ภายหลังจากที่ นายพานทองแท้ ชินวัตร หลานชาย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความฝากไปถึง "ชัย ราชวัตร" การ์ตูนนิสต์ชื่อดัง ของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ที่มาการโพสต์ข้อความ พาดพิงให้รู้สึกเหมือนไปต่อว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ซึ่งเป็นอาของตัวเอง และตบท้ายประโยคให้แสดงความรับผิดชอบต่อสังคม หรือไม่ก็นำกระโปรงแอร์โฮสเตสสาว สายการบินคาเธย์แปซิฟิก มาสวมหัว และต่อมาอดีตแอร์โฮสเตสคนดังกล่าว ได้โพสต์ข้อความตอบโต้นายพานทองแท้ผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยให้กำลังใจ "ชัย ราชวัตร" และฝากบอก นายพานทองแท้ว่า "อย่ามาแตะต้องกระโปรงฉัน" จนกลายเป็นประเด็นร้อนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ไปทั้งสังคมขณะนี้นั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา ใกล้เที่ยงของวันที่ 7 พฤษภาคม นายพานทองแท้ ได้โพสต์ข้อความ ถึงกรณีดังกล่าวอีกรอบ ผ่านทางเฟซบุ๊ก Oak Panthongtae Shinawatra โดยระบุข้อความว่า
"ในโพสต์ที่แล้ว ผมได้เชิญชวนพี่น้องร่วมให้กำลังใจนายกฯปู เพียงแค่1วันแฟนเพจกดไลค์สูงสุดเป็นประวัติการณ์เลยครับ
เจตนารมณ์ในการโพสต์ข้อความของผมนั้น นอกจากต้องการกำลังใจจากแฟนเพจทุกท่าน เพื่อมอบให้กับ"อาปู"แล้ว ผมต้องการส่งข้อความถึง นสพ.ต้นสังกัดให้ช่วยกรุณาพิจารณา ให้ความเป็นธรรมกับลูกผู้หญิงซึ่งถูกก้าวร้าว ด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย และอยากที่จะเตือนสติกันตรงๆ ถึงผู้ที่ใช้นามปากกา "ชัย ราชวัตร"ด้วย
ผมเชื่อว่า คนที่เคยมีชื่อเสียงเช่น ชัย ราชวัตร เพียงชั่วเวลาข้ามคืน กลับต้องมาโดนกระแสสังคมกระหน่ำประณาม ว่าเป็นหน้าตัวเมียรังแกผู้หญิง ช่วงเวลานี้น่าจะอยู่ในอารมณ์ที่สับสน แปรปรวนครับ "สมองส่วนคิด"ย่อมรู้สึกผิดที่ตัวเองเป็นลูกผู้ชายแท้ๆ ไม่น่าจะไปรังแกผู้หญิงด้วยการเปรียบเทียบที่หยาบคายแบบนั้น แต่ "สมองส่วนอยาก"กำลังพยายามหลอกตัวเองว่า อาปูเป็นคนขายชาติทำไมเราต้องไปพูดจาสุภาพด้วย
ถ้าเราสามารถดึงให้ ชัย ราชวัตร กลับเข้ามาสู่สภาวะจิตใจที่ปกติได้ เขาก็จะเลิกเอาชนะผู้อื่นด้วยถ้อยคำหยาบคาย หันมาใช้วิธีปกติที่สื่อมวลชนทั่วไปทำกันครับ หรืออาจใช้วิธีที่ ชัย ราชวัตร(คนเดิม) กระทำมาหลายสิบปี คือการตั้งโจทย์ต่อสังคม ด้วยการเขียนการ์ตูน3ช่องที่ตนเองถนัด อธิบายว่าอาปูขายชาติอย่างไร ขายได้กี่บาทหรือได้อะไรตอบแทนมา สังคมจะเชื่อหรือไม่ ชัยฯก็ต้องอดทน และเพียรพยายาม เช่นเดียวกับคนอื่นๆในสังคม ที่ต้องอดทนและอดกลั้น เวลาคนส่วนใหญ่เขาคิดไม่เหมือนที่ตนเองคิด
อาการแบบที่ ชัย ราชวัตร เป็นนี้ ปัจจุบันเกิดขึ้นเยอะครับ โดยเฉพาะในหมู่ผู้ที่นิยมเสพ "สื่อเลือกข้าง" ดูทุกวัน, อ่านทุกวัน สะกดจิตตัวเองไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็อินไปกับเขาเองครับ โพสต์ที่แล้วผมโพสต์ไปแตะอดีตแอร์โฮสเตจที่คลั่งชาติแบบผิดๆ จนลืมจรรยาบรรณลืมหน้าที่ของตัวเอง ระบายอารมณ์ชั่ววูบบนหน้าเฟสบุ๊ค ด้วยความสงสารว่า เขาต้องออกจากงานที่ทำมาหลายสิบปี ทิ้งเงินเดือนนับแสนบาท อยากจะยกย่องว่าเป็นสปิริตของผู้หญิงคนหนึ่ง เท่านั้นแหละ!!...มาเป็นชุดครับ "ที่เดี๊ยนต้องออกจากงาน...เพราะอำนาจเถื่อนทางการเมือง....คุกคามการทำธุรกิจของสายการบิน" โอ้โห...ว่าไปโน่น...ป้านะป้า!!
