เมื่อวันก่อนได้ดูหนัง “ อับราฮัม ลินคอล์น ประธานาธิบดีผู้ล่าแวมไพร์ ” เกิดไปกระตุกต่อมอยากรู้ว่า อับราฮัม ลินคอล์น เด็กชายในครอบครัวทาส (ในสมัยนั้น) ก้าวไปสู่ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา คนที่ 16 ได้อย่างไร?เพราะการเรียกร้องสิทธิเสรีภาพในสมัยนั้น ยากมว้ากก! แทบไม่มีโอกาสที่จะ ล่มเลิกระบบ เจ้าขุนมูลนายได้เลย และไม่มีใครกล้าแสดงตัวว่า “ฉันนี้แหละที่จะนำเสรีภาพกลับคืนสู่ประชาชนที่เป็นสิทธิของทุกคนให้ได้” แต่ อับราฮัม ลินคอล์น เด็กบ้านนอก คนนี้ทำ! จนกลายเป็นจุดเปลี่ยนของ ประเทศสหรัฐอเมริกา และ ต้นแบบระบบเลิกทาสทั่วโลก ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
teen.mthai จะพาไปดู ปริศนาโลกตะลึง เรื่องประหลาดของ อับราฮัม ลินคอล์น ( Abraham Lincoln ) กันคะ (เนื้อเรื่องยาวสักหน่อย แต่สนุก น่าติดตามมากๆ)
เกริ่นนำและเรียบเรียง teen.mthai.com นะอ้าฟ
อ้างอิง thaichristians.net/ artsmen.net/ prairieghosts.com/ wowboom.blogspot.com / th.wikipedia.org / guru.google.co.th
Abraham Lincoln อับราฮัม ลินคอล์น เป็น ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา คนที่ 16 หนึ่งในสัญลักษณ์ ของประเทศนี้ ด้วยความวิริยอุสาหะ และด้วยนโยบายเลิกทาส ที่นำอเมริกาสู่สงครามกลางเมือง อันเนื่องจากความไม่พอใจของบุคคลผู้มีอำนาจในบางรัฐ แต่ในที่สุด อับราฮัม ลินคอล์น สามารถชนะสงครามนี้ได้ แต่ความไม่พอใจก็ยังคงอยู่ และนำมาซึ่งจุดจบในชีวิตของท่าน
ประวัติ อับราฮัม ลินคอล์น ประธานาธิบดีผู้ปลดปล่อยทาส เชื้อชาติ : อเมริกัน เกิดที่ รัฐเคนทักกี เมื่อ วันที่ 12 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1809 ฐานะทางครอบครัว ยากจน และ ลำบาก บุคคลิกลักษณะ อับราฮัม เป็นผู้ที่ความอดทน ไม่ย่อท้อต่อตวามลำบาก และงานหนัก การประกอบอาชีพก่อนที่จะเป็น ประธานธิบดี ท่านเป็นทั้งเด็กล้างจานในร้านอาหาร ต่อมาเข้ารับราชการเป็นทหารอาสาได้รับยศร้อยเอกในสงครามแบล็กฮอว์ก ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติใน ค.ศ. 1840 ในปี 1860 ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีคนที่16 ของสหรัฐอเมริกา ถูกลอบสังหารใน 1865 โดย วิลคส์ บูธ (John Wilkes Booth) โดยการลอบเข้าไปสังหารในขณะที่ท่านชมละครในโรงละครฟอร์ดคำสาปหมายเลข 0 คำสาป ประธานาธิบดีสหรัฐ
