ประเพณีแต่งงานแปลก ๆ จากทั่วโลก

 

 

 

 

 

 


หลังจากตามหามาหลายปี ในที่สุดคุณก็พบ “ใครคนที่ใช่” จนได้ ความรักกำลังสุกงอม บรรยากาศเต็มไปด้วยความโรแมนติค และชีวิตช่างสวยงาม จนกระทั่งถึงช่วงที่คุณใช้เวลาเพื่อวางแผนงานแต่งงานอันสมบูรณ์แบบ นั่นล่ะนรกถามหา เพราะคุณต้องทำงานแข่งกับเดดไลน์ ต้องพยายามทำให้ทุกคนพอใจ แถมยังต้องปฏิบัติตามธรรมเนียมประเพณี แต่ก่อนที่อาการเจ้าสาวสติแตกจะมาเยือน แม่สามีก็จะเข้ามายุ่มย่ามจนดูเหมือนการหนีตามกันไปจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ไม่เอาน่า ผ่อนคลายลงสักนิดและลองอ่านประเพณีแต่งงานเหล่านี้จากทั่วโลกดูสักหน่อย แล้วบางทีคุณอาจจะพบว่าการวางแผนแต่งงานไม่ได้เครียดอย่างที่คิด 

 

แม่สามีผู้น่ารัก (มั้ง)

 


บางหมู่บ้านในแอฟริกา หญิงสูงอายุจะอยู่กับคู่สามี-ภรรยาข้าวใหม่ปลามันในห้องนอนระหว่างคืนแรกของการแต่งงาน โดยในหมู่บ้านเหล่านี้ พวกเขาคาดกันว่าผู้หญิงจะต้องรักษาความบริสุทธิ์ไว้จนกระทั่งถึงคืนวันแต่ง หญิงสูงอายุจะเป็นคนคอยชี้แนะเจ้าสาวว่าต้องทำอะไรบ้างเพื่อให้ความสุขกับสามีของเธอ ถ้าเจ้าสาวดูจะมีประสบการณ์ในด้านนี้มาบ้าง หญิงสูงอายุก็สามารถไปโพนทะนาให้คนในหมู่บ้านฟังได้ว่า ที่จริงแล้วเจ้าสาวไม่บริสุทธิ์และการแต่งงานก็จะถือเป็นโมฆะ ปกติแล้ว หญิงสูงอายุเหล่านี้มักจะเป็นคนในหมู่บ้าน แต่บางครั้งก็อาจเป็นแม่เจ้าสาว หรือแม้แต่แม่เจ้าบ่าวก็ได้ 


 

กลิ่นเธอช่างน่าอภิรมย์

 


ระหว่างงานประเพณี “Blackening the Bride” ในสก็อตแลนด์ เพื่อนและครอบครัวของคู่แต่งงานจะลักพาตัวเจ้าสาวมาและละเลงเธอด้วยสิ่งที่เหม็น เหนียว และไม่น่าพิสมัยที่สุดเท่าที่พวกเขาจะหาได้ ว่ากันว่า ตามตัวของเจ้าสาวจะถูกอาบไปด้วยส่วนผสมของไข่ ซอสเหม็นนานาชนิด เนย เนยแข็ง ซอสแครนเบอร์รี่ ก๋วยเตี๋ยว ปลา เยลลี่ ไส้กรอก และแครอท โดยปกติแล้ว การละเลงนี้จะอยู่ที่กลุ่มเพื่อนๆ และครอบครัวว่าอยากให้เจ้าสาวออกมาเละแค่ไหน หลังจากเหม็นได้ที่แล้ว พวกเขาก็จะพาเธอตระเวณไปตามผับและบาร์ทั่วเมืองเพื่อให้ทุกคนได้ชื่นชม งานนี้ขอบอกว่าเจ้าบ่าวรอดตัว ขณะที่คู่หมั้นของเขาต้องเสียเวลาหลายชั่วโมงเพื่อขจัดสิ่งสกปรกออกจากทั่วร่างกาย ก่อนที่จะได้สวมชุดขาวสวยใสในวันแต่งงาน 


 

ร่ำไห้เพื่อความอยู่เย็นเป็นสุข

 