เนี่ยคอยดูนะครับ เดี๋ยวก็มาอีกพร้อมกับคำหยาบๆคายๆตามสไตล์ถนัด ไม่เชื่อคอยดูได้เลย
คนประเภทนี้เจ้าลัทธิบอกอะไร ก็เฮ..ก็เชื่อ..ครับ
ทักษิณขายทั้งประเทศก็...เฮ...เชื่อ ทักษิณซื้อทั้งประเทศก็...เฮ...เชื่อ
(แล้วตกลงพ่อตรู จะขายหรือซื้อประเทศนี้ กันแน่ฟระเนี่ย...งง)
ทักษิณสั่งทุบพระพรหมณ์ก็เฮ...เชื่อ. สนธิเอาปูนปิดตาพระก็...เฮ...น่าเลื่อมใสศรัทธา
ทักษิณทำบุญประเทศที่วัดพระแก้วก็...เฮ....ทำผิดมหันต์
พอสนธิฯเอาโกเต็กใช้แล้วไปทาฐานพระบรมรูปฯก็....เฮ...พิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์
ฟังม๊อบพูดไป ดูTVไป, อ่านสื่อเลือกข้างไปเยอะๆ ก็เริ่มจะรู้สึกว่าตัวเองฉลาดรู้ทันทักษิณฯว่าเป็นคนเลว แล้วทำไมคนส่วนใหญ่ของประเทศยังโง่อยู่ ดันไปเลือกน้องสาวทักษิณมาเป็นนายกฯอีกได้ยังไง คิดแบบนี้ก็เป็นแบบ ชัย ราชวัตร และคนอื่นๆที่คิดว่าตนฉลาดเกินคนไทยส่วนใหญ่ ก็แค่นี้แหละครับ
คิดดูง่ายๆถ้าอาปูขายชาติจริง พี่ๆนักข่าวคนอื่นๆในสื่อมาตรฐาน ที่ไม่ใช่สื่อเลือกข้างทั้งหลาย ทำไมเขาไม่มีอาการเหมือนพี่ชัยฯละครับ ผมเชื่อว่าทุกท่านมีความรักบ้านเกิดเมืองนอนไม่แพ้พี่ชัยฯ ประชาชนที่เขาเลือกพรรคเพื่อไทยเกินครึ่งประเทศ เขาจะยอมให้อาปูเอาชาติไปขายเหรอครับ ถ้าพี่ชัยฯใช้นามปากกาที่เขียนในสื่อสิ่งพิมพ์หลัก เซ็ตบรรทัดฐานกับสังคมไว้แบบนี้ ประเทศชาติมันก็วุ่นวายไม่รู้จบครับ ไม่ต้องถึงรุ่นลูกรุ่นหลานจำเป็นแบบอย่างหรอก เอาแค่ถ้าโพสต์ข้อความ"กระหรี่"แล้วไม่มีความผิด รับรองไม่ถึงเดือนลัทธิเอาอย่าง เราจะเห็นหินตา-หินยาย-ศัพท์แสงในการร่วมเพศว่อนเน็ตไปหมดครับ ออกมาขอโทษแล้วพูดจากันดีๆจะดีกว่าไหมครับ