Curse of Tippecanoe หรือ อับราฮัม ลินคอล์น จะเป็น 1 ในประธานาธิบดีสหรัฐผู้ต้องสาป ที่รู้จักกันในชื่อ คำสาปวัฏจักรมรณกรรมของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ผู้ต้องสาป จะต้อง เป็นประธานาธิบดีสหรัฐที่ได้รับเลือกตั้ง ในปีที่ลงท้ายด้วยเลข 0 คำสาปนี้จะมีวัฏจักรทุก 21 ปี คำสาปนี้มาจากอินเดียแดงที่เครียดแค้น เหล่าคนขาวที่ย่ำยี พวกเขา มีประธานาธิบดีที่คาดว่าตายด้วยคำสาปนี้แล้ว 7 คนอับราฮัม ลินคอล์น เกิดในกระท่อมเล็กๆ ที่รัฐเคนตักกี เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1809 ชีวิตวัยเด็กลำบากมาก เพราะพ่อแม่ยากจน สิ่งที่ผลักดันนิสัยติดตัวคือ รักการอ่าน อ่านหนังสือได้ทุกที่และยอมเดินเป็นระยะทางไกลๆ เพื่อไปขอยืมหนังสืออ่านเพียงแค่เล่มเดียว พออายุ 9 ขวบ แม่เขาก็เสียชีวิต พ่อแต่งงานใหม่โชคดีที่ลินคอล์นเข้ากับแม่ใหม่ได้ดี
อายุ 19 อับราฮัม ลินคอล์น ล่องเรือแจวจากแม่น้ำโอไฮโอไปที่รัฐนิวออร์ลีน ที่นั่นเขาได้เห็นชีวิตความเป็นอยู่ของพวกทาสที่ถูกขายทอดตลาดเป็นครั้งแรก ทำให้เขาเกิดความคิดที่จะปลดปล่อยทาส เขาจึงเริ่มเบนเข็มมาเป็นทนายความ โดยเริ่มงานที่ สปริงฟิลด์ รัฐอิลลินอยส์ ว่ากันว่าเขามีบุคลิกเฉพาะตัวที่มักจะพกเอกสารติดตัวมากมายด้วยการซุกไว้ในหมวกทรงสูงสีดำ อับราฮัม ลินคอล์น ชอบพบปะช่วยเหลือผู้คน เริ่มมีชื่อเสียงจากความขยันขันแข็งและความซื่อสัตย์ ปี 1846ได้รับการคัดเลือกให้เข้าไปในสภาคองเกรสหนึ่งสมัย ต่อมาปี 1858 เขาลงสมัครเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภา แต่ไม่ได้รับเลือก ตอนนั้นพยายามชู นโยบายเรื่องการปลดปล่อยทาส และแม้ว่าไม่ได้รับเลือก อับราฮัม ลินคอล์น ก็ยังพยายามไปกล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับเรื่องทาสตามมลรัฐต่างๆ จนเป็นที่รู้จักทั่วอเมริกา ปี 1860 อับราฮัม ลินคอล์น ตัดสินใจลงแข่งขันชิงตำแหน่ง ประธานาธิบดี และได้รับเลือกในวันที่ 4 มีนาคม 1861 เส้นทางสายผู้นำไม่แจ่มใสนักเนื่องจากนโยบายปลดปล่อยทาสของ ลินคอล์น ไม่ได้รับการสนับสนุนจากบรรดารัฐต่างๆ ทางตอนใต้ของอเมริกา ซึ่งภายหลังระอุกลายเป็นสงครามกลางเมือง ในเดือนเมษายน ปี 1861 มีการสู้รบกันอย่างดุเดือดระหว่างทหารจากสังกัดส่วนกลางและทหารในรัฐทางใต้ แต่ถึงที่สุดฝ่ายของลินคอล์น ก็ได้รับชัยชนะและมีประกาศปลดปล่อยทาสในปี1863 14 เมษายน 1865 อับราฮัม ลินคอล์น ถูกลอบสังหารขณะชมละครที่โรงละครฟอร์ด และเสียชีวิตในเช้าวันถัดมา ศพของ ลินคอล์น ฝังอยู่ที่สปริงฟิลด์ รัฐอิลลินอยส์ ประธานาธิบดีคนที่ 16 ของสหรัฐ เป็นผู้นำที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดคนหนึ่งของโลก จนชื่อว่าเป็น บิดาแห่งระบอบประชาธิปไตยสมัยใหม่ เพราะมีบทบาทในการรักษาไว้ซึ่งสหภาพของอเมริกา และเป็นผู้ประกาศในสุนทรพจน์ที่ว่า “รัฐบาลประชาธิปไตย คือรัฐบาลของประชาชน เพื่อประชาชน และโดยประชาชน“ผู้แพ้ที่ยิ่งใหญ่ตลอดกาล
