เมื่อ 7 พ.ค. ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ตำรวจสหรัฐคลี่คลายคดีลักพาตัวคดีใหญ่ในเมือง ครีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ ช่วยเหลือหญิงวัยรุ่น 3 คนที่หายตัวไปเมื่อสิบปีก่อน พร้อมจับกุมชายเจ้าของบ้าน วัย 52 ปี และพี่น้องผู้ชายอีก 2 คน ในข้อหาลักพาตัว และกักขังหน่วงเหนี่ยว
หญิงทั้งสาม ได้แก่ น.ส.อแมนด้า เบอร์รี่ หายตัวไปเมื่อปี 2546 ขณะอายุ 16 ปี น.ส.จิน่า เดอจีซัส หายตัวไปเมื่อปี 2547 ขณะอายุ 14 ปี และน.ส.มิเชล ไนต์ หายตัวไปเมื่อปี 2545 ขณะอายุ 19 ปี โดยจุดที่ทั้งสามหายไปอยู่บ้านถนนสายเดียวกัน และห่างจากบ้านหลังดังกล่าวราว 5 กิโลเมตร นอกจากนี้ตำรวจยังพบเด็กหญิงอายุ 6 ขวบ ซึ่งเชื่อว่าเป็นลูกสาวของน.ส. อแมนด้าที่คลอดขณะถูกกักขังด้วย โดยตำรวจสันนิษฐานว่าคนทั้งหมดถูกมัดไว้ในบ้าน
นายชาร์ลส์ แรมซีย์ เพื่อนบ้านที่ให้ความช่วยเหลือ กล่าวว่า ได้ยินเสียงกรีดร้อง และเห็น ผู้หญิงคนหนึ่งพยายามหาทางออกจากบ้าน ตนจึงบอกให้เปิดประตู แต่หญิงคนดังกล่าวคือ น.ส.อแมนด้าบอกว่าประตูล็อก ตนจึงช่วยพังประตู จากนั้นน.ส.อแมนด้าจึงปีนออกมาพร้อมลูกสาว และโทร.แจ้งตำรวจ โดยให้การว่าผู้ที่ลักพาตัวคือนายแอเรียล คาสโตร ซึ่งนาย แรมซีย์กล่าวว่าข้อมูลดังกล่าวทำให้ตนตกใจ เพราะเคยสังสรรค์กับนายคาสโตรและพี่น้อง แต่ไม่เคยเอะใจเลย ซึ่งนายคาสโตรทำงานเป็นคนขับรถโรงเรียน
คดีการหายตัวไปของน.ส.อแมนด้า และน.ส.จีน่าเป็นข่าวใหญ่ของเมืองครีฟแลนด์เมื่อ สิบปีก่อน ซึ่งไม่มีผู้ใดพบเบาะแสทำให้หลายฝ่ายเชื่อว่าเสียชีวิตแล้ว โดยนางซิลเวีย บราวน์คนทรงเจ้าชื่อดังของสหรัฐ เคยอ้างว่าสัมผัสได้ว่าทั้งสามอยู่สุขสบายในสวรรค์แล้ว
ด้านแพทย์ระบุว่า น.ส.อแมนด้าและลูกขาดน้ำและขาดสารอาหารอย่างรุนแรง ส่วนคนอื่นๆ อาการดีแต่ต้องพักอยู่โรงพยาบาลเพื่อตรวจสุขภาพเพิ่มเติม