การพูดของอาปู ที่มองโกเลียนั้น เป็นเรื่องที่สังคมไทยจะต้องถกเถียงกันไปอีกนานครับ ในเมื่อคนส่วนหนึ่งมองว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงในประเทศไทยของเรา จำเป็นต้องมีการแก้ไขให้เป็นประชาธิปไตยเต็มตัวเสียที แต่คนอีกส่วนหนึ่งมองว่า ปล่อยให้เป็นแบบนี้แหละดีแล้ว คนที่ถูกตีตราว่าเป็น "คนดี" จะทำอะไรก็ไม่ผิด บุกรุกป่าต้นน้ำมาทำเป็นบ้านพักตากอากาศก็ไม่ผิด ส่วนคนที่ถูกกันให้มาอยู่ในซีกคนเลว ทำอะไรก็ผิดหมด ตัดสินผิดถูกกันราวกับใช้กฏหมายคนละฉบับ ไม่ยึดถือกติกาเดียวกัน จบยากครับ
เรื่องขายชาติอันที่จริงก็มีครับ เร็วๆนี้เรื่อง ปรส.ซึ่งเป็นการขายชาติแบบเห็นกันจะๆ กำลังจะถูกปล่อยให้หมดอายุความ จะมีสลิ่มแมลงสาบที่รักชาติ ออกมาโวยว่าขายชาติไหมครับ ชัย ราชวัตร หล่ะจะออกมาโพสต์ด่าใครหรือเปล่า ปล้นของคนไทยไปขายฝรั่งถูกๆ แล้วฝรั่งเอากลับมาขายคนไทยแพงๆ ไม่ใช่ขายชาติหรือครับ กล้าสาบานไหมล่ะว่าไม่มี "คนดี"รับเงินฝรั่ง ไม่มีคนดีไปสั่งให้ปล่อยจนคดีหมดอายุความ ประชาธิปไตยในเมืองไทย กระบวนการยุติธรรมไทย อยู่ที่จะหยิบเรื่องใดของใคร ขึ้นมาพิจารณาเอาผิดอย่างนั้นหรือ!!
กลับมายอมรับความจริงกันเถอะครับ สิ่งที่อาปูพูดนั่นแหละคือสิ่งที่ถูกต้องแล้ว ยึดถือกฏกติกาที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน คือหนทางเดียวที่จะทำให้ประเทศชาติ กลับไปสู่สถานการณ์ปกติได้ ใครไม่เชื่อเดี๋ยวผมเอาถอดเทปเป็นภาษาไทย มาโพสต์ให้ดูในครั้งหน้าก็ได้ ไม่มีส่วนใดที่เป็นการขายชาติเลย ความจริงล้วนๆ
โพสต์ที่แล้วผมมีให้เลือกอยู่2ทาง แต่ทางเลือกนึงเจ้าของกระโปรงเขาไม่อนุญาตแล้ว จึงเหลือทางเลือกเดียว ออกมาขอโทษต่อสังคม และแสดงความเห็นต่างด้วยเหตุด้วยผล แบบสุภาพชนดีกว่ามั๊ยครับ "ชัย ราชวัตร"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโพสต์ข้อความดังกล่าวของนายพานทองแท้ ยังมีรูป ภาพ"ส่วนตัว" หลากอิริยาบถ ในการร่วมแสดงออกทางกิจกรรมทางการเมืองของ อดีตแอร์โฮสเตสสาวสายการบินดัง มาประกอบอยู่ด้วย
คลิกอ่าน อดีตแอร์คาเธ่ย์ฯโพสต์ฉะ โอ๊ค พานทองแท้ "อย่ามาแตะต้องกระโปรงฉัน"
คลิกอ่าน "โอ๊ค"แรงส์! ถาม"ชัย ราชวัตร" จะแสดงความรับผิดชอบสังคม หรือขอกระโปรงแอร์คาเธ่ย์คลุมหัว ?