วินาศสันตะโรสี่แยกกำแพงเพชร รถพ่วงซิ่งฝ่าไฟแดงชนจักรยานยนต์รวด 5 คัน เหยียบทับดับ 4 ศพ โชเฟอร์อ้างไม่ได้หนี แต่กว่าจะจอดเลยไป 3 กม.
ร.ต.อ.ผดุงศักดิ์ ปาณะคำ เจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรขาณุวรลักษบุรี ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถพ่วงชนรถจักรยานยนต์ กลางสี่แยกไฟแดง มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย และมีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุกลางสี่แยกสัญญาณไฟเขียวไฟแดง ขาขึ้นบนถนนพหลโยธิน หมู่ 1 ต.สลกบาตร อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร เจ้าหน้าที่พบรถจักรยานยนต์จำนวน 5 คัน ชิ้นส่วนของรถกระจายทั่วท้องถนน และมีไฟลุกท่วมรถจักรยานยนต์ที่กลางถนน ชาวบ้านที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ ได้ช่วยกันนำถังดับเพลิงมาช่วยสกัดไฟ และมีร่างของผู้บาดเจ็บและร่างของผู้เสียชีวิต ขาขาด มีเด็กกะโหลกแตก ชิ้นส่วนอวัยวะกระเด็นตกอยู่ในที่เกิดเหตุ
เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือ นำร่างผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลขาณุวรลักษบุรี และโรงพยาบาลกำแพงเพชร พบว่ามีผู้เสียชีวิต 4 คน ด้วยกันคือ เสียชีวิตในที่เกิดจำนวน 2 ศพ ชื่อ นางสุมาลี ดีดำ และ ด.ช.ภานรินทร์ ผึ้งเถื่อนอายุ 5 ขวบ ชาว จ.กำแพงเพชร และไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล 2 ราย คือ น.ส.อรทัย สมพา อายุ 36 ปี และน.ส.นิตยา ดีดำ ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เนื่องจากถูกแรงกระแทกหน้าอกซี่โครงหักหลายซี่ นอกนั้นเป็นผู้บาดเจ็บที่ยังอยู่ในโรงพยาบาลขาณุวรลักษบุรีอีก 5 คน
ส่วนรถคู่กรณีที่ก่อเหตุเป็นรถบรรทุกพ่วงบรรทุกซีเมนต์ หมายเลขทะเบียน 70-5220 ลำปาง ตัวพ่วงหมายเลขทะเบียน 70-2154 ลำปาง หน้ารถมีอักษรชื่อ พรพระพรม รัษมีเรืองชัย ภายในรถพ่วงบรรทุกปูนช้าง 700 ถุง หนัก 35,000 กิโลกรัม คนขับชื่อ นายวันรบ หลอมทอง อายุ 31 ปี ชาวจ.พิษณุโลก หลังเกิดอุบัติเหตุได้ขับรถเลยจากสี่แยกไปหลายร้อยเมตร จอดริมถนนหน้าปั๊ม ไม่ได้หลบหนีไปไหน
จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่า ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ จำนวน 5 คันจอดติดไฟแดงบริเวณสี่แยกสกลบาตร เมื่อได้รับสัญญาณไฟเขียว รถจักรยานยนต์ จำนวน 5 คัน จึงขับขี่ข้ามถนน มุ่งหน้าไปบ้านบ่อถ้ำ ทันใดนั้น ได้มีรถยนต์บรรทุกพ่วง 18 ล้อ มาจากทางนครสวรรค์ มุ่งหน้ากำแพงเพชร ได้ขับขี่ฝ่าสัญญาณไฟแดงของช่องทางตนเอง ทำให้เกิดการชนอย่างจังกับรถจักรยานยนต์ จำนวน 5 คัน ทำให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บ นำส่งโรงพยาบาลขาณุวรลักษบุรี ดังกล่าว
นายวันรบ คนขับรถบรรทุกเปิดเผยว่า ขับรถออกมาจากโรงปูนที่ จ.สระบุรี เมื่อตอนตี 3 ต้องรีบไปด่านศุลกากร อ.แม่สอด จ.ตาก ก่อนเที่ยง ขณะขับรถมาถึงสี่แยกที่เกิดเหตุ ความเร็วรถอยู่ระดับที่ 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตนมองเห็นสัญญาณไฟเป็นสีเขียว เมื่อเหลือระยะ 50 เมตรไฟเปลี่ยนเป็นสีส้ม ตนพยายามเหยียบเบรกแต่เบรกไม่อยู่ จึงเร่งส่งเครื่องยนต์เพื่อฝ่าสัญญาณไฟ แต่ตัวพ่วงไปไม่พ้นจึงเกิดเหตุขึ้นดังกล่าว
เบื้องต้นจากการตรวจสภาพรถพ่วงพบว่า ตั้งแต่ยางล้อหน้าด้านขวาไปจนถึงล้อทุกล้อพบว่า ที่ขอบยางมีรอยเฉี่ยวชนทุกวง ยางหลังระเบิดไป 1 เส้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พิจารณาแล้วเห็นว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจากความประมาทของผู้ขับขี่รถยนต์บรรทุกพ่วง ที่ขับขี่ฝ่าสัญญาณไฟแดงทำให้เกิดการเฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจึงตั้งข้อหาโชว์เฟอร์รายนี้ ขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ เสียชีวิต และเสียทรัพย์ ควบคุมตัวดำเนินคดีต่อไป