ผืนฟ้าสีชมพู ถาม

 ผมชอบกินน้ำอัดลมพวกนี้มาตั้งแต่เด็ก เวลากินก็จะสงสัยทุกครั้งว่าเค้าใช้อะไรเป็นส่วนประกอบ
รสชาติจึงจะออกมาหอมหวานจนทำให้หลายๆคนติดได้
ปัจจุบันเรียนเกี่ยวกับเรื่องแนวๆนี้ ว่าเวลาเค้าสกัดยาเค้าสามารถเอาพืชมาแยกหาส่วนประกอบได้
ในทางกลับกันเป็นไปได้ไหมที่จะนำมาใช้กับสูตรของน้ำอัดลม ทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพ...??

เจไดหนุ่ม ตอบ

ความจริงแล้วเรื่องส่วนผสมต่างๆของโคล่ายี่ห้อดังนั้นเคยมีคนลองวิเคราะห์กันออกมาได้ "เกือบทั้งหมด"

ตั้งนานปีดีดักแล้วครับ(ย้ำว่าแค่เกือบแต่ไม่ใช่ทั้งหมด)  แต่สิ่งที่เป็นความลับจริงๆคือปริมาณ

และสัดส่วนที่ใช้ระหว่างขั้นตอนการปรุงหัวเชื้อมากกว่า  นอกจากนั้นยังเป็นเรื่องของกฏหมายที่เข้มงวดมากขึ้น

ในปัจจุบันจึงทำให้แม้คุณจะสามารถขโมยสูตรทั้งหมดมาได้  แต่ก็เป็นการยากที่จะจงใจทำรสชาติออกมาให้เหมือนเปี๊ยบ

และสามารถนำมาวางจำหน่ายทำกำไรได้โดยไม่ถูกฟ้องซะก่อน  โดยสูตรลับที่แท้จริงของโคล่าจากบริษัท "โคคา-โคล่า"

นั้นจะถูกเรียกขานกันว่า "7X" ครับ  

     ซึ่งคนที่รู้สูตรนี้จะมีเพียงผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเพียงไม่กี่คนเท่านั้น  

ซึ่งคนเหล่านั้นก็ต้องมีการทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรว่าจะไม่เผยแพร่สูตรดังกล่าวแม้จะพ้นจากตำแหน่งไปแล้วก็ตาม  

ส่วนเจ้าหน้าที่และพนักงานในสายงานอื่นๆแม้กระทั่งคนปรุงหัวเชื้อก็ไม่มีทางรู้สูตรและปริมาณที่แน่นอนทั้งหมดครับ  

นอกจากนี้ทางบริษัทยังมีการปกปิดความลับอีกชั้นด้วยการกำหนดรหัสย่อมาเรียกแทนชื่อของส่วนผสมต่างๆ  

ดังนั้นพนักงานจึงแทบไม่รู้เลยว่าตนเองกำลังผสมอะไรลงไประหว่างขั้นตอนการทำหัวเชื้อของโคล่ายี่ห้อดัง  

ส่วนการวางจำหน่ายในต่างประเทศก็แก้ปัญหาง่ายๆด้วยการบังคับให้ผู้ผลิตในประเทศนั้นๆ

ซื้่อหัวเชื้อจากบริษัทแม่โดยตรงเท่านั้น  จากนั้นผู้แทนจำหน่ายแต่ละรายจึงค่อยนำหัวเชื้อนั้น

ไปผสมกับน้ำโซดาเอาเองภายหลัง  

     ซึ่งเมื่อไม่กี่ปีก่อนหน้านี้มีข่าวที่พนักงานของโค้กเคยขโมยตัวอย่างวัตถุดิบบางตัว

ที่ใช้ทำหัวเชื้อออกไปจากโรงงานและพยายามจะขายมันแก่บริษัทเป๊ปซี่ด้วย  

แต่กลายเป็นว่าบริษัทเป๊ปซี่กลับแจ้งความจับพนักงานหัวเสรายนั้นแทนซึ่งนับว่าเป๊ปซี่เอง

ก็มีจรรยาบรรณที่ดีในการทำธุรกิจ  และที่สำคัญมากไปกว่านั้นคือปัจจุบันสิ่งที่มีค่าที่สุด

ของบริษัทน้ำอัดลมยักษ์ใหญ่คับโลกทั้งสองยี่ห้อนั้นไม่ใช่เรื่องรสชาติหรือความลับของส่วนผสมอะไรนั่นอีกต่อไปแล้ว  

แต่กลับเป็นเรื่องของ "มูลค่า" และ "ชื่อเสียง" ของแบรนด์มากกว่าจนมีนักวิเคราะห์ออกมาพูดในแนวเดียวกันว่า  

ถ้าคุณคิดจะลงทุนเม็ดเงินจำนวนมหาศาลเพื่อสร้างน้ำโคล่ามาขายแข่งกับโค้กหรือเป๊ปซี่แล้วล่ะก็  

สู้เอาเงินที่มีนั้นไปกว้านซื้อหุ้นของทั้งสองบริษัทนี้ไว้ดูจะเป็นความคิดที่เข้าท่ากว่า 

ป.ล. เสริมสุขในปัจจุบันที่ทำ "เอส" ได้ก็เพราะมีประสบการณ์จากเป๊ปซี่มาหลายสิบปีแล้ว 

 และมั่นใจว่าตนเองอยู่ในแวดวงน้ำดำของเมืองไทยมานานถึงกล้าทำโคล่าของตัวเองออกมาสู้.