ถาม : คือว่ากลัวผีค่ะ หนูกลัว หนูก็พยายามไม่คิด แต่มันยิ่งชัดๆ จนหนูเริ่มหวั่นไหวเลย จะทำอย่างไรดีคะ ?
ตอบ : ความจริงคนที่เห็นไม่ชัดเจนนั้น จำไว้ว่าต้องทำอย่างนั้น คือ อย่าพยายามให้ความสนใจกับภาพที่เราเห็น ถ้าเราให้ความสนใจภาพนั้นจะมัวไป หรือว่าถ้าเราตั้งใจใช้สายตาเพ่งจะไม่เห็นเลย เพราะว่าการที่เราไปอยู่ตรงนั้นเราถึงจะเห็นภาพนั้น เวลาเราใช้สายตาเพ่ง เราต้องนึกถึงตาของเรา ก็เท่ากับเราดึงจิตกลับ เมื่อดึงจิตกลับภาพจะหายไปเลย ถ้าให้ความสนใจมากบางทีภาพก็ไม่ชัดเจน
ดังนั้นว่าตัวอย่างของเขานั่น ถ้าหากว่าไม่ให้ความสนใจ คือไม่พยายามสนใจ ภาพจะชัดมากแล้วอยู่นานเป็นพิเศษ
ถาม : ใช่ค่ะ หนูกลัวหนู ไม่สนใจ แต่มันยิ่งชัดเจน
ตอบ : (หัวเราะ) จ้ะ...วิธีแก้ก็คือว่า พิจารณาให้เห็นว่า ไม่ว่าเราว่าเขา ในที่สุดก็เสื่อมสลายตายพังเหมือนกัน
จำไว้ว่าความกลัวทุกชนิดมีพื้นฐานมาจากการกลัวตายทั้งสิ้นเคยตามพิจารณาดูใจตัวเองเป็นปีๆ อยู่ในป่ากลัวเสือกัด เสือกัดแล้วเป็นอย่างไร ? ตายจ้ะ กลัวงูจะมารัด งูรัดแล้วเป็นอย่างไร ? ตายเหมือนกัน กลัวผีจะมาหลอก เดี๋ยวมันบีบคอเรา แล้วเป็นอย่างไร ? ตายเหมือนกัน
สรุปแล้วทั้งหมดไม่ว่าจะอ้อมโลกไปไกลขนาดไหนก็ตาม จะมาลงตรงว่าเรากลัวตายเหมือนกันทั้งหมด ต้องพิจารณาให้เห็นว่าความตายเป็นปกติธรรมดาของเรา เป็นปกติธรรมดาของสัตว์โลกทุกอย่าง สัตว์โลกเกิดเท่าไรตายหมดเท่านั้น พระพุทธเจ้าท่านยืนยันเอาไว้
ถ้าเราเห็นจริงว่า เราเกิดมาแล้วต้องตายเป็นปกติเป็นธรรมดา ถ้าเราทำความดีไว้ ตายเราก็ไปสบาย ความตายก็ไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัว ในเมื่อเราไม่กลัวแล้ว ต่อไปก็จะเห็นได้ชัดยิ่งกว่าเดิม
ถาม : เวลาหนูกลัว จิตใจหนูหวั่นไหวอยู่แล้ว แต่ก็นึกได้ว่าต้องอุทิศส่วนกุศลให้เขาค่ะ แต่ว่าจิตก็ไม่ได้มุ่งมั่นมากหรอกค่ะ ก็คือมีความรู้สึกว่าเขาก็ได้รับแต่ไม่เต็ม ๑๐๐เปอร์เซนต์ แล้วเขาก็จางไปค่ะ
ตอบ : คราวหน้าตั้งใจให้มั่นคงกว่านั้นหน่อย
ถาม :กลัวค่ะ
ตอบ : จ้ะ พยายามพิจารณาบ่อยๆ ภาวนาอย่างเดียวจะเอาตัวไม่รอด ต้องพิจารณาบ่อย ๆ เพราะทุกอย่างเกิดขึ้นในเบื้องต้น เปลี่ยนแปลงในท่ามกลาง สลายไปในที่สุด ไม่มีอะไรให้ยึดถือมั่นหมายได้
ตัวเขาเอง เขาตายไปแล้วก็จริง ถ้าหากว่าเขายังเวียนตายเวียนเกิดอยู่ เขาก็ต้องทุกข์อีก ตอนนี้ที่เราเกิดอยู่ เราก็ทุกข์เหมือนกัน โดยเฉพาะตัวเราเองเป็นมหาเศรษฐี เขามาเพื่อขอส่วนกุศลจากเรา คนที่เป็นเศรษฐีไม่ควรจะกลัวคนที่มาขอทาน ควรจะสงสารและเกื้อกูลเขามากกว่า คราวหน้าเปลี่ยนโลกทัศน์ใหม่ ผีน่าสงสารไม่น่ากลัวหรอก
ถาม : ทำไมภาพชัดขึ้นทุกทีๆ จนเหมือนว่าอยู่ต่อหน้าอย่างนี้ เวลาเห็นหน้าผีก็จะชะงักเลยเจ้าค่ะ ไม่อยากจะเห็นเขาเท่าไร เขาก็เสนอหน้ามาให้เห็น ทำอย่างไรดีเจ้าคะ ?
ตอบ : ถึงตอนนั้นก็รีบๆ ให้เขาให้ชิน ตั้งใจไว้แต่แรกเริ่มเลยว่า กุศลบารมีที่เรากระทำในครั้งนี้ โดยเฉพาะกุศลจากการเจริญภาวนาของเรา ไม่ว่าผู้ใดก็ตาม ที่ตั้งความปรารถนาอยากได้ผลบุญอันนี้ ขอให้เขาโมทนาได้ตลอดเวลา ไม่ต้องเสียเวลาให้เราไปบอกไปกล่าว เชิญโมทนาแล้วก็รีบๆ ไปอย่าอยู่ใกล้
สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนมิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๔๔
ข้อมูลจาก พลังจิตดอทคอม