สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงดามัสกัส ประเทศซีเรีย เมื่อวันที่ 5 พ.ค.ว่า อิสราเอลเดินหน้าโจมตีทางอากาศครั้งที่ 2 ในรอบ 48 ชั่วโมงต่อซีเรีย โดยมีเป้าหมายล่าสุดคือฐานทัพแห่งหนึ่งชานกรุงดามัสกัส ขณะที่รัฐบาลซีเรียประณามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เสมือนเป็นการท้ารบ ด้านสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) วอนทุกฝ่ายหยุดกระทำการเพิ่มความตึงเครียดในภูมิภาคทันที
รายงานระบุว่า ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลพุ่งเป้าไปยังคลังเก็บสรรพาวุธ 3 แห่ง ภายในฐานทัพ จัมรายา ในเมืองซาบูรา ทางตะวันตกของกรุงดามัสกัส ซึ่งเชื่อว่า เป็นสถานที่พักอาวุธที่ได้รับมาจากอิหร่าน ก่อนส่งต่อให้กับกลุ่มนักรบหัวรุนแรง ฮิซบอลเลาะห์ ในเลบานอน อย่างไรก็ตาม ไม่มีการเปิดพบว่า มีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้หรือไม่
ทว่ารัฐบาลซีเรียส่งหนังสือร้องเรียนไปยังยูเอ็นทันที ปฏิเสธข้อกล่าวหาทุกอย่าง พร้อมกับประณามอิสราเอลว่า เป็นพวก “ก่อการร้าย” ที่นอกจากต้องการแย่งชิงที่ราบสูงโกลัน พื้นที่พิพาทยืดเยื้อกับดามัสกัสแล้ว ยังต้องการแย่งชิงเขตเวสต์แบงก์ และฉนวนกาซาจากปาเลสไตน์อีกด้วย นอกจากนี้ การโจมตีของอิสราเอลจะเป็นปัจจัยหนุนให้วิกฤตสงครามกลางเมืองในซีเรียลุกลามบานปลายยิ่งกว่านี้ ก่อนปิดท้ายว่า หากเหตุการณ์ยังคงลุกลามแบบนี้ต่อไป กองทัพซีเรียพร้อมจะตอบโต้อย่างถึงที่สุดเช่นกัน
ด้านนายมาร์ติน เนเซอร์กี โฆษกยูเอ็น แถลงเรียกร้องให้คู่กรณีทั้งสองฝ่ายอยู่ในความสงบ และพยายามหลีกเลี่ยงการกระทำใดก็ตาม ที่เสี่ยงเป็นการกระตุ้นให้สถานการณ์ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น
ขณะที่พลเอก อาห์มัด วาฮิดี รมว.กระทรวงกลาโหมอิหร่าน ร่วมออกโรงประณามอิสราเอลด้วย พร้อมกับกล่าวว่า ผู้บงการและ “ตัวอันตราย” ที่แท้จริง คือ สหรัฐอเมริกา ซึ่งอยู่เบื้องหลังคอยชักใยอิสราเอล