ประวัติร้าน SwenSen'S
ก่อตั้งขึ้นโดย Earle Swensen ซึ่งต้องการที่จะมีร้านไอศกรีมส่วนตัวจึงได้ทำการเปิดร้านไอศกรีมขึ้นที่ San Francisco ในปี 1948 The Minor Food Group คือบริษัทผู้ได้รับเฟรนไชส์ของ Swensen's ในประเทศไทย รู้จักกันดีกับไอศกรีมซันเด Swensen's ได้พัฒนาต่อเนื่องมานานหลายปีจนเกิดเป็นสาขาร้านอาหารบรรยากาศสบายสไตล์ครอบ ครัว ที่ไม่ได้มีเสิร์ฟเฉพาะไอศกรีมเท่านั้น แต่มีทางเลือกที่มากขึ้นอย่างอาหารหลากหลาย ของหวานและเครื่องดื่ม เค้กไอศกรีมและสามารถสั่งห่อกลับบ้านได้ เวลา 26 ปี ในสิงคโปร์ Swensen's กลายเป็นชื่อที่คุ้นเคย แรกเริ่ม Swensen's เปิดเป็นร้านอาหาร 200 ที่นั่ง ที่ Thomson Plaza ในปี 1979 ปัจจุบันมีสาขาร้านอาหารบริการครบ 21 สาขา เสิร์ฟเมนูตลอดช่วงวันทั้งอาหาร และไอศกรีมซันเด ล่าสุดมีสิ่งที่เพิ่มเติมสำหรับครอบครัวคือ Swensen's at Compass Point เปิดเมื่อ กันยายน ปี 2005 สาขาทุกสาขามีบริษัท ABR Holdings จำกัด เป็นเจ้าของและบริหารงาน เป็นบริษัทที่มีรายชื่ออยู่ในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ รวมไปถึงการจัดการแฟรนไชส์ใหญ่ๆ ABR ควบคุมแฟรนไชส์ใหญ่ใน สิงคโปร์ บรูไน ฟิลิปปินส์ ปาปัวนิวกินี ออสเตรเลียและจีน อีกด้วย Swensen's ยังพยายามและบรรลุผลสำเร็จในการรับรอง Halal ทั้งในสิงคโปร์และมาเลเซีย
ใน ปี 1948 เมื่อ Earle Swensen เปิดร้านไอศกรีมร้านแรกของเขาในซานฟรานซิสโก บน Russian Hill ได้นำเสนอไอศกรีมแบบที่ว่า ”ดีเท่าที่พ่อเคยทำ” สิ่งเล็กๆที่เขาคิดคือ Swensen's เป็นชื่อที่ตั้งใจให้เป็นคำที่มีความหมายว่า ไอศครีมพิเศษอันเอร็ดอร่อย ที่โลกรู้จักกัน ตั้งแต่นั้นมาไอศกรีมกว่า 180 รสชาติ ได้ถูกสร้างสรรค์ขึ้นและเป็นที่ชื่นชอบแก่ผู้คนทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ทำให้ Earle Swensen ได้ชื่อว่า ” America 's Ice Cream Man” คนรักไอศกรีมทั้งหลายต่างก็เห็นด้วยกับชื่อนี้ เพราะปัจจุบันร้านไอศกรีม Swensen's มีสาขามากกว่า 200 แห่ง ทั่วโลก ทั้งในเอเชีย , ตะวันออกกลาง , สหรัฐอเมริกา และอเมริกาใต้
ประวัติของ Earle Swensen
ความเป็นมาของ Swensen's เริ่มต้นจากการชอบในไอศกรีมของกลาสีเรือชาวอเมริกัน Mr.Earle Swensen's เมื่อเขาพบเครื่องทำไอศกรีมขนาดใหญ่ในเรือ ที่เขาประจำการในปี ค.ศ.1942 จึงใช้เวลาว่างคิดค้นไอศกรีมรสต่างๆ แจกจ่ายเพื่อนฝูงจนกระทั่งปลดประจำการแล้วเขาได้เปิดร้าน "Swensen's Ice Cream" ณ มุมถนนยูเนียนและไฮด์ในเมืองซานฟรานซิสโก มลรัฐแคลิฟอร์เนียในปี ค.ศ.1948 ในระยะแรกของการเปิดร้านเขามักแจกตัวอย่างไอศกรีมให้ลูกค้าได้ลองชิมและแสดง ความคิดเห็นเพราะเชื่อว่าคนที่ชอบรับประทานไอศกรีม Swensen's ของเขาควรมีส่วนในการทำไอศกรีมนั้นเอง ด้วยความพิถึพิถันในการเลือกส่วนผสมชั้นเยี่ยมและบริการ อย่างเป็นกันเองจนเป็นที่ประทับใจของลูกค้าทำให้ร้านไอศกรีมตามแบบฉบับดั้ง เดิมเล็ก แห่งนี้กลายเป็นกิจการที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ต่อมาในปี ค.ศ.1963 บริษัทได้ขยายกิจการออกไปในรูปแบบเฟรนไชส์ โดยในปี ค.ศ.1983 สตีฟส์ ไอศกรีม ได้รับช่วงดำเนินการต่อโดยสืบทอดคุณภาพ กรรมวิธีการผลิตและรสชาติตามแบบดั้งเดิม ขยายเครือข่ายจนปัจจุบันมีเครือขายร้านอยู่ทั่วโลก ในปี ค.