เชื่อหรือไม่ว่า ? อับราฮัม ลินคอล์น เป็นผู้แพ้มาทั้งชีวิต 40กว่าปี แพ้ตลอด แต่มาชนะเอาเมื่อ 7 ปีสุดท้ายของชีวิตนี้เอง
อับราฮัม ลินคอล์น เกิดมาก็แพ้แล้ว ด้วยชีวิตที่ยากจนค้นแค้นสุดๆ เรียกว่าอยู่บ้านนอก พื้นบ้านเป็นดินชื้น บ้านไม่มีหน้าต่างหรือช่องลม แม่ตายตั้งแต่ยังเด็ก พ่อก็เหมือนคนสำมะเหร่เทเมา โชคดีหน่อยที่ได้แม่เลี้ยงที่ดี ลินคอล์น ถูกเพื่อนบ้านด่าว่าเป็นคนไม่เอาถ่าน เพราะพี่แกไปทำไร่ ก็ไม่กระจิตกระใจที่จะทำ นั่งฝันกลางวันอยู่ตลอดเวลา เรื่องการเรียน ก็ไม่ได้เข้าโรงเรียนแบบคนปกติหรอก ทั้งชีวิตก็เรียนด้วยตนเองเสียมากกว่า
ยังไม่พอ พระเจ้ายังมอบความพ่ายแพ้ในความรักให้แก่ลิน คอล์นด้วย รักแรกของ ลินคอล์น กับสาวน้อยที่น่ารัก จบลงด้วยการจากลาอย่างไม่วันกลับ เธอตายไปในอ้อมกอดของลินคอล์น ตายของเธอ ถึงกับทำให้ลินคอล์นอยากฆ่าตัวตายตาม จนเพื่อนๆต้องคอยเป็นห่วง ดูแลไม่ให้เขาคิดสั้น
อับราฮัม ลินคอล์น เห็นว่า ไอ้การเป็นชาวไร่นี้ถ้าจะไม่มีอนาคต พร้อมกับได้แรงดลใจจากการอ่านหนังสือคำบรรยายกฎหมาย เขาจึงจะตัดสินใจเรียนกฎหมาย แต่ไม่ใช่ว่าจะไปเข้ามหาวิทยาลัยดีๆ แบบนี้ลินคอล์นไม่มีปัญญา ก็อาศัยหยิบยืมหนังสือมาอ่านแล้วไปสอบเป็นทนายความ จะเรียกว่า ลินคอล์น เป็นลูกอีช่างยืมก็ไม่ผิด…
ยังไม่พอ ลินคอล์น นอกจากเป็นทนายความ เงินทองไม่ค่อยจะพอ ก็ร่วมทุนกับเพื่อนทำร้านโชวห่วย ขอโทษ เปิดได้ไม่นาน เจ๊งไปตามระเบียบ
ชีวิตอะไรมันจะรันทดขนาดนี้
ก็ยังดีที่ ลินคอล์น เป็นคนที่มีคารมคมคาย แต่ไม่ใช่เรื่องพรสรรค์ แต่เป็นการทำงานหนักของเขาที่จะต้องศึกษาหาความรู้เพื่อจะนำมาร่างเป็นสุนทรพจน์ และด้วยแรงยุของเมียที่มีความทะเยอทะยานสุดๆ ผลัดดันให้คนเฉื่อยแฉะอย่างลินคอล์น ก้าวสู่วงการการเมือง ยังคะ อับราฮัม ลินคอล์น ยังแพ้ไม่พอ ลงสมัครเป็น ส.ส. ของรัฐก็แพ้ แพ้หลายครั้ง จนไม่อยากจะจำ แต่ด้วยความที่เป็นนักต่อสู้ แพ้มาหลายครั้งในชีวิต จะแพ้อีกสักหน่อยจะเป็นไร ก็สู้สมัครเป็น ส.ส. รัฐ มาเรื่อย จนได้เป็นสมความหวัง จาก ส.ส. ลินคอล์น ก็นึกสนุกอยากจะเป็น ส.ว. บ้าง ลินคอล์น นี้ สังกัด รีพับลิกัน ต้องเจอกับคู่ต่อสู้ที่อดีตเคยเป็นคู่แข่งในชีวิตรัก แย่งแมรี่ ทอดด์ ซึ่ง คนโชคร้ายคือ ลินคอล์นที่ได้ น้องแมรี่เป็นเมีย เอ้อ ชื่อของคู่แข่งคือ สตีเฟน ดักลัส ดักลัสนี้เรียนสูง ร่ำรวย เรียกว่าเทียบลินคอล์นนี้คนละเรื่องเลย ปรากฏว่า ลินคอล์นพยายามต่อสู้อย่างดุเดือด สุดท้าย พี่ลินคอล์น แพ้อีกแล้วแพ้ซ้ำซาก อย่างนี้ เป็นคนอื่น กระโดดน้ำตายไปแล้ว
