ล่าอาสาวจอมโหดฆ่าหลาน สาวตายสยอง หลังจับได้ว่ามีความสัมพันธ์กับผัวตัวเอง โดยก่อนหน้านั้นมีคนพบศพสาววัยรุ่นถูกฆ่าทิ้งย่านบางปู พี่สาวรุดมาดูศพยืนยันเป็นน้องสาว เป็นลูกจ้างโกดังของอา มีความสัมพันธ์กับอาผู้ชายแล้วอาผู้หญิงจับได้ ก่อนเกิดเหตุอาผู้หญิงพาชายฉกรรจ์มาอุ้มจากที่พักทั้งสองพี่น้อง พาไปที่ดินร้าง ให้ชายฉกรรจน์ซ้อมน้องสาวจนน่วม ก่อนจับขึงกับพื้น อาผู้หญิงใช้ก้อนหินใหญ่ทุ่มใส่หน้าอย่างบ้าคลั่งหลายครั้งจนตาย ตร.ตามไปที่โกดังแต่หนีไปแล้ว ล่าสุดออกหมายจับอาสาวและผู้ร่วมก่อเหตุทั้งหมดแล้ว
เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 1 มี.ค. ร.ต.ท.สุทิน พุ่มพวง ร้อยเวร สภ.สำโรงเหนือ จ.สมุทรปรา การ รับแจ้งมีเหตุพบศพหญิงสาวถูกฆาตกรรม ในป่าหญ้าลานดินหลังหมู่บ้านบางปูนคร ซอย 10 หมู่ 9 ต.เทพารักษ์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ศิริชัย ครูประ เสริฐวัฒนา ผกก.สภ.สำโรงเหนือ พ.ต.ท.ธวัธชัย แจ่มนุราช รองผกก.สส. พ.ต.ท.เมธา เจียมไกร ศรี รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.ประเสริฐ บัวขาว สว.สส. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และมูลนิธิร่วมกตัญญู เดินทางไปที่เกิดเหตุ
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ เป็นลานดินกว้างเนื้อที่ประมาณ 50 ไร่ มีต้นหญ้าขึ้นปกคลุม ที่กลางลานดินพบศพหญิงสาวรูปร่างผอม สูงประมาณ 165 ซ.ม. ผิวขาว สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีขาว มีโบสีดำอยู่กลางหน้าอก นุ่งกางเกงรัดรูปขายาวสีดำ ไม่สวมรองเท้า ใบหน้ามีบาดแผลถูกทุบด้วยก้อนหินขนาดใหญ่จนเละ เหนือศีรษะพบก้อนหินเปื้อนเลือดขนาดใหญ่ 2 ก้อนวางอยู่ จึงเก็บเอาไว้เป็นหลักฐาน พร้อมประสานเจ้าหน้าที่วิทยาการ แพทย์ร.พ.สมุทรปราการ ร่วมตรวจสอบ ที่เกิดเหตุ โดยแพทย์สันนิษฐานว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมง ในตัวไม่พบหลักฐานใดๆ
จากการสอบสวน นายสอง ใจงาม อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1278 ต.เทพารักษ์ ใกล้กับที่เกิดเหตุ ให้การว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 28 ก.พ. มีชายหญิงคู่หนึ่งอายุประมาณ 30-40 ปี มาให้ตนช่วยตามหาญาติที่ชื่อ น.ส.จันทิมา พวงเล็ก อายุประมาณ 25-30 ปี ที่หายตัวออกจากบ้านมาตั้งแต่ช่วงบ่าย โดยติดต่อทางโทรศัพท์ครั้งสุดท้ายว่าอยู่แถวใต้ทางด่วนย่านถนนเทพารักษ์ เป็นลานดินกว้างที่มีหญ้าอยู่เยอะและมีก้อนหินอยู่หลายก้อน หลังจากนั้นสายก็หลุดไปติดต่อไม่ได้ ตนจึงพาญาติของผู้ตายช่วยกันออกตามหาโดยแยกกันไปคนละทางจนกระทั่งมืดก็ยังไม่พบ จึงตัดสินใจจะเดินกลับบ้าน จนกระทั่งวนมาถึงที่เกิดเหตุจึงพบศพหญิงสาวคนดังกล่าว นอนหงายจมกองเลือดเสียชีวิตอยู่ในที่เกิดเหตุ ไม่ทราบว่าเป็นคนเดียวกันกับที่ชายหญิงคู่ดังกล่าวให้ตน ช่วยตามหาหรือไม่ จึงรีบวิ่งกลับบ้านและแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าคนร้ายน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 2 คน ในที่เกิดเหตุไม่มีร่องรอยการต่อสู้ เชื่อว่าหญิงสาวคนดังกล่าวน่าจะนั่งรถมากับคนร้ายและถูกคนร้ายทำร้ายจนหมดสติ ก่อนจะช่วยกันอุ้มร่างผู้ตายลงมานอนกับพื้นดิน และใช้ก้อนหินขนาดใหญ่ช่วยกับทุบหัวจนตาย ก่อนที่จะขับรถหลบหนีไป