ศ.1986 The Minor Group ได้ซื้อลิขสิทธิ์กิจการไอศกรีมสเวนเซ่นส์มาดำเนินการในประเทศไทยโดยเปิดที่ เซ็นทรัล พลาซ่าลาดพร้าวเป็นสาขาแรก ในไม่ช้าสเวนเซ่นส์ก็กลายเป็นร้านไอศกรีมที่อยู่ในความนิยมของชาวไทยอย่าง รวดเร็วจนมาถึงวันนี้ได้เปิดสาขาในหลายจังหวัดทั่วประเทศไทย โดยยึดคุณภาพมาตราฐานเดียวกันกับต้นตำรับอเมริกัน ด้วยส่วนผสมที่คัดสรรจากความสดใหม่ คุณภาพเยี่ยม และไขมันเนย 14%ให้ความเข้มขน หวานมัน พร้อมคุณค่าทางโภชนาการ นอกจากนี้ยังมีไอศกรีมสูตรพิเศษตามฤดูกาล อาทิไอศกรีมมะม่วง ให้เลือกอีกด้วย
คอนเซปต์ของ Swensen’s
มีพื้นฐานบนคอนเซปต์ The American Fountain การออกแบบร้าน Swensen’s ได้ทำเป็น dining area รวมเข้าไป มีลักษณะเป็นบูธ และบรรยากาศงานเลี้ยง ประดับประดาด้วยโคมไฟทิฟฟานี่ แวดล้อมโดยรอบถูกออกแบบให้อบอวลไปด้วยความอบอุ่นและเป็นกันเอง ด้วยสภาพแวดล้อมที่เป็นกันเองและบรรยากาศสบายๆ Swensen’s ได้สร้างตัวมันเองให้เป็นสถานที่ที่ลูกค้ามากกมายสามารถเข้ามาได้ และแต่งตัวตามสบาย จะมาเป็นกลุ่มเล็กหรือกลุ่มใหญ่ หรือจะเป็นโอกาสพิเศษต่างๆ นี่คือสถานที่ ที่คุณสามารถเป็นตัวของคุณเอง
ความคิดพื้นฐานของ Swensen’s
มีการพัฒนาให้เป็นไปใน คอนเซปต์ห้องอาหารบรรยากาศสบายๆ ผลิตภัณฑ์หลักๆของ Swensen’s ยังคงเป็นไอศกรีมชั้นเยี่ยม โดยเฉพาะการทำซันเด ซันเดที่มีชื่อเสียงที่สุดเป็น Earthquake 8 ชั้น เวลาเสิร์ฟจะมีควันจากน้ำแข็งแห้งในแก้วด้วย ไอศครีมอีกอย่างที่น่าดึงดูดคือ ไอศครีม Coit Tower ได้แรงบันดาลใจจาก San Francisco Landmark และ Gold Rush ในวันบุกเบิกตะวันตกยุคเก่า ด้วยความดึงดูดใจ ไอศกรีมซันเด จึงถูกตั้งมั่นให้เป็นผลิตภัณฑ์หลัก เมนูของ Swensen’s มีมากพอที่จะทำให้ประสบการณ์อาหารเย็นสมบูรณ์แบบและดึงดูดทุกเพศทุกวัย รูปแบบเมนูอาหารเต็มรูปแบบมาเป็นลำดับจาก ซุปต่อมาเป็นสลัด พาสต้า ต่อมาก็ขนมปัง แซนด์วิชและแฮมเบอร์เกอร์ และอาหารหลักประประเภทต่างๆ รวมถึง ปลาและมันฝรั่งทอด ที่เคยได้รับความนิยม Swensen’s ยังได้พัฒนาความแปลกใหม่ที่ให้ลูกค้าเฉลิมฉลองกับเค้กไอศกรีมที่บ้าน ที่เต็มไปด้วยควันน้ำแข็งแห้งรักษาความเย็น ทำให้มีการพัฒนากล่องโฟมขึ้นมา เรียกกันว่า Swensen’s Cool Box ที่ทำให้เค้กไอศกรีมยังคงรูปและเย็นนาน 6ชั่วโมง มีเค้กไอศกรีมสำหรับสั่งกลับบ้านให้เลือกถึง 34 แบบ Swensen’s ยังได้รับอนุญาตให้ใช้ตัวละครดิสนีย์ทำเป็นเค้กไอศครีม ได้จับเอาตัวละครที่คุ้นเคยกันดีในลักษณะท่าทางในแบบที่มีชีวิตชีวาเหมือน ต้นตำรับ 57 รูปแบบด้วยกัน มีทั้ง มิคกี้เมาส์ สโนวไวท์ ซินเดอเรลล่า เจ้าหญิงนิทรา วินนี่เดอะพูห์ ปลาน้อยนีโม ลิโลและสติทช์ ดิอินเครดิเบิลส์ และชิคเก้นลิตเติ้ล
กระบวนการผลิตไอศกรีม
นำส่วนผสมที่ได้มาตรฐานและไอศกรีมมิกซ์ผสมกันตามสูตร ใส่ลงในเครื่องทำไอศกรีม ปั่นส่วนผสมและมิกซ์จนเป็นไอศกรีมเนื้อนุ่ม บรรจุไอศกรีมเนื้อนุ่มในถังพลาสติกแล้วการผ่านการฆ่าเชื้อ แช่ในตู้แช่แข็ง (Hard Box) ที่มีอุณหภูมิ -35 องศา เป็นเวลา 24 ชั่วโมง นำมาแช่ในตู้แช่ธรรมดาที่มีอุณหภูมิ -20 องศา
ส่วนผสมของไอศกรีม
มีไขมันเนย 14%
ไขมัน
ขอ ขอบคุณข้อมูลประวัติความเป็นมาของ swensen's จากร้าน swensen's สาขาบิ๊กซีลาดพร้าวและให้โอกาสในการทำงานและโอกาสในการเรียน บทความนี้น่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ต้องการทราบถึงประวัติความเป็นมาของ swensen's ไม่มากก็น้อยค่ะ