นายน้ำแท้ มีบุญสล้าง อาจารย์ภาควิชาสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เผยผลการศึกษาการใช้สเปรย์ป้องกันตัวในต่างประเทศว่า มีทั้งกำหนดให้เป็นวัตถุผิดกฎหมาย และไม่ผิดกฎหมาย ในประเทศไทยนั้น ระบุว่า “สเปรย์ป้องกันตัวถูกจัดเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4″ มีคุณสมบัติขัดขวางระบบการทำงานของร่างกายเป็นการชั่วคราวเพื่อป้องกันตัวหรือทำร้ายผู้อื่น ซึ่งตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 มาตรา 43 วรรคหนึ่ง ห้ามผลิต, นำเข้า หรือมีไว้ในครอบครอง หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้กฎหมายดังกล่าวคนไทยส่วนใหญ่มักไม่ทราบจึงนำสเปรย์พริกไทยพกติดตัวไว้ใช้ป้องกันตัว
ส่วน พ.ต.ท.โชติวิเชียร วิเชียรโชติ ผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยผู้หญิง แสดงความเห็นว่า โดยส่วนตัวเห็นว่าสเปรย์ดังกล่าวเป็นอุปกรณ์ป้องกันตัวที่เหมาะสมกับผู้หญิง แต่เป็นวัตถุที่ขัดต่อกฎหมาย จึงอยากให้มีการปรับเปลี่ยนเพื่อความเหมาะสม อาจปรับลดให้เป็นวัตถุควบคุมเท่านั้น เพราะอุปกรณ์ชนิดนี้ไม่มีอันตรายร้ายแรง มีความรุนแรงแต่ทำให้แสบตาและระคายเคืองระบบทางเดินหายใจไปชั่วขณะเท่านั้น
สำหรับสเปรย์พริกไทยนั้น ในประเทศอังกฤษ ออสเตรเลีย และแคนาดา ห้ามมีไว้ในครอบครองทั่วไป ยกเว้นเพื่อการป้องกันตัว ขณะที่รัฐต่างๆของสหรัฐฯก็มีมาตรการแตกต่างกันไป