แต่คนมันจะรุ่ง ช่วยไม่ได้ มาตอนที่พรรครีพับริกันจะเลือกผู้สมัครท้าชิงประธานาธิบดี ที่จริง พรรคเขาจะเลือก วุฒสมาชิก ชิวเวิร์ด อยู่แล้ว แต่มีปัญหาทางเทคนิคนิดหน่อย เลยเลื่อนเวลาอีก 12 ชั่วโมง เพื่อลงคะแนนเสียง
ตอนนั้น กรีลีย์ มีแค้นเก่ากับชิวเวิร์ด ก็ออกล็อบบี้ สร้างภาพน่ากลัวว่าเลือกชิวเวิร์ดละก็แย่แน่ๆ สู้หันมาเทคะแนนเลือก ลินคอล์น ซึ่งเคยเป็นคู่แข่งของ ดักลัส ซึ่งจะเป็นตัวแทนของเดโมแครตดีกว่า
แล้วที่สุด อับราฮัม ลินคอล์น ก็ได้รับเลือก แบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว
คนมันจะดวงดี เอาช้างมาฉุดก็ไม่อยู่ ตอนนั้น เดโมแครต ทะเลาะกัน แทนที่จะส่งแต่ดักลัสคนเดียว ก็มีพวกที่แยกออกมาลงอีก 2 คน เรียกว่าคะแนนเสียงแตก ฟ้าบันดาลให้ ลินคอล์น เป็น ประธานาธิบดี สหรัฐอเมริกา
ยังคะยังไม่หมดเพราะความซวยกำลังมาเยือนอีกครั้ง
ตอนนั้น เป็นช่วงกลียุคของ สหรัฐอเมริกา เกิดสงครามกลางเมือง ฝ่ายเหนือให้เลิกทาส ฝ่ายใต้ไม่ยอม ตอนแรกๆ ฝ่ายใต้นี้ก็ชนะมาเรื่อย ด้วยฝีมือของ นายพลดังอย่าง นายพลลี ไม่วาย เป็น ประธานาธิบดี ก็ยังต้องแพ้สงครามมาเรื่อยๆ จนเกือบประกาศยอมแพ้อยู่แล้ว แต่ สุดท้าย ไปได้ นายพลฝีมือดี อย่างนายพล แกรนต์ มาเป็นนายทัพ คราวนี้ก็เริ่มดีขึ้นรุกไล่ฝ่ายใต้ จนชนะสงคราม และแล้วผู้แพ้อย่าง ลินคอล์น ก็ถูกจารึกชื่อ เป็นประธานาธิบดีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลก่อนที่จบชีวิตลงในเวลาต่อมา
อัมบราฮัม ลินคอล์น ชีวิตรักขมและเป็นโรคกลัวเมีย
อันนี้เรื่องจริงคะว่ากันว่า อับราฮัม ลินคอล์น เป็นโรคกลัวภรรยา แมรี่มาก ถึงขนาดว่ากันว่า อัมบราฮัม ลินคอล์น และแมรี่ ทอดด์ ตอนสมรสกันใหม่ๆ ที่เมืองสปริงฟีลด์ รัฐอินลินอยส์ พยานหลายคนประจักษ์ว่าเป็นคู่สมรสที่ดูโชคร้ายที่สุด และไร้ ความสุขที่สุดในประวัติศาสตร์ของอเมริกา
เฮอร์นดัน เพื่อนรักของ ลินคอล์น กล่าวว่า
“ถ้าลินคอล์นมีความสุขสักครั้ง ใน 20 ปีที่ผ่านมา เป็นสิ่งที่นอกเหนือความรู้ของข้าพเจ้า”
หลังจากการแต่งงานกับแมรี่ ทอดด์ไม่นาน อับราฮัม ลินคอล์น เริ่มสำนึกว่า เขากับหล่อนอยู่ในฐานะที่ตรงข้ามกันทุกๆด้าน และต่างจะไม่ได้รับความสุข เป็นอันขาด คนทั้งสองอยู่ในลักษณะขัดแย้งในด้านนิสัยใจคอ รสนิยม การอบรม และความปราถนา
