Dak Paper Doll Museum สงสัยกันไหมค่ะว่าคืออะไร ??? … สถานที่แห่งนี้ ชื่อภาษาไทยก็คือ พิพิธภัณฑ์ตุ๊กตากระดาษทัก เป็นที่รวบรวมตุ๊กตาต่างๆที่ทำมาจาก Dak Paperโดยจำลองเหตุการณ์ กิจกรรม วัฒนธรรมต่างๆในอดีตของประเทศเกาหลี เช่น เด็กๆเล่นกันอย่างสนุกสนาน, วิถีชีวิตของชาวบ้านแต่ละครอบครัว, การแต่งงาน, คนทำอาหาร, ภาพหญิงสาว ชายหนุ่ม, กิริยาของผู้คนแต่ละคน ฯลฯ ตุ๊กตาเหล่านี้มีความสวยงามและน่ารัก โดยแสดงอารมณ์ สีหน้า และท่าทางที่เสมือนจริง
ทางเข้า Dak Paper Doll Museum
ภาพคุณยายที่เฝ้ามองเด็กๆเล่นอย่างสนุกสนาน
ภาพสองคนพี่น้องกำลังเฝ้ามองท้องฟ้า...
ภาพหญิงวัยกลางคนกำลังนั่งทำอาหาร
ภาพเด็กน้อยกำลังนั่งคิดอย่างหมดหวัง
Dak Paper เป็นกระดาษแบบดั้งเดิมชนิดหนึ่งของประเทศเกาหลี มีลักษณะคล้ายกับกระดาษ Hanji ซึ่งเป็นกระดาษทำด้วยมือแบบดั้งเดิม มีคุณสมบัติทนทาน และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานมาก ในสมัยก่อนส่วนใหญ่แล้วนำมาทำเป็นหน้าต่าง ประตู สมุดบันทึก งานหนังสือ Hanji สามารถเอาไปใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ส่วน Dak Paper เป็นกระดาษที่ทำมาจากใบหม่อนในเกาหลี ที่เรียกว่า “Daknamu” มีลักษณะลวดลายและสีที่เป็นเอกลักษณ์ ในยุคปัจจุบันเป็นที่นิยมในงานหัตถกรรม เพราะมีคุณสมบัติทนทาน กระดาษหนา มีความอ่อนนุ่ม ยืดหยุ่น อายุการใช้งานก็นาน ส่วนใหญ่ก็เอามาใช้เป็น สมุดจดบันทึก ทำกล่องดอกไม้ ว่าว พัด กระเป๋า หนังสือ กระดาษห่อของขวัญ และที่แน่นอนก็คือ ตุ๊กตา!
ภาพการแต่งงาน
ภาพสาวน้อยกำลังเดินทาง
ภาพคุณปู่คุณย่าอยู่กับหลานๆในหน้าหนาวอย่างมีความสุข
เรื่องในสมัยก่อนที่แสดงให้เห็นถึงความเจ๋ง!!! ของกระดาษ Hanji ก็คือ เมื่อเวลาหลายปีที่ผ่านมามีคนค้นพบหนังสือของพระปริยัติธรรมฝังอยู่ใต้หอโดยหินกลบอยู่ อายุของหนังสือประมาณ 1,000 ปีมาแล้ว แต่สิ่งที่ทำให้ผู้ค้นพบต้องตกใจก็คือ เนื้อหาที่อยู่ข้างในมันยังสามารถอ่านได้ ถึงแม้ว่าสภาพมันจะไม่ได้เหมือนเดิมก็ตาม แสดงให้เห็นถึงความทนทานของกระดาษ Hanji ได้เป็นอย่างดี
ภาพเด็กน้อยกำลังมีความสุขกับการเล่นลูกข่าง
ภาพหนุ่มสาวกำลังเดินเล่นกันยามดึก
ตุ๊กตาที่ทำจาก Dak Paper หรือ Hanji นั้นเป็นฝีมือแรงงาน ที่มีความเพียร และมีใจรักในงานศิลปะ พวกเขาเหล่านั้นต้องใช้เวลาฝึกฝนอย่างน้อย 3 ปี กว่าจะชำนาญเป็นมืออาชีพ แต่เค้าเหล่านั้นก็ไม่ได้หยุดการพัฒนาฝีมือแต่อย่างใด ยังคงฝึกฝนไปเรื่อยๆและสร้างสรรค์ผลงานที่ดีๆออกมาให้พวกเราได้ชื่นชม
ภาพคุณย่าเดินมาดูหลานๆเล่นกันอย่างสนุกสนาน
