紀宮 清子内親王
ซะยะโกะ คุโระดะ หรือพระนามเดิม เจ้าหญิงซะยะโกะ, เจ้าหญิงโนะริ เป็นพระราชธิดาเพียงพระองค์เดียวในสมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะ และสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะ เจ้าหญิงซะยะโกะทรงเสกสมรสกับ คุโรดะ โยชิกิ ในวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2548 ทำให้พระองค์ต้องสละยศเจ้าหญิง และหลุดพ้นความเป็นราชวงศ์ไปตามกฎมนเทียรบาลของญี่ปุ่น
พระประวัติ
เจ้าหญิงโนะริ เป็นพระราชธิดาพระองค์เดียวใน สมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะ และสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะ ประสูติเมื่อวันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2512 ทรงมีพระเชษฐา และพระอนุชาร่วมสายโลหิต 2 พระองค์ คือ เจ้าฟ้าชายนะรุฮิโตะ มกุฎราชกุมารแห่งญี่ปุ่น และเจ้าชายอะกิชิโนะ เจ้าหญิงโนะริได้รู้จักกับนายคุโรดะ โยชิกิ ตั้งแต่เมื่อครั้งยังเรียนที่มหาวิทยาลัยกะคุชูอิน โดยนายโยชิกิเป็นพระสหายร่วมชั้นของเจ้าชายอะกิชิโนะ ซึ่งเป็นพระเชษฐาของเจ้าหญิงเอง เจ้าหญิงโนะริกับนายคุโรดะ โยชิกิ มีความสนใจในเรื่องสัตว์ป่า และการดูนกเหมือนกัน ในสมัยเรียน ทั้งสองเข้าร่วมอยู่ในชมรมธรรมชาติและวัฒนธรรมเหมือนกัน โดยเจ้าชายอะกิชิโนะ (พระเชษฐา) เป็นประธานชมรม ส่วนนายโยชิกิเป็นสมาชิกร่วมชมรม ด้วยเหตุนี้ทั้งสองจึงรู้กันในฐานะรุ่นพี่รุ่นน้องร่วมมหาวิทยาลัยมาโดยตลอด
ภายหลังที่ห่างเหินกันไปหลังเรียนจบ ทั้งสองก็กลับมารื้อฟื้นความรักกันใหม่ โดยผ่านทางเจ้าชายอะกิชิโนะ ที่งานเลี้ยงอาหารค่ำแด่พระสหายเก่า ที่พระตำหนักอะซะกะของพระองค์ จนถือว่านายโยชิกิเป็นบุคคลใกล้ชิดคุ้นเคยกับราชนิกุลในราชวงศ์นี้เป็นอย่างดี สมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะ และสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะทรงเห็นชอบที่จะให้ทั้งสองได้สมรสกัน จากนั้นเป็นต้นมา ประตูพระราชวังอิมพิเรียลก็เปิดต้อนรับนายคุโรดะ โยชิกิมาโดยตลอด
ทรงหมั้น
ต่อมาได้มีการประกาศพิธีหมั้น เจ้าหญิงโนะริได้เตรียมตัวเป็นสามัญชนโดยการไปซื้อของใช้ที่ซุปเปอร์มาเก็ต และเรียนขับรถยนต์ในเขตพระราชวังอิมพิเรียล ตามธรรมเนียมญี่ปุ่น เจ้าหญิงไม่มีสิทธิ์ได้ขับรถยนต์มาก่อน แต่ในกรณีนี้เจ้าหญิงต้องขับรถยนต์ด้วยตัวเองให้ใด้ เพื่อนฝึกซ้อมพระองค์ให้ใช้ชีวิตแบบสามัญชน โดยปราศจากพระพี่เลี้ยง และคนคอยอารักขาดูแล และภายหลังแต่งงาน เจ้าหญิงจะต้องเปลี่ยนไปใช้นามสกุลของสามี และได้รับสิทธิ์ในการเลือกตั้ง โดยพระองค์ถือเป็นเจ้าหญิงองค์แรกแห่งราชสำนักญี่ปุ่นที่อภิเษกกับสามัญชนนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503 เป็นต้นมา
นายและนางคุโรดะ
เสกสมรสและการออกจากฐานันดรศักดิ์
เจ้าหญิงโนะริเข้าพิธีแต่งงานในวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2548 พระองค์ก็ได้เสด็จเข้าไปในห้องจัดเลี้ยงของโรงแรมพร้อมกับคุโรดะ โยชิกิ เจ้าบ่าว รวมทั้งพระสมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะ และสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะ เพื่อเข้าสู่การประกอบพิธีอภิเษกสมรส ซึ่งจะปฏิบัติตามพิธีกรรมของลัทธิชินโต และไม่มีการตัดเค้กแต่งงาน โดยหลังจากพิธีช่วงกลางวันเสร็จสิ้น เจ้าหญิงซายาโกะจะทรงเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเป็นชุดกิโมโน ซึ่งเป็นชุดประจำชาติของญี่ปุ่น เพื่อเข้าร่วมงานเลี้ยงรับรองในค่ำคืนนี้ท่ามกลางแขกกว่า 150 คน เจ้าหญิงจะต้องเปลี่ยนไปใช้นามสกุลของสามี และใด้รับสิทธ์ในการเลือกตั้ง โดยพระองค์ถือเป็นเจ้าหญิงองค์แรกแห่งราชสำนักญี่ปุ่นที่อภิเษกกับสามัญชนนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503 ตามกฎมนเทียรบาลของราชสำนักญี่ปุ่น เจ้าหญิงที่แต่งงานกับสามัญชน จะต้องสละฐานันดรกลายเป็นบุคคลชนชั้นสามัญ เจ้าหญิงซะยะโกะเองก็เช่นกัน พระองค์จะกลายเป็นสามัญชนอย่างเต็มตัว
ชีวิตหลังการเสกสมรส
หลังอภิเษกสมรสแล้ว อดีตเจ้าหญิงโนะริทรงวางแผนใช้ชีวิตอย่างสามัญชนโดยการเป็นแม่บ้าน และพักอาศัยอยู่ในอพาร์ทเมนต์ขนาดเล็ก ขนาด 60 ตารางเมตร และมีเงินค่าครองชีพเพียงเดือนละ 100,000 บาท ทางราชสำนักญี่ปุ่นได้มอบเงินจำนวน 152.5 ล้านเยน หรือประมาณ 53.4 ล้านบาท ที่พระองค์จะใด้รับตามกฎมนเฑียรบาล เงินจำนวนนี้ไม่มาก เมื่อเทียบกับความสุขสบายในพระราชวังที่พระองค์เคยดำรงชีวิตอยู่ และหลังพิธีแต่งงาน เจ้าหญิงจะต้องเปลี่ยนไปใช้นามสกุล "คุโรดะ" ตามสามี และจะต้องเสด็จออกนอกวังไปอยู่อพาร์เมนต์ทำหน้าที่ภรรยาเยี่ยงสามัญชนเต็มตัว
ปัจจุบันซะยะโกะเป็นนักบวชหญิงผู้ช่วยพิเศษของอะสึโกะ อิเกะดะ ผู้เป็นป้า ในศาลเจ้าอิเซะ ทั้งนี้ซะยะโกะจะช่วยแบ่งเบาภาระของอะสึโกะไปจนถึงเดือนตุลาคม พ.ศ. 2557
ราชวงศ์ญี่ปุ่นในปัจจุบัน
ฉายพระรูปร่วมกันโดยไม่มีเจ้าหญิงโนะริเพราะถือเป็นสามัญชน
- さゆり -
Sayuri