แมรี่ ทอดด์ สำเร็จการศึกษามาจากโรงเรียนผู้ดีในรัฐเคนตักกี้ หล่อนสามารถพูดฝรั่งเศสสำเนียงคนปารีส และเป็นหญิงที่ได้รับการศึกษา มากที่สุดของรัฐอินลินอยส์ ส่วนลินคอล์นเคยเข้าเรียนโรงเรียนทั้งชีวิต ไม่ถึง 12 เดือน ในเรื่องวงศาคณาญาติของแมรี่ ทอดด์ก็มาจากตระกูลของนายพลและ ข้าหลวง แต่ลินคอล์นมีญาติเพียงคนเดียว และถูกหาว่าเป็นขโมย แมรี่ ทอดด์ สนใจในเรื่องเครื่องแต่งกาย การอวดรูปโฉม และการทำโก้ แต่ ลินคอล์น ไม่เอาใจใส่ สารรูปของเขาในประการทั้งปวง ใช่แต่เท่านั้น บางครั้งเขาเดินไปตามถนนทั้งๆที่ขากางเกงข้างหนึ่งอยู่นอกเกือกบูต และขาอีกข้างหนึ่งอยู่ข้างเกือกบูต หล่อนหยิ่งและถือตัว และขี้หึงอย่างร้ายกาจ และจะต้องเกิดเรื่องเป็นเป้า สายตาขึ้น ถ้าเขาเพียงแต่มองหญิงอื่น ความหึงของหล่อนเป็นไปอย่าง รุนแรง ปราศจากเหตุผล และน่าขนลุกขนพองความเศร้าเสียใจในเรื่องของการสมรสของ อับราฮัม ลินคอล์น สามารถอ่านจาก จดหมายฉบับนี้
“ในเวลานี้ฉันเป็นคนที่มีความทุกข์ยิ่งกว่ามนุษย์คนใดในภิภพ ถ้าหากว่า ความรู้สึกของฉันถูกมอบแก่มนุษย์ทุกๆคน ในโลกนี้จะไม่มีมนุษย์ที่มี หน้าตายิ้มแย้มเลยแม้แต่คนเดียว อาการของฉันมีหวังดีขึ้นบ้างหรือไม่ เป็นสิ่งซึ่งฉันไม่สามารถบอกได้ ฉันรู้สึกสังหรณ์ใจว่าจะไม่มีวันดีขึ้นเป็น อันขาด ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่ฉันจะอยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ ฉันรู้สึกเหมือนกับว่า ถ้าอาการของฉันไม่ไดีขึ้นฉันคงจะต้องตาย”
มีอยู่คราวหนึ่งที่ นางลินคอล์นไม่พอใจ อับราฮัม ลินคอล์น มากๆ ถึงกับเอากาแฟใน ถ้วย สาดหน้าลินคอล์นขณะที่อยู่ต่อหน้าแขกและธารกำนัล และไม่ใช่เพียง ครั้ง หรือสองครั้ง แต่เกิดขึ้นบ่อยๆทีเดียว
แต่สิ่งที่น่ายกย่อง อับราฮัม ลินคอล์น คือ เขาสามารถอดทนต่อชีวิตที่ไร้ความสุขภาย ในบ้านเป็นเวลาถึงยี่สิบสามปีโดยไม่ได้แสดงออกถึงอาการขมขื่นปวดร้าว มิได้แสดงความขุ่นเคืองและมิได้ปริปากพูดเรื่องนี้แก่ใครเลยแม้แต่คำเดียว จนเกือบไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาแล้ว
อาถรรพ์ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ลินคอล์น เคนเนดี้
เกือบ 100ปี หลัง ประธานาธิบดีลินคอล์น ถูกลอบสังหาร ประธานาธิบดี จอห์น เอฟ เคนเนดี้ ก็ถูกลอบสังหารเช่นกัน มีหลายคนสังเกตเห็นความความอันน่าทึ่งระหว่างสองเหตุการณ์ณ์ลอบสังหารในครั้งนี้