ภาพคุณแม่กำลังเลี้ยงลูกๆในบ้าน
ผลงานแต่ละชิ้นที่เราเห็นกันในพิพิธภัณฑ์ แต่ละตัวใช้เวลาในการทำประมาณ 1-3 เดือน ขึ้นอยู่กับขนาดของตุ๊กตา และทักษะในการทำของคนที่ทำแต่ละคนด้วย กระดาษวัสดุต่างๆที่นำมาประกอบทำเป็นผิวหนัง จะให้สีของผิวหนังได้เหมือนมากๆ การติดเส้นผมบนหนังหัวก็แนบเนียน สีของเสื้อผ้าด้วย มองแล้วโทนสีอบอุ่น ได้อารมณ์เป็นธรรมชาติ สีของเสื้อผ้านั้นมีความโดดเด่น ถือเป็นงานฝีมือที่ยอดเยี่ยม และตุ๊กตาที่ทำเสร็จแล้ว ใบหน้าสามารถสื่ออารมณ์ออกมาได้เสมือนจริง
ภาพสองสาวพี่น้องอยู่ด้วยกัน
ภาพคุณตากำลังทำโทษหลาน
ภาพคู่รักเหมือนในซีรี่ส์เกาหลีเลย 555+
นอกจากนี้พิพิธภัณฑ์ตุ๊กตากระดาษทัก ก็มีมุมสำหรับให้เราลองฝึกทำตุ๊กตา โดยมีอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญมาสอนให้ (ถ้าไปแล้วมีเวลาเหลือก็อย่าพลาด!!! ลองนั่งทำกันดูนะคะ ^O^)
ภาพทางเข้าที่สอนทำตุ๊กตา
ภาพผลงานของคนที่ทำเสร็จ
ภาพขั้นตอนและผลงานที่ทำเสร็จแล้ว
มุมอื่นๆนอกจากตุ๊กตาก็มีนะคะ ^^
ภาพของใช้ในสมัยก่อนไม่ว่าจะเป็นหนังสือ ขวด แก้ว โปสเตอร์ หรือว่าจะเป็นลูกคิด โทรศัพท์ ฯลฯ
ข้อมูลเพิ่มเติม
สถานที่ : Jeju Special Self-Governing Province Seogwipo-si Beophwan-dong 914
เวลาเปิดทำการ : 09:00 – 19:00 น.
ติดต่อสอบถาม :
■ ศูนย์บริการ 1330 >> +82-64-1330 (อังกฤษ, เกาหลี, ญี่ปุ่น, จีน)
■ รายละเอียดเพิ่มเติม >> +82-64-739-2002 (เกาหลี)
โฮมเพจ : www.jeju.go.kr (เกาหลี)
ค่าเข้าชม :
■ ผู้ใหญ่ (อายุ 19 ปีขึ้นไป) 6,000 วอน
■ เด็ก (อายุ 14-19 ปี) 5,000 วอน
■ เด็ก (อาย 4-13 ปี) 4,000 วอน
การเดินทาง : Jeju International Airport – Seogwipo มี 2 วิธี คือ
■ จากสนามบิน ขึ้นรถ Airport limousine bus สาย 600 ไปลงที่ Jeju World Cup Stadium โดยพิพิธภัณฑ์ฯ อยู่ที่ชั้นล่างของสนามกีฬา
■ จากสนามบิน โดยสารรถประจำทางหมายเลข 100 หรือ 200 ไปลงที่ Jeju Express Bus Terminal แล้วเปลี่ยนไปขึ้นรถประจำทางสาย Jungmun Express Bus ไปลงที่ Jeju World Cup Stadium โดยพิพิธภัณฑ์ฯ อยู่ที่ชั้นล่างของสนามกีฬา
ภาพ Jeju World Cup Stadium
ภาพแผนที่ไป Dak Paper Doll Museum
ถ้าใครมีโอกาส ก็ลองไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ฯ แห่งนี้กันนะคะ เชื่อว่าทุกคนที่ได้ไปต้องมีความสุขกลับมาแน่นอน เพราะได้ทั้งความรู้ ความสนุก และภาพถ่ายสวยๆ คราวหน้าจะพาไปเที่ยวที่ไหนอีก อย่าลืมติดตามกันนะ วันนี้ขอตัวลาไปก่อนค่ะทุกคน ^^ 또 만납시다 (โต มันนับชีดา) แล้วพบกันใหม่ ♥