หลายๆ คนร้องไห้ในงานแต่งงาน และมีอีกหลายคนร้องไห้ระหว่างเตรียมจัดงานแต่ง แต่สำหรับเจ้าสาวและครอบครัวของชนชาติถู่เจียในจีน พวกเขาเต็มใจที่จะร้องไห้เพราะนี่ถือเป็นส่วนหนึ่งของธรรมเนียมประเพณี โดยช่วงหนึ่งเดือนก่อนแต่งงาน เจ้าสาวจะเริ่มปฏิบัติตามธรรมเนียมดังกล่าวและร้องไห้เป็นเวลาราวหนึ่งชั่วโมง สิบวันต่อมา แม่เจ้าสาวก็จะมาร่วมแจมด้วย แล้วจากนั้นอีกสิบวัน คุณยาย น้องสาว/พี่สาว และคุณป้า/น้า ก็จะพาเหรดกันมาสละน้ำตา ธรรมเนียมประเพณีนี้รู้จักกันในชื่อ “Crying Marriage Song” โดยเจ้าสาวจะร้องไห้คร่ำครวญด้วยโทนเสียงต่างๆ กัน และมีวัตถุประสงค์เพื่อฉลองช่วงเวลาแห่งความสุขผ่านคราบน้ำตา แต่ดูท่าว่าสำหรับผู้ชายแล้ว พวกเขาน่าจะร้องไห้หลังแต่งงานซะมากกว่า 


 

สูง คล้ำ และ เอ่อ มีราก?

 


ในอินเดีย กล่าวกันว่า Manglik Dosh (ผู้หญิงที่เกิดในช่วงที่พระอังคารและพระเสาร์อยู่ใต้ทิศเจ็ดนาฬิกา) เป็นสาวต้องคำสาปและมีดวงกินสามี ดังนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ดังกล่าว สาว Manglik Dosh จึงต้องแต่งงานกับต้นไม้ แจกัน หรือวัตถุอื่นๆ ก่อนที่จะเข้าพิธีกับเจ้าบ่าวตัวจริง นี่จะช่วยให้สามีของพวกเธอ แคล้วคลาดจากการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร มีข่าวลือว่านักแสดงสาวสวยชาวอินเดีย Aishwariya Rai แต่งงานกับต้นไม้ก่อนที่จะทำพิธีสมรสจริงกับดาราฮอลลีวู้ดชื่อดัง Abhishek Bachchan 


 

ฟันปลาวาฬแลกกับการแต่งงาน

 


พ่อตาบางคนก็ช่างเรียกร้องมากเสียเหลือเกิน อย่างเช่นที่ฟิจิ นอกเหนือจากที่เจ้าบ่าวต้องสู่ขอเจ้าสาวจากพ่อตาแล้ว พวกเขายังต้องมีของขวัญไปให้แก่พ่อภรรยาในอนาคตอีกด้วย บอกไว้ก่อนว่าไม่ใช่สินเดิม นาฬิกาหรูๆ หรือโทรทัศน์เครื่องใหม่ แต่เป็นฟันของปลาวาฬซึ่งเชื่อกันว่าเป็นสัญลักษณ์สูงสุดของสถานะและความมั่งคั่ง ถ้าคุณพ่อตาตกลงยกลูกสาวให้ เจ้าบ่าวก็จะต้องจัดงานเลี้ยงอาหารโอชาอย่างมโหฬารให้แก่ญาติๆ ฝ่ายหญิง จากนั้น ก่อนการแต่งงาน เจ้าสาวก็จะไปทำการสักเพื่อเพิ่มความสวยงาม สรุปแล้วพิธีการหมั้นจนถึงก่อนงานวันแต่งของชาวฟิจิ ประกอบไปด้วย ฝ่ายชายคุยกับพ่อฝ่ายหญิง เสร็จแล้วก็ไปหาฟันของปลาวาฬมามอบให้พ่อตาเป็นของขวัญ จากนั้น จัดงานเลี้ยงใหญ่ให้กับญาติเจ้าสาว ปิดท้ายด้วยการพา คู่ตุนาหงันไปร้านสักเพื่อเพิ่มความงดงามให้แก่เธอ 


 

ห้ามเข้าห้องน้ำหลังแต่งงาน

 


ในหมู่บ้านเล็กๆ ใกล้กับรัฐซาบาห์ทางตอนเหนือของเกาะบอร์เนียว คู่แต่งงานใหม่ของชุมชน Tidong ถูกห้ามไม่ให้ปัสสาวะและอุจจาระเป็นเวลา 72 ชั่วโมง โดยคู่สามี-ภรรยาจะได้รับอาหารเพียงเล็กน้อยและถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดจากครอบครัวและเพื่อนๆ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครโกงและแอบไป “แดนสุขาเงียบๆ คนเดียว” ถ้าเกิดคู่รักละเมิดธรรมเนียมที่เก่าแก่นี้ เชื่อกันว่าพวกเขาจะต้องผจญกับโชคร้ายอย่างรุนแรง การแต่งงานจะประสบเคราะห์ หรือไม่งั้นลูกๆ ของพวกเขาก็จะเสียชีวิตตั้งแต่ยังเด็ก ก็ได้แต่หวังว่าพิธีกรรมจะไม่ยาวนานไปกว่านี้ 

Credit: http://board.postjung.com/678592.html
19 พ.ค. 56 เวลา 15:10 2,464 1 80
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...