ต่อมาได้มี น.ส.ไพลิน หรือปู พวงเล็ก อายุ 26 ปี เข้าให้ปากคำพนักงานสอบสวนสภ.สำโรงเหนือ โดยให้การว่า ตนเป็นพี่สาวของผู้ตาย โดยผู้ตายคือน.ส.จันทิมา หรือลูกน้ำ พวงเล็ก อายุ 19 ปี ทำงานเป็นลูกจ้างอยู่ที่หจก.ยิ่งเจริญค้าของเก่า ย่านบางปู ซึ่งเป็นโกดังรับซื้อและค้าของเก่า มีเจ้าของเป็นสองสามีภรรยา คือ นายสุพจน์ พุฒิเกิด อายุ 44 ปี และนางไพรัตน์ พุฒิเกิด หรือนามสกุลเดิม พวงเล็ก อายุ 45 ปี อาสาวแท้ๆ ของพวกตน
น.ส.ไพลิน ให้การว่า พวกตนสองพี่น้องเข้าทำงานที่โกดังเมื่อราว 1 เดือนก่อน แต่ต่อมาน้องสาวของตนเกิดมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับนายสุพจน์ จนนางไพรัตน์ อาสาวของตนทราบเรื่อง จากนั้นน้อง สาวของตนก็ได้มีปัญหากับนางไพรัตน์ จนถึงขั้นถูกนางไพรัตน์ลงไม้ลงมือได้รับบาดเจ็บ เข้าแจ้งความไว้ที่สภ.บางปู ก่อนตัดสินใจย้ายออกจากบ้านพักในโกดังค้าของเก่าดังกล่าว ไปพักอยู่กับตนที่ห้องเช่าย่านงามวงศ์วาน แต่นายสุพจน์ก็ยังมาหาเป็นระยะๆ
น.ส.ไพลินให้การต่อไปว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงค่ำวันที่ 28 ก.พ. ที่ผ่านมา นางไพรัตน์ขับรถกระบะ 4 ประตู ยี่ห้อฟอร์ด สีบรอนซ์ ทะเบียน จำได้แต่ตัวเลข 9018 กทม. ไปหาน้องสาวที่ห้องเช่า บอกมีเรื่องสำคัญจะคุยด้วยให้นั่งรถออกไปด้วยกัน ตนเห็นท่าไม่ดีจึงขอนั่งรถไปเป็นเพื่อนน้องสาว ซึ่งน.ส.ไพรัตน์ก็ไม่ได้ต่อว่า แต่หลังจากขึ้นไปบนรถกลับพบชายฉกรรจ์ อายุราว 25-30 ปี 2 คน และหญิงสาวอายุราว 40 ปีอีกคน ทั้งหมดฉุดกระชากตนและน้องสาวนั่งประกบข้างที่เบาะหลัง พร้อมล็อกคอเอามืออุดปาก ส่วนนางไพรัตน์เร่งเครื่องรถออกมาห้องเช่าทันที ขับรถมุ่งหน้ามายังลานดินจุดเกิดเหตุ แม้ตนพยายามดิ้นรนยกมือไหว้อ้อนวอนขอให้ปล่อยพวกตนก็ไม่เป็นผล
น.ส.ไพลิน ให้การอีกว่า เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุชายฉกรรจ์ทั้ง 2 คน ได้ลากน้องสาวตนลงจากรถ ทั้งตบเตะทุบตี ส่วนตนถูกหญิงอีกคนคุมอยู่บนรถ หลังจากนั้นชายทั้งสองได้จับน้องสาวที่อยู่ในสภาพสะบักสะบอม นอนหงายกับพื้นในลักษณะขึงพืด ก่อนที่น.ส.ไพรัตน์จะยกก้อนหินขนาดใหญ่ ทุ่มใส่ใบหน้าน้องสาวเต็มแรงอย่างบ้าคลั่งราว 4-5 ครั้ง จนน้องแน่นิ่งไปเชื่อว่าเสียชีวิตไปแล้ว ก่อนทั้งหมดกลับมาที่รถแล้วข่มขู่ตนว่าห้ามนำเรื่องดังกล่าวไปบอกใคร แล้วขับรถพาไปทิ้งไว้ที่ปั๊มน้ำมันคาลเท็กซ์ สาขาเทพารักษ์ แล้วขับรถออกไป
พ.ต.อ.ศิริชัย กล่าวว่า คดีดังกล่าวมีสาเหตุมาจากปมหึงหวงเรื่องชู้สาว โดยผู้ตายมีปัญหากับนางไพรัตน์ ผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นอาแท้ๆ หลังมีสัมพันธ์กับสามีนางไพรัตน์มาก่อนหน้า จนถึงขั้นย้ายที่พักหลบหนี แต่นางไพรัตน์ไม่ยอมเลิกรา ตามราวีแล้วขับรถนำชายฉกรรจ์ไปอุ้มผู้ตายและพี่สาวมาจากย่านงามวงศ์วานพามาฆ่าทิ้งอย่างโหดเหี้ยม ที่จุดเกิดเหตุ พร้อมข่มขู่น.ส.ไพลิน พี่สาวผู้ตายพยานปากสำคัญซึ่งทราบเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นว่าไม่ให้บอกใคร
พ.ต.อ.ศิริชัย กล่าวว่า สำหรับนางไพรัตน์ เจ้า หน้าที่ไปติดตามตัวที่โกดังแต่ไม่พบ คาดว่าอาจจะไปกบดานต่างจังหวัด ช่วงเย็นวันนี้จะขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหากลุ่มนี้จากศาล ทั้งหมด 4 คน รวมทั้งนางไพรัตน์ด้วย และสั่งให้ชุดสืบ สวนเดินทางไปเฝ้าตามบ้านญาติและเพื่อนของนางไพรัตน์ทั้งหมดแล้ว คาดว่าจะได้ตัวเร็วๆ นี้