่ามันไม่คลิ๊กกันค่ะ มันอยู่ด้วยกันไม่ได้จริงๆ”

ขณะที่ แอล เล่าประสบการณ์เคยคบหาผู้ชายว่า “ก็เคยมีคบกับผู้ชายค่ะ เพราะช่วงหนึ่งเราก็คิดว่าชีวิตเราจะเป็นยังไง ต้องแต่งงานมั้ย พ่อแม่จะรู้สึกหรือเป็นอะไรมั้ย ก็เคยลองคบหากับผู้ชายดู แต่เรากลับรู้สึกคิดถึงความอ่อนโยน นุ่มนวลแบบผู้หญิง ก็เลยทำให้เราคบกับผู้ชายแล้วไม่รอด เลยกลับมาคบหากับผู้หญิงใหม่ รู้สึกตัวแบบเป็นแบบนี้้ตั้งแต่สมัยเรียน ช่วงมัธยมต้น”

การตัดสินใจแต่งงานครั้งนี้ครอบครัวว่ายังไง? กุ้งเต้น บอกว่า “ก็ไม่ได้ว่าอะไรเลยค่ะ เพราะเราเคยคบหากับผู้หญิงมาตั้งแต่ต้น เขาชินกับแบบนี้ ครอบครัวรู้สึกแปลกใจด้วยซ้ำ ถ้ามีผู้ชายหลงเข้ามาอยู่ในชีวิต”

เมื่อถามว่า ทำไมถึงตัดสินใจแต่งงานกัน สาวแอล เล่นว่า “พอดีไปทานข้าวกับครอบครัวค่ะ พ่อกับแม่ก็ถามถึงเรื่องแฟน ว่าอยู่ยังไง เป็นยังไงบ้าง แอลก็บอกว่าตอนนี้เราอยู่ด้วยกัน ทำให้คิดขึ้นได้ว่า เราควรจะให้เกียรติครอบครัวอีกฝ่ายด้วย จึงคิดจัดพิธีแต่งงาน ลองมาใช้ชีวิตคู่ให้ถูกต้องตามประเพณีไทย เลยขอแต่งงานกับน้อง”

ส่วนในอนาคตคิดจะมีลูกด้วยกันไหม? กุ้งเต้น ชี้แจงว่า “ก็เคยคิดค่ะ แต่ตอนนี้ไม่คิดแล้ว เพราะเรารู้สึกว่า เราเกิดเป็นพุทธ ด้วยความที่เราเกิดมาเป็นแบบนี้ มันคงถูกลิขิตไม่ให้เราได้มีลูกแล้ว เราก็เอาทุกวินาทีที่เรามีตอบแทนบุพการีดีกว่า เราเอาความเป็นลูกที่มี แต่ไม่มีโอกาสได้แสดงความเป็นแม่ ทำให้ชาตินี้เราไม่ขอมีลูกแล้วกัน”

ที่มา:สนุกดอทคอม