คดีความที่พระเอกดัง “ปาร์คซีฮู” (Park Shi Hoo) ตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าข่มขืนหญิงสาว เด็กฝึกหัดเป็นศิลปินของสังกัดบันเทิงแห่งหนึ่ง ซึ่งกลายเป็นเรื่องวุ่นวายกินเวลายาวนานมาหลายเดือนได้ปิดฉากลงแล้ว เมื่อมีข่าวเปิดเผยออกมาว่าเป็นฝ่ายหญิงที่ตัดสินใจขอถอนฟ้อง
       
       ซึ่งนอกจากฝ่ายหญิงจะถอนฟ้อง ยกเลิกการเอาผิดนักแสดงชายชื่อดัง ที่เธออ้างว่าโดนเขาข่มขืนระหว่างที่ตนเองหมดสติแล้ว ข่าวก็ยืนยันว่าหลังจากนั้นฝ่าย ปาร์คซีฮู เองก็ยุติการดำเนินคดีจากฝั่งของเขาด้วยเช่นเดียวกัน
       
       ยังไม่มีการเปิดเผยถึงเหตุผลที่ทำให้ฝ่ายหญิงตัดสินใจถอนฟ้อง เพียงแต่มีข้อมูลออกมาว่า ทนายความของเธอได้ยื่นเอกสารต่อศาล เพื่อขอยุติการดำเนินคดี เพราะฉะนั้นเจ้าหน้าที่อัยการจึงไม่มีหน้าที่ดำเนินเรื่องใดๆ อีก
       
       นอกจากนั้นเธอก็ถอนฟ้องต่อ “คิม” เพื่อนรุ่นน้องของปาร์คซีฮู ซึ่งว่ากันว่าอยู่ร่วมในเหตุการณ์ด้วยเช่นเดียวกัน ด้วยเหตุนี้ถึงตอนนี้จะเหลือเพียงคดีความระหว่าง ปาร์คซีฮูกับบริษัทที่เป็นต้นสังกัดเก่าของฝ่ายหญิงที่เหลือค้างอยู่เท่านั้น แต่ทนายความส่วนตัวของพระเอกคนดังก็เปิดเผยว่า ทั้งสองฝ่ายกำลังอยู่ระหว่างดำเนินเรื่อง เพื่อยุติการดำเนินคดีเช่นเดียวกัน
       
       ย้อนหลังกลับไปเมื่อเดือน ก.พ.กลายเป็นข่าวใหญ่อื้อฉาวไปทั่ววงการบันเทิงเกาหลีใต้ เมื่อมีรายงานเปิดเผยว่าพระเอกชื่อดังที่กำลังมาแรง ปาร์คซีฮู และเพื่อนรุ่นน้องคนหนึ่งโดนหญิงสาวที่ไม่ขอเปิดเผยตัวต่อสาธารณะ เพียงอ้างว่าตัวเองเป็นศิลปินฝึกหัดในสังกัดบันเทิงแห่งหนึ่ง ฟ้องร้องในข้อหาข่มขืนล่วงละเมิดทางเพศ
       
       ซึ่งต่อมามีข้อมูลต่างๆ ของคดีเปิดเผยสู่สาธารณะมากมาย ส่วนใหญ่มาจากฝ่ายทีมกฎหมายของ ปาร์คซีฮู ที่พยายามชี้แจงว่าดาราหนุ่มชื่อดัง และหญิงสาวคนนี้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันตามปกติธรรมดา ไม่ได้เกิดเหตุรุนแรงข่มขืนกันขึ้นแต่อย่างใด แต่แล้วเธอกลับใช้เรื่องดังกล่าวเพื่อเล่นงานใส่ความเขา เพราะต้องการจะเรียกเงินก้อนโต ทีมกฎหมายของ ปาร์คซีฮู ยังกล่าวโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าทำคดีโดยมีอคติต่อลูกความของเขา ด้วยการไม่ยอมพิจารณาหลักฐานสำคัญบางชิ้น
       
       เรื่องทั้งหมดได้บานปลายไปถึงประเด็นที่มีองค์กรเอกชนได้ตัดสินใจฟ้องร้อง ปาร์คซีฮู และทนายความ ว่ามีเจตนาจะขัดขวางกระบวนการยุติธรรม ด้วยการใช้แผนการทำลายความน่าเชื่อถือของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
       
       แต่แล้วคดีความที่ดูเหมือนวุ่นวายน่าปวดหัวก็จบลงอย่างง่ายๆ โดยไม่ต้องพึ่งศาล เมื่อฝ่ายหญิงได้ตัดสินใจถอนฟ้องไปในที่สุด