เกี่ยวกับนโยบายของบุคคลทั้งสอง ย้อนไปในปี ค.ศ. 1847 อับราฮัม ลินคอล์น ได้รับเลือกจากประชาชนรัฐอิลลินอยส์ เข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร ( สภาครองเกรส ) เป็นครั้งแรก….. ถัดมาอีก 100 ปี ในปี ค.ศ. 1947 จอห์น เอฟ เคนเนดี้ ก็ได้รับเลือกจากรัฐแมสซาชูเตส์เข้าสู่สภาครองเกสเช่นกัน ปี ค.ศ. 1856 ลินคอล์นถูกเสนอชื่อจากพรรคริพับลิกันเข้าชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีอย่างไม่มีใครคาดคิดมาก่อน แต่เขาล้มเหลวไม่ได้รับเลือกตั้ง 4 ปีต่อมา ลินคอล์น ถูกเสนอชื่ออีกครั้งให้เข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในฐานะเต็งหนึ่ง ปีค.ศ. 1956 หรือ อีก 100 ปีต่อมา……เคนเนดี้ ได้รับการคัดเลือกจาก พรรคเดโมแครต ให้เข้าชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีแต่ไม่ประสบความสำเร็จ 4 ปีต่อมา เขากลับมาอีกครั้งในฐานะเต็งหนึ่งในการลงชิงชัยตำแหน่ง ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา ปี ค.ศ. 1860 ลินคอล์นเป็นฝ่ายชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกา จากผล Electoral College ……100 ปีต่อมา เคนเนดี้ก็เป็นฝ่ายชนะการเลือกตั้ง จากผล Electoral College เช่นกัน เป็นเรื่องน่าพิศวงอีกว่าลินคอล์นใช้เวลา 13ปีนับจากวันที่เดินเข้าสู่สภาครองเกส ในปี ค.ศ.1847 แล้วก้าวขึ้นรับตำแหน่งประธานาธิบดีในปี ค.ศ.1860ส่วนทางด้านเคนเนดี้เองนั้นได้รับเลือกเข้าสภาครองเกสในปี ค.ศ.1947 หรือและดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี ค.ศ. 1960 หรืออีก 13 ปีต่อมานั่นเองแถมยังมีระยะเวลาห่างจากลินคอล์น 100 ปีพอดีเสียอีก คำว่า Lincoln และ Kennedy ต่างมีตัวอักษรทั้งหมด 7 ตัวเท่ากัน และทั้งคู่เป็นประธานาธิบดีที่ให้ความสนใจกับสิทธิของประชาชนเป็นหลัก ลินคอล์น มีลูก 2 คน ชื่อ Edward และ Robert ส่วนเคนนาดี้ มีน้อง 2 คน ชื่อ Edward และ Robert ………….ต่อมาลินคอล์นต้องพบกับความสูญเสียเมื่อ ลูกชื่อ Edward ป่วยและเสียชีวิตและเคนนาดี้ ต้องพบกับความสูญเสียเมื่อ น้องชื่อ Robert ถูกยิงเสียชีวิต ทั้ง ลินคอล์นและเคนเนดี้ ในขณะลงชิงชัยตำแหน่งประธานาธิบดีนั้นก็ต่างส่งผู้ร่วมทีมลงสมัครตำแหน่งประธานาธิบดีนั้นต่างก็ส่งผู้ร่วมทีมลงสมัครตำแหน่งรองประธานาธิบดีที่มีนามสกุลเหมือนกัน คือ จอห์นสัน ฝ่ายลินคอล์น นั้นมีชื่อว่า แอนดรู จอห์นสัน เกิดเมื่อปี ค.ศ. 1808 ส่วน เคนเนดี้ นั้น มีชื่อว่า ลินดอน จอห์นสัน เกิดปี ค.