เวลา 05.30 น.วันที่ 7 พ.ค. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า นายธรรมศทรรศ กี่สุ้น นายก อบต.ท่างิ้ว อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ อปพร.ของ อบต.ท่างิ้ว อ.ห้วยยอด กว่า 6 คน เข้าดักซุ่มเพื่อจับกุม นายเที่ยว ปากหวาน อายุ 36 ปี อยู่ม.6 ต.บ้านโป่ง อ.เมือง จ.เชียงราย ผู้ต้องหาข่มขืนกระทำชำเรา ด.ญ.วัย 11 ปี หลังสืบทราบว่า หลังก่อเหตุได้หลบหนีไปกบดานที่อื่น และย้อนกลับมามั่วสุมเสพยาบ้ากับวัยรุ่นที่บ้านเช่าไม่มีเลขที่ ม.8 ต.ท่างิ้ว อ.ห้วยยอด แต่เมื่อเห็นกำลังของเจ้าหน้าที่ นายเที่ยวพยายามจะหนี แต่สุดท้ายไม่รอดถูกจับกุมได้ทันควัน
ขณะเดียวกันได้นำ นางสอง (นามสมมติ) อายุ 49 ปี ผู้เป็นแม่ พร้อมด้วย ด.ญ.ไก่ (นามสมมติ) อายุ 11 ปี ผู้เสียหาย และนางสาม (นามสมมติ) อายุ 55 ปี ผู้เป็นป้า เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.วันชนะ กางกร พนักงานสอบสวน สภ.ห้วยยอด เพื่อสอบปากคำเป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน นางสอง ผู้เป็นแม่ เล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยลูกสาวตนได้ขออนุญาตไปดูละครที่บ้านป้า ซึ่งอยู่ห่างจากหน้าขนำตน ประมาณ 5 เมตร ส่วนตนนอนหลับพักผ่อนกับลูกชายวัย 5 ขวบภายในขนำเก่าๆ พอหลังละครจบ ลูกสาวตนก็เดินกลับมาที่ขนำตามปกติเหมือนเช่นทุกคืน เพื่อมานอนกับตน และน้องวัย 5 ขวบ บนเตียงเดียวกัน
ขณะกำลังหลับสบายด้วยความอ่อนเพลียจากการดูแลลูก และเหน็ดเหนื่อยจากหน้าที่การงาน อีกทั้งต้องตื่นแต่เช้าไปทำงาน ทำให้ตนหลับสนิท แต่ก็ต้องตกใจสะดุ้งตื่น เหมือนมีใครมาดึงกระชากผมอย่างแรง โดยเมื่อหันไปเห็นก็พบว่าคนร้ายขึ้นนั่งคร่อมบนร่างกำลังข่มขืนลูกสาวตน ซึ่งแสงไฟฟ้าจากโรงงานใกล้ขนำที่ส่องเข้ามา ทำให้เห็นหน้าคนร้ายได้ชัดเจนว่า เป็นนายเที่ยว ที่เคยชวนลูกสาวตนไปรับจ้างทำงานก่อสร้างด้วย จึงได้ตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ ทำให้ นายเที่ยว ตกใจวิ่งหนีออกไปทางประตูหน้า และเมื่อนายเที่ยวไปแล้ว ก็เห็นคราบอสุจิติดอยู่บนอวัยวะเพศลูกสาว จึงได้ให้ลูกสาวไปล้างทำความสะอาด
จากการสอบถามเหตุการณ์จากลูกสาวทำให้ทราบว่า ขณะที่ทุกคนกำลังนอนหลับอยู่บนเตียง นายเที่ยว ได้ปีนขึ้นมาบนเตียง และเดินย่องข้ามตน และลูกชายวัย 5 ขวบ ที่นอนตรงกลาง เพื่อไปหาลูกสาวที่นอนริมสุด จากนั้นได้เอามือปิดปากลูกสาว แล้วถอดกางเกงขึ้นคร่อมบนร่าง และลงมือข่มขืน ซึ่งจังหวะนั้นเองลูกสาวพยายามดิ้นรนขอความช่วยเหลือ โดยได้เอื้อมมือมากระชากผมเพื่อปลุกให้ตนตื่นขึ้นมา ส่วนสาเหตุที่ตนไม่ได้ไปแจ้งความทันทีหลังเกิดเหตุ เนื่องจากฐานะทางบ้านยากจน มีอาชีพรับจ้างเก็บเศษยางพารามีรายได้วันละ 100 บาท และไม่มียานพาหนะที่จะเดินทางไปแจ้งความ จึงต้องรอถึงวันรุ่งขึ้นดังกล่าว
ขณะที่นายเที่ยว ปากหวาน อายุ 36 ปี ผู้ต้องหา ให้การว่า เพิ่งมาเช่าบ้านหลังดังกล่าวอยู่กับภรรยา พร้อมลูกสาววัย 11 ขวบ และลูกชาย อีก 2 คน โดยยอมรับว่า รู้จักและสนิทสนมกันในช่วงที่ ด.ญ.ไก่ และพ่อเลี้ยง มาทำงานรับจ้างก่อสร้างด้วย โดยก่อนเกิดเหตุได้เข้าไปชวนป้าของ ด.ญ.ผู้เสียหายนั่งดื่มเหล้า พอหลังจากแยกย้ายกันกลับบ้าน ก็ย้อนกลับมาที่ขนำของ ด.ญ.อีกครั้ง เพื่อมาหาพ่อเลี้ยงของเด็ก เพื่อชวนไปทำงานก่อสร้าง แต่ไม่พบ จึงเข้าไปนั่งพูดคุยกับเด็กถามหาพ่อเลี้ยง นานประมาณ 10 นาที
โดยระหว่างนั้นเกิดมีอารมณ์ทางเพศ บวกกับฤทธิ์ของยาบ้าที่เสพเข้าไป และฤทธิ์สุรา จึงได้ลงมือถอดกางเกงของเด็กและของตนออก แต่ยังไม่ทันลงมือข่มขืน ก็หลั่งน้ำอสุจิออกมาเสียก่อน ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่แม่ของเด็กตกใจตื่นขึ้นมาเห็นพอดี ทั้งนี้หลังก่อเหตุได้วิ่งหนีออกทางประตูและหลบไปซ่อนตัว แล้วได้ย้อนกลับมามั่วสุมเสพยาบ้ากับวัยรุ่นในหมู่บ้าน และถูกจับกุมได้ดังกล่าว
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งตัว ด.ญ.วัย 11 ปี ไปตรวจหาร่องรอยการข่มขืนกระทำชำเราที่ ร.พ.ห้วยยอด ขณะเดียวกัน ได้นำตัว นายเที่ยว ส่งไปตรวจหาสารเสพติดในร่างกาย ผลปรากฏว่าเป็นสีม่วง และเตรียมนำ นายเที่ยว มาสอบปากคำในวันนี้ เนื่องจากยังให้การวกวนและมีพิรุธหลายอย่าง เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาเฉพาะเสพยาบ้าโดยผิดกฎหมาย ส่วนข้อหาข่มขืนกระทำชำเรานั้น ต้องรอผลตรวจยืนยันจากทาง ร.พ. และผลสอบปากคำเด็กก่อน หากพบมีความผิดจริงจะได้ดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป