เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก epochtimes.com
2 เด็กจีนตัดสินใจปลิดชีพตัวเอง หลังทำการบ้านช่วงวันหยุดยาว 3 วันไม่เสร็จ ชาวเน็ตวิจารณ์ยับ! ระบบการศึกษาจีน ทำให้เด็กเครียดเกินไป
เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุน่าสลดขึ้นในวงการศึกษาของจีน เมื่อพบเด็กนักเรียน 2 คน ในเมืองนานกิง มณฑลเจียงซู ฆ่าตัวตายในเวลาไล่เลี่ยกัน ด้วยสาเหตุเดียวกันคือ ทำการบ้านไม่เสร็จ
เหตุการณ์แรกเกิดขึ้นเมื่อเวลา 6 โมงเช้าของวันพฤหัสบดีที่ 2 พฤษภาคม เมื่อมีผู้พบเด็กนักเรียนชายชั้น ป.6 ของโรงเรียนประถมศึกษาแห่งหนึ่งในเขตหลีสุ่ย วัย 13 ปี ผูกคอตายภายในบ้าน
โดยด็กชายคนดังกล่าวแซ่เซี๊ยะ ได้ลุกขึ้นมาทำการบ้านและรายงานที่ครูมอบมอบหมายให้สำหรับวันหยุดราชการต่อเนื่อง 3 วัน ตั้งแต่ตี 4 แต่ทำไม่เสร็จ จึงตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง แต่ก่อนเขาจะผูกคอตายนั้น เขาได้เขียนจดหมายบอกรัก และอำลาพ่อแม่ พร้อมด้วยลงท้ายว่าให้นำดอกลิลลี่สีขาวไปวางบนหลุมศพของเขาด้วย
ขณะที่เหตุการณ์ที่ 2 เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. ของวันเดียวกัน เมื่อมีผู้พบเด็กชายวัย 15 ปี นักศึกษาชั้น ม.3 ของไฮสคูลแห่งหนึ่ง กระโดดลงมาจากตึกในเมืองนานกิงเนื่องจากทำการบ้านที่ครูมอบหมายให้ในช่วงหยุดยาววันแรงงานไม่เสร็จ ซึ่งก่อนหน้านี้ พ่อแม่ได้บอกกับลูกชายว่าให้อยู่ทำการบ้านที่บ้านจนเสร็จ หากไม่เสร็จก็ไม่ต้องไปโรงเรียน
ทั้งนี้ จากสองเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้ชาวเน็ตจีนวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนักว่า ระบบการศึกษาปัจจุบันกำลังทำให้เด็กเครียดเกินไปหรือไม่ เพราะการที่จีนพยายามยกมาตรการระบบการศึกษาแบบก้าวกระโดด ทำให้เด็กต้องเข้าสู่สนามสอบถี่ขึ้น และต้องทำการบ้านมากขึ้นในทุก ๆ วัน