ศ. 1908 โดยที่ชื่อของรองประธานาธิบดีทั้งสองมีความยาว 13 ตัวอักษรเท่ากันละอายุต่างกัน 100 ปีพอดีเหมือนกัน ในฤดูร้อนปี ค.ศ. 1865ประธานาธิบดีลินคอล์นเดินทางไปชมละครกับภรรยาแล้วถูกลอบสังหารจากชาวใต้หัวรุนแรง นามว่า จอห์น บูธ ผู้ซึ่งโกรธแค้นประธานาธิบดีลินคอล์นตั้งแต่สมัยสงครามการเมืองสหรัฐอเมริกา จอห์น บูธ ถูกตำรวจไล่ล่าและถูกสังหารในโรงเก็บของโดยมีเงื่อนปมว่าการสังหารบูธในครั้งนี้อาจเป็นการฆ่าตัดตอน เพื่อไม่ให้สืบสาวถึงผู้บงการตัวจริง…….ปี ค.ศ. 1963 เคนเนดี้เดินทางไปปราศรัยหาเสียงที่เมืองตัลลัส รัฐเท็กซัส ด้วยการนั่งรถเปิดประทุนไปกับภรรยา และถูกลอบสังหารจากลี ฮาร์วีย์ ออสวัลด์ ผู้ซุ่มอยู่ที่โรงเก็บของบนหลังคาตึกการตายของมหาบุรุษทั้งสองเป็นปริศนาดำมืดที่ยังไม่คลายปมมาจนถึงทุกวันนี้ John Wilkes Booth และ Lee Harvey Oswaldมือสังหารที่สังหารประธานาธิบดีทั้งสองเป็นชาวใต้เหมือนกัน John Wilkes Booth ซึ่งเป็นมือปืนที่สังหาร Lincoln เกิดในปี 1839 ส่วน Lee Harvey Oswald ซึ่งเป็นมือปืนที่สังหาร Kennedy เกิดในปี 1939ทั้งสองเกิดห่างกัน 100 ปี และชื่อมือปืนทั้งคู่มีความยาว 15 ตัวอักษรเท่ากัน ขณะที่ ลินคอล์น จะออกไปดูละครนั้น เลขานุการส่วนตัวได้ทักท้วงมิให้เขาออกไปโดยเลขานุการคนนี้ชื่อ เคนเนดี้ ส่วนเคนเนดี้นั้น เลขานุการเขาก็ได้เอ่ยเตือนล่วงหน้าไว้เช่นกัน และ เลขานุการคนนี้มีชื่อว่า ลินคอล์น มหาบุรุษทั้งสองถูกยิงฟุบจบชีวิตลงในอ้อมอกของภรรยาเหมือนกันลางสังหรณ์ ฝันมรณะ
ก่อนหน้าที่ท่าน อับบราฮัม ลินคอร์น จะถูกลอบสังหาร ได้ฝันว่า ท่านเดินเข้าไปในงานพิธียิ่งใหญ่งานหนึ่ง มีผู้คนมากมายมาร่วมงาน พอเดินเข้าไปใกล้อีกนิด ถึงได้สังเกตว่าเป็นงานศพ ในฝันแจ่มชัดจนท่านได้ยินเสียงสะอึกสะอื้นของผู้คนดังระงมทั่วบริเวณงาน ท่านรู้สึกแปลกใจจึงถามผู้ที่มาร่วมงานว่า เป็นงานศพของใคร ใครเสียชีวิตหรือ หนึ่งในผู้มาร่วมงานตอบว่า… ท่าน ประธานาธิบดีลินคอร์น ถูกลอบสังหารเสียชีวิต ปรากฏว่า ฝันเป็นจริงในเวลาไม่ถึงเดือน ท่านประธานาธิบดีก็ถูกลอบสังหาร
ผี อับบราฮัม ลินคอร์น
ว่ากันว่า ลินคอล์นเคยเป็นคนทรงซึ่งติดต่อกับวิญญาณคนตายได้ วิญญาณนั้นเองที่บอกให้เขาให้ปลดปล่อยทาสในภาคใต้ เขาปฏิบัติตามคำแนะนำนั้นจนเป็นจุดเริ่มต้นสงครามกลางเมือง และเมื่อเขาตายลงวิญญาณเขายังไม่ไปสู่สุขคติเพราะใจเขายังยึดติดอยู่ วิญญาณเลยวนเวียนอยู่บนโลกนี้
