มวยไทย กับ ฝรั่ง สมัย ร.1

 

 

 

 

 

 



เขาเล่าว่าเมื่อปีวอก ในแผ่นดินพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก มีเรือกำปั่นฝรั่งเศสลำหนึ่งแล่นมาค้าขายกรุงเทพมหานคร

ทั้งนี้นายเรือเลี้ยงนักมวยไว้สองคนเป็นพี่น้อง ต่างเก่งกล้าสามารถ โดยเฉพาะคนน้องนั้นร่างกายสูงใหญ่บึกบึนมีพละกำลังฝีมือดี นายเรือแล่นกำปั่นไปถึงที่ใดก็มักจะท้าทายคนเก่งของท้องถิ่นนั้นมาต่อสู้ด้วย ได้รับชัยชนะหลายครั้งหลายหน

ครั้นเมื่อมาถึงเมืองไทย นายเรือก็พูดกับเจ้าพระยาพระคลัง (น่าจะเป็นคนเดียวกับที่แปลหนังสือสามก๊ก)ผ่านล่ามว่า ตนเองมีนักมวยฝีมือดีอยากท้าพนันชกกับนักมวยไทย ในเมืองหลวงของไทยนี้จะมีคนดีพอสู้หรือเปล่า

เจ้าพระยาพระคลังฟังเช่นนั้นก็โกรธ ตอบว่าเมืองไทยมีนักมวยเยอะ และชอบชกกับนักมวยต่างชาติเสียด้วยขอให้รอสักวันสองวันจะได้รู้เรืองกัน

จากนั้นเจ้าพระยาพระคลังจึงนำเรืองไปกราบทูล ร.๑ และ ร.๑ ก็เอาเรื่องไปพูดกับ พระอนุชาธิราช หรือกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท (ถ้าใครอ่านประวัติศาสตร์จะทราบว่าท่านผู้นี้เป็นคนท้ายๆที่อยู่ปกป้องกรุงศรีอยุธยาเมื่อคราวจะเสียเมือง และเป็นแม่ทัพที่มีบทบาทมากในสงครามเก้าทัพ โดยขึ้นชื่อว่าเป็นคนดุร้าย และรักชาติมาก)

กรมพระราชวังบวรฯ ฟังเรืองนี้ก็โกรธเช่นกัน จึงขันอาสาหาตัวนักมวยมาชกครั้งนี้ ต่อมาเลือกได้นักมวยไทยใต้สังกัดตนคนหนึ่ง เป็นคนรูปร่างสูงใหญ่บึกบึนมีสติปัญญาเฉลียวฉลาด น้ำใจเข้มแข็ง มีชื่อบรรดาศักดิ์ว่า 'หมื่นหาญ' ซึ่งเป็นตำแหน่งสำคัญในวังหน้า
จึงสั่งให้สร้างสนามและพลับพลาสำหรับดูมวยขึ้นทิศตะวันตกของวัดพระแก้ว (อยู่ในเขตพระบรมมหาราชวังชั้นนอก) สำหรับการนี้ยังวางเดิมพันเองถึง ๕๐ ชั่งด้วย



ครั้นถึงวันชก ร.๑ ,กรมพระราชวังบวรฯ พร้อมกับข้าราชการใหญ่น้อยจำนวนมากก็มานั่งชม พร้อมกับพวกนายเรือ

การต่อสู้ระหว่างหมื่นหาญกับนักมวยฝรั่งเศสเริ่มขึ้นโดยนักมวยฝรั่ง (คนที่มาสู้นี้เป็นคนน้องที่เก่งกว่า) ถาโถมเข้าใส่หมื่นหาญ ถูกหมื่นหาญใช้เท้าซ้ายขวาเตะเข้า๒-๓ ที และต่อยเข้าที่หน้าอีก ๓-๔ ครั้ง นักมวยฝรั่งถึงกับเซถลาไปบ้าง พอตั้งหลักได้ก็โถมเข้าอีกถูกเตะบ้าง ถีบบ้างอีกหลายๆทีก็ชักขยาด จึงเริ่มประเมินกำลังฝ่ายตรงข้ามใหม่ ไม่ต่อสู้โดยใจร้อนอีก

จากนั้นนักมวยฝรั่งเปลี่ยนมาคุมเชิงหมื่นหาญ พยายามสืบเท้าย่างเข้ามาจับทุ่ม หรือผลักให้ล้มลงหรือ หักแขนหักกระดูกไหปลาร้า หรือให้หมื่นหาญพิการ หมื่นหาญรู้เชิงก็ถอยและเตะสกัดไม่ให้คู่ต่อสู้เข้ามาใกล้ขณะเดียวกันก็หาโอกาสโต้กลับอยู่เรื่อยๆ

การชกจึงเป็นไปแบบไม่ตื่นเต้นนัก เพราะทั้งสองฝ่ายต่างระแวดระวังกันอยู่มาก เป็นการชิงจังหวะเผด็จศึกกันเช่นนี้อยู่เนิ่นนาน จนคนดูทั้งสองฝ่ายเริ่มหงุดหงิด คนดูไทยก็ชักไม่พอใจส่งเสียงโห่ เพราะคิดว่าฝรั่งทำผิดกติกาโดยบอกว่าเป็นนักมวย แต่ไม่ใช้วิธีชก กลับเน้นการ
กอดปล้ำหักโหมด้วยพละกำลัง ซึ่งฝ่ายไทยตัวเล็กกว่ามากย่อมเสียเปรียบ (เข้าใจว่าสูงใหญ่ไทยกับสูงใหญ่ฝรั่งมันก็คนละไซส์กันนั่นเอง)

การชกดำเนินไปถึงจุดวุ่นวายเมื่อนักมวยฝรั่งคนพี่ที่นั่งดูอยู่ด้วยนั้นมีความหงุดหงิดรุ่มร้อน ใช้มือดันหลังหมื่นหาญอย่างแรงเข้าไปกลางเวที

เหตุการณ์นี้ทำให้กรมพระราชวังบวรฯกริ้วมาก บอกว่าเมื่อท้าพนันชกกันตัวต่อตัว เหตุใดจึงมีผู้บังอาจสอดมือเข้ามาผลักไสหมื่นหาญ เป็นโอกาสให้สามารถพลาดท่าได้

คนดูไทยทั้งหมดก็ลุกฮือขึ้นโดยความไม่พอใจคนดูฝรั่งก็ลุกฮือขึ้นตาม ร่ำๆว่าจะเกิดมวยหมู่ระหว่างผู้ชมแต่ก็เป็นที่เกรงพระราชอาญาด้วยอยู่หน้าพระที่นั่ง

ร.๑ ซึ่งใจเย็นกว่าเห็นว่าเหตุการณ์อาจลุกลามเป็นที่ครหาแก่เมืองไทย จึงสั่งระงับการชกมวยคู่นี้เสียกลางคัน

นั่นคือหมื่นหาญนักมวยเอกของไทยกับนักมวยฝีมือดีจากฝรั่งเศส ชกกันโดยไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ และไม่มีการตัดสินอีกด้วย

พวกฝรั่งได้รับความอับอายที่ฝ่ายตนเป็นผู้เล่นโกงก่อนและถูกคนไทยเกลียด จึงแล่นเรือออกจากกรุงเทพฯไปในคืนนั้น 

 

 

Credit: http://board.postjung.com/677975.html
16 พ.ค. 56 เวลา 07:33 5,227 4 120
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...