แมรี่ ลินคอล์น เคยไปพบช่างถ่ายภาพรูปวิญญาณชื่อมัมเลอร์ เธอขอให้เขาถ่ายรูปเธอกลับรูปวิญญาณของสามีที่ตายไปแล้ว เมื่อถ่ายภาพของเธอปรากฏว่ามีภาพผีอับราฮัมยืนอยู่ข้างหลังของเธอ แต่ทว่าภายหลังมัมเลอร์ถูกกล่าวหาว่าเป็นหลวกหลวงต้มตุ๋น และภาพบางภาพปรากฏว่าเป็นของปลอม และภายหลังต่อมา นางลินคอล์นกลับเป็นคนวิกลจริตอย่างรุนแรง เพราะความสูญเสียสามี(พึ่งรู้สำนึกเรอะ)
นอกจากนี้ยังมีการรายงานการปรากฏตัวของวิญญาณ อับราฮัม ลินคอล์น ในทำเนียบขาวเป็นระยะ เช่น
สมเด็จพระราชินีเฮล์มมิน่าแห่งเนเธอร์แลนด์เคยประทับทำเนียบขาว เคยได้ยินเสียเคาะประตูห้องบรรทม เมื่อเปิดดูเธอถึงกลับล้มทั้งยืนเมื่อทอดพระเนตรเห็นร่างประธานาธิบดีลินคอล์นยืนอยู่ที่นั้น ประธานาธิบดีรูลเวลท์แม้ไม่เคยพบวิญญาณของประธานธิบดี แต่ท่านเล่าว่าในขณะที่เขาอยู่ลำพังเพียงคนเดียวในห้องสีฟ้า ท่านมักรู้สึกว่ามีวิญญาณของลินคอล์นวนเวียนอยู่ที่นั้น สาวใช้เคยเล่าให้ภรรยาประธานาธิบดีรูสเวลท์ฟังว่าเคยเห็นวิญญาณลินคอล์นให้ห้องของเขาโดยเห็นท่านนั่งขอบเตียงกำลังถอดรองเท้าบูธออก ประธานาธิบดีแฮรี่ เอช ทรูแมนเล่าหลายครั้งว่าท่านมักตกใจตื่นเพราะเสียงเคาะประตูห้องนอนในทำเนียบขาว แต่ทรูแมนไม่เคยเห็นกับตาเหมือนสมเด็จพระราชินีเฮล์มมิน่าเท่านั้นเอง ภาพ อัลบราฮัม ลินคอล์น
นาทีสังหาร อัลบราฮัม ลินคอล์น
ตอนแรก อัลบราฮัม ลินคอล์น (Abraham Lincoln) ไม่ได้ไว้หนวดเคราแต่มีเด็กน้อยคนหนึ่ง ได้เขียนจดหมายมาถึงท่านว่า “ หากท่านไว้หนวดเครา ท่านจะดูดีมากเลยคะ “ จึงทำให้ อัลบราฮัม ลินคอล์น ไว้หนวดเครา อย่างที่เราเห็นคุ้นตาดังรูปแรกรูป
รูปวาดนาทีสังหาร อัลบราฮัม ลินคอล์น ผู้ลั่นไกคือ จอห์น วิลคส์ บูธ (John Wilkes Booth) ณ ในโรงภาพยนต์ ฟอร์ด (Ford’s Theatre)
จอห์น วิลคส์ บูธ (John Wilkes Booth) ผู้ลั่นไกสังหาร อัลบราฮัม ลินคอล์น
ปืนที่ใช้สังหาร อัลบราฮัม ลินคอล์น เป็นปืนที่สร้างโดย เฮนรี ดาร์ริงเจอร์ ขนาดลำกล้อง 0.44″ ลำกล้องยาว 6″ น้ำหนัก 8 ออนส์ อาวุธนี้ถูกพบอยู่บนพื้น State Box ในโรงละคร ฟอร์ด (Ford’s Theatre)
รูปโรงละคร ฟอร์ด (Ford’s Theatre) รูปแรกถ่าย ณ ค.ศ. 1870
รูป ที่นั่ง สำหรับประธานธิบดีในโรงละคร ฟอร์ด (Ford’s Theatre) รูปแรกถ่ายเมื่อ ปี ค.ศ .1865 ภายหลังการลอบสังหารคดีลอบสังหารเล็กน้อย และรูปถ่ายปัจจุบันที่นั่งนี้ได้เปลี่ยนชื่อเป็น Lincoln Box
รูปรถลากที่ อัลบราฮัม ลินคอล์น ใช้โดยสารในคืนสุดท้ายมายัง โรงละครฟอร์ด ก่อนถูกลอบสังหาร
รูปสิ่งของ เครื่องใช้ในกระเป๋าของ อัลบราฮัม ลินคอล์นในคืนวันถูกลอบสังหาร
รูปเก้าอี้ตัวที่ ลินคอล์น นั่งตอนถูกลอบยิง
รูป เศษก